บันทึกข้อตกลงในการพัฒนางาน(1/68)
(Performance Agreement : PA)
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
ระหว่างวันที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2567 ถึงวันที่ 30 เดือน กันยายน พ.ศ. 2568
ระบบติดตามคะแนนและการส่งงานในรายวิชาครูคเณศ
บันทึกข้อตกลงในการพัฒนางาน(1/68)
(Performance Agreement : PA)
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
ระหว่างวันที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2567 ถึงวันที่ 30 เดือน กันยายน พ.ศ. 2568
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การแก้ปัญหาการเรียนรู้เรื่องไวยากรณ์ภาษาอังกฤษโดยใช้เกมเป็นฐานสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
๑. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้
การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งถือเป็นภาษาที่สองมักเกิดปัญหาในการเรียนรู้เชิงจิตวิทยา กล่าวคือ ผู้เรียนขาดความใส่ใจหรือขาดแรงจูงใจในกาเรียนรู้ภาษาอังกฤษอันเนื่องมาจาก Language Barrier หรือ อุปสรรคทางภาษา ผู้เรียนไม่คุ้นชิน ไม่เข้าใจความหมาย และขาดความมั่นใจ ในการใช้ภาษาอังกฤษ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ส่วนใหญ่ประสบปัญหาในการตีความหมายของป้ายประกาศและสัญลักษณ์ในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่งผลต่อทักษะการอ่าน การตีความ และการเข้าใจเนื้อหาภาษาอังกฤษที่ซับซ้อน โดยปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการขาดความคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษในบริบทต่าง ๆ ที่พบเจอในชีวิตจริง ทำให้นักเรียนขาดทักษะการสังเกตและการวิเคราะห์เพื่อแปลความหมายของข้อมูลในป้ายแต่ละประเภท นอกจากนี้ นักเรียนยังมีความลังเลในการใช้งานภาษาอังกฤษ เนื่องจากไม่มั่นใจในโครงสร้างไวยากรณ์และคำศัพท์ที่ถูกต้อง ส่งผลให้ไม่สามารถใช้ทักษะการอ่านและตีความในระดับที่สูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดการเรียนรู้จะเน้นให้ผู้เรียนได้สัมผัสกับป้ายประกาศและสัญลักษณ์ในชีวิตจริง โดยใช้สื่อที่เกี่ยวข้อง เช่น ป้ายในโรงเรียนหรือสถานที่สาธารณะ และส่งเสริมให้นักเรียนได้ฝึกฝนทักษะการตีความและวิเคราะห์ภายใต้บริบทที่ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีการจัดทำชิ้นงานเชิงปฏิบัติ เช่น การเขียนบรรยายหรือถ่ายวิดีโออธิบายป้ายแต่ละประเภท ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนเกิดความเข้าใจและมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งเพิ่มทักษะการสื่อสารและการอธิบายอย่างเป็นระบบ
การฝึกฝนเชิงปฏิบัติในหน่วยการเรียนนี้จะช่วยให้ผู้เรียนมีทักษะการสังเกต การวิเคราะห์ และการตัดสินใจในการเลือกใช้ภาษาอย่างเหมาะสม อีกทั้งจะช่วยสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ทำให้ผู้เรียนมีแรงจูงใจในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่องและมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จในอนาคต
จากข้อมูลข้างต้นจึงสรุปได้ว่า การใช้การวิเคราะห์ป้ายและสัญลักษณ์ในชีวิตจริงเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้นั้น สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งสร้างความสนุกสนานและความเข้าใจผ่านการเชื่อมโยงกับบริบทในชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ในรูปแบบนี้เป็นการฝึกกระบวนการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง ทั้งยังส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะในการตีความและการใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจและเป็นธรรมชาติ ยิ่งไปกว่านั้น การใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ เช่น การถ่ายวิดีโอและการนำเสนอผ่านสื่อออนไลน์ ยังช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ด้วยเหตุนี้ การฝึกตีความป้ายและสัญลักษณ์ในบริบทจริงจึงเป็นแนวทางที่ท้าทายและเหมาะสมสำหรับการพัฒนาทักษะการอ่านและวิเคราะห์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 อย่างมีประสิทธิภาพ
๒. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
เพื่อให้การแก้ปัญหาดังกล่าวเกิดประสิทธิภาพ จึงใช้หลักการ ADLI ในการวางแผนและปฏิบัติดังนี้
๒.๑ ขั้นการวางแนวทาง Approach
๒.๑.๑ ชี้แจงจุดประสงค์ให้ผู้เรียนเข้าใจถึงความสำคัญของการหาใจความสำคัญของบทความ
๒.๑.๒ จัดเตรียมข้อมูลหรือแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการระบุ Main Idea
๒.๑.๓ จัดการเรียนรู้แบบอุปนัย (Inductive) โดยให้ผู้เรียนวิเคราะห์และหาใจความสำคัญของบทความด้วยตนเอง
๒.๒ ขั้นตอนการนำไปปฏิบัติ Deploy
๒.๒.๑ ผู้เรียนเลือกบทความและระบุ Main Idea ที่ตนสนใจ
๒.๒.๒ ผู้สอนทดสอบความเข้าใจของผู้เรียนเกี่ยวกับการหาใจความสำคัญของบทความ
๒.๓ ขั้นตอนการเรียนรู้ Learning
๒.๓.๑ ผู้เรียนทบทวนความเข้าใจของตนเกี่ยวกับการหาใจความสำคัญของบทความ
๒.๓.๒ ผู้เรียนแลกเปลี่ยนผลการวิเคราะห์กับเพื่อนเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและความคงทนของความรู้
๒.๔ ขั้นตอนการบูรณาการ Integration
๒.๔.๑ ผู้เรียนนำความรู้และทักษะที่ได้จากการหาใจความสำคัญของบทความไปประยุกต์ใช้ในเรื่องอื่น ๆ
๓. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
๓.๑ เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ อย่างน้อยร้อยละ ๗๕ จะสามารถหาใจความสำคัญของบทความได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
๓.๒ เชิงคุณภาพ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ จะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในหน่วยการเรียนรู้เกี่ยวกับการหาใจความสำคัญของบทความไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๗๕