จากการจัดการเรียนรู้ที่ผ่านมาในเรื่อง วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นักเรียนยังขาดทักษะและความสามารถในการวิเคราะห์วงจร มีความสับสนในการให้เหตุผลทางไฟฟ้า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากนักเรียนไม่ได้ค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเอง เมื่อพบสถานการณ์ต่าง ๆ ในโจทย์ของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ จึงไม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 เรื่องวงจรอิเล็กทรอนิกส์ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด

         ได้มีการศึกษาสภาพปัญหาในการจัดการเรียนของนักเรียนในระดับชั้น และสร้างกลุ่ม PLC เพื่อหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน

2.1 วิเคราะห์ตัวชี้วัดและหลักสูตร

วิเคราะห์ตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับ เรื่อง วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2560) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ พุทธศักราช 2566 เพื่อกำหนดขอบเขตและเป้าหมายการเรียนรู้ที่ชัดเจน .

2.2 ปรับปรุงหน่วยการเรียนรู้

ปรับปรุงหน่วยการเรียนรู้ เรื่อง วงจรอิเล็กทรอนิกส์ โดยวิเคราะห์เนื้อหาและกำหนดหัวข้อให้เหมาะสมกับการจัดกิจกรรมแบบ Active Learning ดังนี้:

1. องค์ประกอบและสัญลักษณ์ในวงจรอิเล็กทรอนิกส์

2. วงจรไฟฟ้ากระแสตรงเบื้องต้น

3. วงจรอนุกรมและวงจรขนาน

4. วงจรไฟฟ้ากระแสสลับเบื้องต้น

2.3 เขียนแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

เขียนแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ตามเนื้อหาที่กำหนดในหน่วยการเรียนรู้ โดยเน้นการจัดกิจกรรมแบบ Active Learning ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง แผนการสอนนี้จะรองรับทั้งการเรียนในห้องเรียนและสถานการณ์ที่มีข้อจำกัด เช่น การเรียนออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ เมื่อสภาพอากาศไม่อำนวย

2.4 สร้างและพัฒนาสื่อนวัตกรรม

สร้างและ/หรือพัฒนาสื่อนวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ให้สอดคล้องกับแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning เช่น ชุดทดลองวงจรอิเล็กทรอนิกส์, โปรแกรมจำลองวงจรไฟฟ้า (เช่น Tinkercad), และวิดีโอสาธิตการประกอบวงจร เพื่อพัฒนาทักษะปฏิบัติและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน

2.5 ประเมินผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน

ประเมินผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน เรื่อง วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 ด้วยแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อวัดพื้นฐานความรู้เดิมของนักเรียน.

2.6 จัดกิจกรรมการเรียนรู้

จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนที่กำหนด โดยมีผู้บริหาร หัวหน้ากลุ่มสาระ หรือครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ร่วมสังเกตการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียน และสะท้อนผลการสอน เพื่อนำไปใช้ในการปรับปรุงแผนการจัดกิจกรรมและสื่อการเรียนรู้ต่อไป.

2.7 ประเมินผลสัมฤทธิ์หลังเรียน

ประเมินผลสัมฤทธิ์หลังเรียน เรื่อง วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 ด้วยแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อวัดพัฒนาการและความเข้าใจที่เพิ่มขึ้น.

2.8 ปรับปรุงและพัฒนา

ปรับปรุงหรือพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และสื่อการเรียนรู้ให้มีคุณภาพมากขึ้นตามผลการสะท้อนการสอนและผลการประเมินหลังเรียน เพื่อให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพสูงสุด.

3.1 เชิงปริมาณ

   ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6/2 ที่ได้เรียนโดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด (ร้อยละ 60 ของคะแนนเต็ม) คิดเป็นร้อยละ 70 ขึ้นไปจากจำนวนนักเรียนทั้งหมด

3.2 เชิงคุณภาพ

   นักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง และนำองค์ความรู้ที่ได้มาใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 โดยใช้วิธีการสอนแบบ TGT สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 โดยใช้วิธีการสอนแบบ TGT ก่อนเรียนและหลังเรียนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนอยู่ที่ 3.31 คะแนน และค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนอยู่ที่ 8.33 คะแนน

3. ความพึงพอใจต่อการเรียนวิชา วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 โดยวิธีการสอนแบบ TGT อยู่ในระดับมาก