ประเด็นท้าทาย
พื้นที่ผิวและปริมาตรในชีวิตประจำวัน
ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568
โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning
สภาพการจัดการเรียนรู้ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นักเรียนเกิดปัญหาทำโจทย์การหาพื้นที่ผิวและปริมาตร ปัญหาดังกล่าวเกิดจากนักเรียนไม่ได้ค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเอง จึงไม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้องส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
ขั้นที่ 1 ขั้นวางแผน
วิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้และผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ตามหลักสูตรสถานศึกษา และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2561)
ออกแบบวิธีการจัดการเรียนรู้การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว ของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
ปรับปรุงหน่วยการเรียนรู้ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร
โดยการวิเคราะห์เนื้อหาและกำหนดเนื้อหาเพื่อความเหมาะสมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning
ขั้นที่ 2 ขั้นปฏิบัติ
จัดการเรียนรู้กับผู้เรียนกลุ่มเป้าหมาย
เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สร้างสื่อการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยเป็นสื่อที่ทำให้นักเรียนสามารถค้นพบองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง ที่เกี่ยวข้องกับรูปทรงเรขาคณิตที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ขั้นที่ 3 การตรวจสอบ
ผลของการการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
การหาพื้นที่ผิวและปริมาตรในชีวิตประจำวัน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ขั้นที่ 4 การปรับปรุงแก้ไข (Act)
1. รวบรวมปัญหา และปรับปรุงแก้ไขขั้นตอนวิธีการจัดการเรียนรู้
เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
2. นำประเด็นดังกล่าวเข้าสู่วง PLC ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางการพัฒนาตามประเด็น
3. ศึกษาตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาแล้วจัดทำเป็นสารสนเทศ
เพื่อใช้แก้ปัญหาในรอบปีถัดไป จัดกิจกรรมการสอนพื้นที่ผิวและปริมาตร
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
จากการดําเนินการจัดการเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ประเมินจากผลงานของนักเรียนถือว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 28 คน
ร้อยละ 77.12 มีความรู้และทักษะผ่านเกณฑ์ และช่วยพัฒนาทักษะเรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตรเพิ่มขึ้นร้อยละในระดับที่ดี