Performance Agreement

ระดับความสำเร็จในการพัฒนางานที่เสนอเป็นประเด็นท้าทายในการพัมนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน

ประเด็นท้าทาย เรื่อง  การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนเรื่องตรรกศาสตร์ โดยใช้เกมออนไลน์ ZEP quiz
                          สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 

1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้

             จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรายวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง “ตรรกศาสตร์” พบว่า นักเรียนจำนวนมากมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ (ไม่ถึงร้อยละ 50) และมีพฤติกรรมเบื่อหน่ายในการเรียน ไม่กล้าตอบคำถาม ขาดความมั่นใจในการวิเคราะห์เงื่อนไขเชิงตรรกะ รวมถึงไม่สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม บางคนยังมีทัศนคติลบต่อวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเรียนรู้และผลสัมฤทธิ์โดยรวม 

2. แนวทางการดำเนินงาน
          จากประเด็นท้าทายที่พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนงำเมืองวิทยาคม มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในบทเรียน “ตรรกศาสตร์” ต่ำกว่ามาตรฐาน และขาดความสนใจในการเรียน เนื่องจากเนื้อหามีลักษณะนามธรรม ใช้ภาษาสัญลักษณ์ และต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ผู้สอนจึงได้วางแนวทางการพัฒนาโดยนำ เกมออนไลน์ ZEP Quiz ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์ในลักษณะของ Game-based Learning มาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ดำเนินการวางแผนและจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 3 แผน (3 คาบเรียน) ที่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ในเรื่องตรรกศาสตร์ ได้แก่ ความเข้าใจในตัวเชื่อมทางตรรกะ การแปลประโยคเป็นภาษาสัญลักษณ์ และการพิจารณาความจริงของประโยค รวมถึงออกแบบแบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน และแบบประเมินพฤติกรรมการมีส่วนร่วมและทัศนคติของนักเรียน  กิจกรรมที่ดำเนินการแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่

• ช่วงนำเข้าสู่บทเรียน โดยใช้เกม ZEP Quiz เพื่อทดสอบความรู้เดิม

• ช่วงเรียนรู้ มีการใช้เกมในการแข่งขันตอบคำถาม การจับคู่ การแปลข้อความ การวิเคราะห์ตัวเชื่อม และการเลือกคำตอบ

• ช่วงสรุปและสะท้อนผล ให้นักเรียนวิเคราะห์คำตอบที่ผิด ร่วมกันอธิบายเหตุผล พร้อมให้ครูสรุปและเชื่อมโยงกับแนวคิดทางตรรกศาสตร์

3. ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน
3.1 ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
  จากการเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนทั้ง 28 คน พบว่า:

รายการ            คะแนนเฉลี่ย (เต็ม 100)         ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ก่อนเรียน 41.79                                  10.21
หลังเรียน 76.43 8.57 

• นักเรียนทั้งหมดมีผลการเรียนเพิ่มขึ้น

• ร้อยละ 85.71 ของนักเรียน (24 จาก 28 คน) มีคะแนนหลังเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60

• แสดงให้เห็นว่าการใช้เกม ZEP Quiz มีประสิทธิผลในการช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาตรรกศาสตร์ได้ดีขึ้น

3.2 ด้านพฤติกรรมการเรียนรู้และการมีส่วนร่วม

• นักเรียนมีความกระตือรือร้นและสนใจบทเรียนมากขึ้นอย่างชัดเจน

• มีการมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม แสดงความคิดเห็น และแข่งขันอย่างสร้างสรรค์

• นักเรียนกล้าที่จะตอบคำถามและไม่กลัวการผิดพลาด เพราะสามารถเรียนรู้จากเกมได้ทันที

• สร้างบรรยากาศในชั้นเรียนที่มีความสนุก ผ่อนคลาย และส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน

3.3 ด้านเจตคติและความพึงพอใจของผู้เรียน
  จากแบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 10 ข้อ ในระดับ 5 คะแนน พบว่า:

รายการ ค่าเฉลี่ย ระดับความคิดเห็น
ความสนุกของกิจกรรม 4.72 มากที่สุด
ความเข้าใจเนื้อหาหลังเรียน 4.51 มาก
ความเหมาะสมของการใช้เกมกับบทเรียนตรรกศาสตร์ 4.60 มาก
ความพึงพอใจโดยรวม 4.68 มากที่สุด

• นักเรียนส่วนใหญ่ระบุว่า รู้สึกสนุก เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น และอยากให้ใช้รูปแบบนี้ในบทเรียนอื่น ๆ ด้วย

• หลายคนสะท้อนว่า "การเรียนไม่เครียดเหมือนเดิม" และ "สามารถเข้าใจตรรกศาสตร์ได้มากขึ้น"

3. ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการดำเนินงาน

1.       การเลือกใช้สื่อที่เหมาะสมกับผู้เรียนยุคใหม่
เกม ZEP Quiz ตอบโจทย์ผู้เรียนในยุคดิจิทัล ที่คุ้นเคยกับการใช้งานเทคโนโลยี และชอบการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม

2.       การออกแบบกิจกรรมที่หลากหลายและกระตุ้นความคิด
คำถามในเกมถูกออกแบบให้มีทั้งระดับง่าย กลาง และยาก เพื่อให้เหมาะกับนักเรียนทุกกลุ่ม

3.       การสะท้อนผลการเรียนรู้แบบทันที (Immediate Feedback)
เมื่อนักเรียนตอบคำถามผิด ระบบจะเฉลยในทันที ทำให้เกิดการเรียนรู้และจดจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.       การส่งเสริมการเรียนรู้แบบกลุ่ม
การแข่งขันกันแบบกลุ่มช่วยกระตุ้นการช่วยเหลือกัน และเพิ่มความมั่นใจในการแสดงออก

4. ข้อเสนอแนะและแนวทางการต่อยอด

• ควรขยายผลการใช้เกม ZEP Quiz ไปยังบทเรียนอื่น ๆ ในวิชาคณิตศาสตร์ เช่น ความน่าจะเป็น หรือการให้เหตุผล

• ส่งเสริมให้ครูในกลุ่มสาระอื่น ๆ ลองใช้เกมออนไลน์ในการสอน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ในรายวิชาอื่น

• นักเรียนควรได้รับโอกาสให้มีส่วนร่วมในการสร้างคำถาม หรือออกแบบเกมเอง เพื่อยกระดับทักษะการคิดขั้นสูง

• โรงเรียนควรจัดอบรมครูในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning อย่างต่อเนื่อง

• ควรมีการติดตามผลในระยะยาว เพื่อตรวจสอบว่าผลสัมฤทธิ์ที่เพิ่มขึ้นนั้นคงอยู่หรือไม่