ประเด็นท้าทายเรื่อง
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
เรื่อง เครื่องดนตรีพื้นบ้านภาคใต้ โดยการจัดการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) ตามแนวคิด Constructivism และ Cooperative Learning
ประเด็นท้าทายเรื่อง
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
เรื่อง เครื่องดนตรีพื้นบ้านภาคใต้ โดยการจัดการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) ตามแนวคิด Constructivism และ Cooperative Learning
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ผู้เรียน
จากการจัดการเรียนรู้รายวิชาศิลปศึกษา (ดนตรีไทย) พบว่าผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ส่วนใหญ่ยังคงเรียนรู้แบบท่องจำ ไม่สามารถอธิบายความเชื่อมโยงของเนื้อหาเรื่องวงดนตรีพื้นเมืองภาคใต้ได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้การเรียนรู้จำกัดอยู่ที่การจดจำข้อเท็จจริง มากกว่าการคิดวิเคราะห์และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
นอกจากนี้ ผู้เรียนยังมองว่าดนตรีพื้นเมืองภาคใต้เป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องเฉพาะของผู้สูงอายุ ไม่เห็นคุณค่าเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน จึงมีแรงจูงใจในการเรียนต่ำ ส่งผลให้ผลการประเมินความรู้และทักษะยังอยู่ในระดับที่ต้องพัฒนา
ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม ลงมือปฏิบัติ ค้นพบ และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดความเข้าใจเชิงลึก เชื่อมโยงกับบริบทวัฒนธรรม และนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้น พร้อมทั้งปลูกฝังความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาท้องถิ่น ข้าพเจ้าจึงกำหนด ประเด็นท้าทาย เรื่อง “การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง เครื่องดนตรีพื้นบ้านภาคใต้ โดยการจัดการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) ตามแนวคิด Constructivism และ Cooperative Learning" เพื่อเปลี่ยนการเรียนรู้จากการท่องจำ สู่การลงมือปฏิบัติจริงและการสร้างองค์ความรู้เชิงลึก โดยกิจกรรมถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “นักสืบเสียงแห่งอดีต” โดยผู้เรียนจะได้รับโจทย์ในรูปแบบ แฟ้มคดี ที่บรรจุข้อมูล วัสดุ และหลักฐานเชิงสัญลักษณ์เกี่ยวกับวงดนตรีพื้นเมืองภาคใต้ เพื่อนำไปสืบค้น วิเคราะห์ ตีความ และสร้างความรู้ใหม่ร่วมกันอย่างมีความหมาย อีกทั้งยังช่วยเสริมแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 ขั้นเตรียมความรู้
1) สร้างแรงจูงใจและความสนใจในเนื้อหาเชื่อมโยงความรู้เดิมกับประเด็นที่จะเรียน
2) แจกแจงโจทย์หรือ “แฟ้มคดี” เกี่ยวกับวงดนตรีพื้นเมืองภาคใต้
2.2 ขั้นปฏิบัติการเรียนรู้
1) ผู้เรียนทำงานกลุ่ม สืบค้น วิเคราะห์ และตีความข้อมูล
2) การดำเนินการสอนตามรูปแบบ Constructivism และ Cooperative โดยใช้กิจกรรม
“นักสืบสืบคดี”
แบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่มย่อยเพื่อทำหน้าที่ “นักสืบสืบคดี”
แต่ละกลุ่มได้รับ “แฟ้มคดี” ที่บรรจุโจทย์และข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเครื่องดนตรีพื้นบ้านภาคใต้
ผู้เรียนร่วมกันสืบหาคำตอบเพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ วิเคราะห์ข้อมูล และอภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ในกลุ่ม เพื่อสร้างความเข้าใจและองค์ความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism)
ครูทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำ
2.3 ขั้นสะท้อนผลและพัฒนา
1) นำเสนอผลการเรียนรู้และอภิปรายร่วมกัน
ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มนำผลการสืบค้นมาแลกเปลี่ยนและสรุปองค์ความรู้ร่วมกันทั้งชั้นเรียนเพื่อเชื่อมโยงความรู้และสร้างความเข้าใจที่สมบูรณ์
ประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทำแบบทดสอบหลังเรียน
2) ครูและผู้เรียนร่วมสะท้อนความคิดเห็น จุดเด่นและจุดที่ควรพัฒนา
3) สรุปองค์ความรู้เชิงลึก และต่อยอดสู่การเห็นคุณค่าและความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมท้องถิ่น
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียน ร้อยละ 80 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
ผู้เรียน ร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์การประเมินเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้เชิงปฏิบัติและการทำงานกลุ่ม ระดับดีขึ้นไป
3.2 เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนเกิด ความกระตือรือร้นและใฝ่รู้ในการเรียนรู้ มีทัศนคติที่ดีต่อวิชาดนตรีไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมท้องถิ่นของตนเอง
ผลการจัดการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจริง
นักเรียนร้อยละ 92 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ที่กำหนด (สูงกว่าค่าเป้าหมายที่กำหนด)
นักเรียนร้อยละ 100 ผ่านเกณฑ์การประเมินการเข้าร่วมกิจกรรมเชิงปฏิบัติและการทำงานกลุ่ม ระดับดีขึ้นไป (สูงกว่าค่าเป้าหมายที่กำหนด)
ผู้เรียนส่วนใหญ่มีทัศนคติที่ดีขึ้นต่อวิชาดนตรีไทย สนุกกับการเรียน และเกิดความภาคภูมิใจในเครื่องดนตรีพื้นบ้านภาคใต้