ประเด็นท้าทาย ผลการวิเคราะห์ข้อสอบปลายภาครายวิชาชีววิทยา เรื่องระบบภูมิคุ้มกัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 โดยใช้เทคนิค 27% เพื่อตรวจสอบคุณภาพของข้อสอบและใช้วัดประเมินผลตามความแตกต่างด้านการเรียนรู้ของผู้เรียน

 

1.  วีธีดำเนินการ

ผู้วิจัยดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเองโดยมีลำดับขั้นตอนดังนี้

       1.1  กลุ่มเป้าหมาย  ที่ใช้ในการศึกษาในครั้นนี้  ได้แก่

   นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1  โรงเรียนงำเมืองวิทยาคม  ภาคเรียนที่ 1  ปีการศึกษา 2567  จำนวน  32 คน 

1.2 ข้อมูลที่เก็บรวบรวม 

  การดำเนินการครั้งนี้ มุ่งวิเคราะห์ข้อสอบที่ใช้สอบปลายภาค จึงใช้กระดาษคำตอบของนักเรียนชนิดเลือกตอบ  เพื่อตรวจสอบคุณภาพของข้อสอบมีความเที่ยงตรง (Validity) และมีความเชื่อมั่น(Reliability) ความยากง่าย(p ) ค่าอำนาจจำแนก(r) และดูจากประสิทธิภาพตัวลวง

1.3  เครื่องมือที่ใช้

    กระดาษคำตอบของนักเรียนชั้นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/1ที่สอบวัดผลปลายภาควิชาชีววิทยา 4  เรื่องระบบภูมิคุ้มกัน จำนวน 10 ข้อ

      

1.4  การวิเคราะห์และการแปลความหมาย 

        วิธีการวิเคราะห์ข้อสอบ  วิธีการวิเคราะห์ข้อสอบ  สามารถทำได้ดังนี้

             1) วิเคราะห์ข้อสอบแบบอิงกลุ่ม  เป็นการวิเคราะห์ข้อสอบโดยตรวจกระดาษคำตอบแล้วเรียงคะแนนจากสูงไปหาต่ำ  แบ่งกระดาษออกเป็นกลุ่มสูง กลุ่มกลาง และกลุ่มต่ำ นำกระดาษคำตอบของกลุ่มสูงและกลุ่มต่ำมาตรวจนับ (Tally)  การตอบแต่ละตัวเลือก  หาค่าสถิติ

         การวิเคราะห์ข้อสอบแบบอิงกลุ่มด้วย“โปรแกรมวิเคราะห์ข้อสอบ”วิเคราะห์ได้จากการคีย์คำตอบจากกระดาษคำตอบของนักเรียน  โดยการเรียงคะแนนจากสูงไปหาต่ำ  แล้วแบ่งกลุ่ม  ดังนี้ 

                1. กระดาษคำตอบ32 แผ่นใช้เทคนิคการแบ่งกลุ่มร้อยละ 27 จะมี 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสูง กลุ่มต่ำ และกลุ่มกลาง (ตัดทิ้งไม่นำมาวิเคราะห์ข้อสอบ)  โดย  แบ่งได้กลุ่มสูง  9 แผ่น  กลุ่มต่ำ 9 แผ่น  กระดาษคำตอบที่เหลือเป็นกลุ่มกลาง 14  แผ่น  เป็นต้น

              2.  ต่อจากนั้นโปรแกรมฯ จะตรวจนับ (Tally) ตัวเลือกใน   แต่ละข้อ ทั้งกลุ่มสูงและกลุ่มต่ำ แล้วหาค่าความยากง่าย(p) ค่าอำนาจจำแนก(r) ประสิทธิภาพตัวลวง  และผลสรุปข้อสอบรายข้อ

                3.  ต่อจากนั้นโปรแกรมฯ จะหา  สถิติพื้นฐานข้อสอบทั้งฉบับ  ได้แก่  คะแนนต่ำสุด  คะแนนสูงสุด  คะแนนเฉลี่ย  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  ค่าความเชื่อมั่น  สัมประสิทธิ์การแปรผัน  ค่าเฉลี่ยความยากง่าย  และค่าเฉลี่ยอำนาจจำแนก

                หมายเหตุ

             1) กระบวนการตามข้อ 2. เป็นกระบวนการวิเคราะห์ข้อสอบรายข้อ  ผลที่ได้สามารถนำไปพัฒนาปรับปรุงข้อสอบให้มีคุณภาพ  นำไปสู่การสร้างข้อสอบมาตรฐาน  และนำไปสู่การสร้างธนาคารข้อสอบ

                2) กระบวนการตามข้อ 3. เป็นกระบวนการหาค่าสถิติ  ข้อสอบทั้งฉบับ  ผลที่ได้สามารถนำไปใช้ในการวิจัย  เพื่อสรุปว่าเครื่องมือที่สร้างมีคุณภาพเพียงใดโดยดูจากค่าสถิติที่ได้ ถ้าเครื่องมือยังไม่มีคุณภาพ  สามารถปรับข้อสอบรายข้อ ตามผลที่ได้จากกระบวนการข้อ 3.  แล้วทดลองวิเคราะห์ข้อสอบใหม่ เพื่อให้ได้เครื่องมือมีคุณภาพดียิ่งขึ้น และ สามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการวิจัยต่อไป

 

1.5   สถิติที่ใช้  การพิจารณาประสิทธิภาพตัวลวง  และเกณฑ์การเลือกข้อสอบที่มีคุณภาพ  ดังนี้

            ความยากง่าย (Difficulty)  หมายถึง ค่าที่แสดงว่าเครื่องมือนั้นหรือแบบทดสอบนั้นมีความยากหรือความง่ายเพียงใด แบบทดสอบที่ดี ควรมีค่าความยากง่ายปานกลาง การพิจารณาความยากง่ายของ -แบบทดสอบรายข้อ  หาได้จากสูตรดังนี้


เมื่อ   p แทน ความยากง่ายของข้อสอบ

      H     แทน    จำนวนคนที่ตอบถูกในกลุ่มสูง

      L     แทน   จำนวนคนที่ตอบถูกในกลุ่มต่ำ

        N     แทน   จำนวนคนในกลุ่มสูงและกลุ่มต่ำรวมกัน

     

   ค่าความยากง่ายจะมีค่าอยู่ระหว่าง  0.00  ถึง  1.00  โดยที่

         ถ้า 0.00 <= p < 0.20 แสดงว่า   ข้อสอบยากมาก

         ถ้า 0.20 <= p <0.40   แสดงว่า   ข้อสอบค่อนข้างยาก

ถ้า 0.40 <= p <= 0.60 แสดงว่า   ข้อสอบยากง่ายปานกลาง

         ถ้า 0.60 < p <= 0.80 แสดงว่า   ข้อสอบค่อนข้างง่าย

      ถ้า 0.80 < p <= 1.00 แสดงว่า   ข้อสอบง่ายมาก

 

          อำนาจจำแนก (Discrimination) หมายถึง ค่าที่แสดงว่าเครื่องมือ หรือแบบประเมินสามารถแยก นักเรียนเก่งและอ่อนได้ โดยคนเก่งจะตอบถูก ส่วนคนอ่อนจะตอบผิด  การพิจารณาอำนาจจำแนกของแบบทดสอบเป็น รายข้อ   แต่ละข้อหาได้จากสูตรดังนี้

        เมื่อ r แทน อำนาจจำแนกของข้อสอบ

         H   แทน    จำนวนคนที่ตอบถูกในกลุ่มสูง

L    แทน   จำนวนคนที่ตอบถูกในกลุ่มต่ำ

  N   แทน   จำนวนคนในกลุ่มสูงและกลุ่มต่ำรวมกัน

 

      ค่าอำนาจจำแนกจะมีค่าอยู่ระหว่าง   –1.00   ถึง   1.00   โดยที่

      ถ้าข้อสอบมีอำนาจจำแนกเป็น บวก แสดงว่า ข้อสอบข้อนั้นจำแนกได้

      ถ้าข้อสอบมีอำนาจจำแนกเป็น ลบ แสดงว่า  ข้อสอบข้อนั้นจำแนกตรงกันข้าม

                ถ้าข้อสอบมีอำนาจจำแนกเป็น  ศูนย์ แสดงว่า ข้อสอบข้อนั้นไม่มีอำนาจจำแนก หรือจำนวนนักเรียนตอบถูกในกลุ่มสูง และจำนวนนักเรียนตอบถูกในกลุ่มต่ำมีจำนวนเท่ากัน

      ข้อสอบที่มีอำนาจจำแนก  ได้แก่  ข้อสอบที่มีค่าอำนาจจำแนกมากกว่าหรือเท่ากับ 0.20

     

 

ประสิทธิภาพตัวลวง  

         ตัวลวง  หมายถึง  ตัวเลือกที่ผิด  ตัวลวงที่ดีควรมีลักษณะดังนี้

            1) มีคนเลือกอย่างน้อยร้อยละ 5

            2) จำนวนคนในกลุ่มสูงเลือกน้อยกว่ากลุ่มต่ำ 

      เกณฑ์การเลือกข้อสอบที่มีคุณภาพ  พิจารณาจากสิ่งต่อไปนี้

         1) ความยากง่าย  ควรมีค่าอยู่ระหว่าง  0.20 – 0.80

         2) อำนาจจำแนก  ควรมีค่าตั้งแต่  0.20  ขึ้นไป

 

2.  ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่คาดหวัง

2.1 เชิงปริมาณ

1)  ครูผู้สอนรู้คุณภาพของข้อสอบจำนวน 10ข้อ และสามารถปรับแก้ไข ข้อสอบได้ตรงเพื่อให้ได้ข้อสอบที่มีคุณภาพเช่น  ข้อสอบที่ยากไป  ข้อสอบมีอำนาจจำแนกหรือไม่  ใช้ภาษาถูกต้องหรือไม่ ตัวลวงบางตัวเลือกมีประสิทธิ ภาพหรือไม่  เป็นต้น  ซึ่งคุณภาพของข้อสอบดูจากค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) และดูจากประสิทธิภาพตัวลวง  ดังตารางและสรุปผลดังนี้

      ผลการวิเคราะห์ข้อสอบ

1.   ข้อสอบวิชา ชีววิทยา4  (ว32244) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 10ข้อ ชนิด 5 ตัวเลือก

    จำนวนกระดาษคำตอบ  32  คน

คะแนนต่ำสุด   1  คะแนน

คะแนนสูงสุด   9  คะแนน 

คะแนนเฉลี่ย   3.56

 

        2.  การวิเคราะห์ข้อสอบวิชา ชีววิทยา4  (ว32244) ข้อสอบจำนวน 10  ข้อ

1. ข้อที่ค่อนข้างง่าย อำนาจจำแนกดี  มี  1 ข้อ  คือ

ข้อ 9

2. ข้อที่ยากปานกลาง อำนาจจำแนกดี  มี  5  ข้อ  คือ

ข้อ 2 , 3 , 4.2 ,6 , 8

3. ข้อที่ค่อนข้างยาก อำนาจจำแนกดี  มี  3  ข้อ  คือ

ข้อ 1 , 4.1 , 5, 7

ข้อสอบที่ควรปรับปรุง ได้แก่

-          ไม่มี  -

ตารางวิเคราะห์ค่าความยากง่าย (P) และค่าจำแนก  (r)

ข้อสอบรายวิชา ชีววิทยา รหัสวิชา ว 32244 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567

ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6/1   จำนวนผู้เข้าสอบ 32 คน  จำนวนคนกลุ่มสูง/ต่ำ  18 คน