FAQ คำถามที่พบบ่อย
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ตามประกาศมหาวิทยาลัยค่าเดินทางไปปฏิบัติงาน 23 กันยายน 2563)
คำถาม : การขออนุมัติเดินทางไปปฏิบัติงานจะต้องขอระยะเวลาในการเดินทางอย่างไร
คำตอบ : สิทธิที่จะได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบติงานเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติให้เดินทาง โดยให้ผู้มีอำนาจอนุมัติให้เดินทางไปปฏิบัติ
งานได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม ดังนั้น ผู้ขออนุมัติเดินทางจะต้องขออนุมัติเดินทางให้ครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่เดินทางไปและเดิน
ทางกลับถึงที่พัก
คำถาม : หากผู้ขออนุมัติมีความประสงค์จะลากิจ / ลาพักร้อน/ติดวันหยุดราชการ จะขอได้หรือไม่ และ จะขออนุมัติเดินทางอย่างไร
คำตอบ : ได้ ซึ่งผู้ขออนุมัติต้องขออนุมัติระยะเวลาในการเดินทางครอบคลุมตั้งแต่ออกจากที่พัก จนกลับถึงที่พัก หากเป็นการลากิจหรือลาพักร้อนให้แนบใบลากิจหรือลาพักร้อนประกอบด้วย ยกตัวอย่างเช่น งานจัดฝึกอบรมวันที่จัดงาน วันจันทร์ที่ 19 ถึงวันอังคารที่ 20 ม.ค. 65 แต่มีความประสงค์จะลาพักร้อนตั้งแต่วันศุกร์ 16 ม.ค. 65 ดังนั้น การขออนุมัติจะต้องขออนุมัติเดินทางตั้งแต่วันที่ 16-21 ม.ค. 65 พร้อมแนบใบลาพักร้อนประกอบ
คำถาม : จากคำถามข้อที่ 2 สิทธิได้รับค่าใช้จ่ายในการไปปฏิบัติงานได้อย่างไร
คำตอบ : หากเดินทางไปก่อน สิทธิได้รับค่าใช้จ่ายจะได้ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติงานเป็นต้นไป และ กลับหลังสิทธิในการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงเดินทงสิ้นสุดลงเมื่อสิ้นสุดเวลาการปฏิบัติงาน ทั้งนี้ยกเว้นในกรณีที่ผู้เดินทางไปปฏิบติงานมีเหตุจำเป็นหรือเหตุสุดวิสัย เช่นสถานการณ์ไม่ปลอดภัย เกิดภัยธรรมชาติหรืออื่น ๆ ให้อยู่ในดุลพินิจผู้มีอำนาจอนุมัติ
คำถาม : การเดินทางไปปฏิบัติงาน ในกรณีที่ผู้จัดจัดอาหารให้แก่ผู้เข้าร่วมจะคิดค่าเบี้ยเลี้ยงอย่างไร
คำตอบ : ให้หักค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางในอัตรามื้อละ 1 ใน 3 ของอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงต่อวัน ค่าเบี้ยเลี้ยงได้วันละ 300 บาท หัก 1/3 คือ มื้อละ 100 บาท
คำถาม : ค่าที่พักในการเดินทางไปปฏิบัติงาน จะต้องพักอย่างไร
คำตอบ : หากเดินทางคนเดียว จะเลือกเบิกค่าเช่าที่พักในลักษณะจ่ายจริงหรือเหมาจ่ายก็ได้ แต่หากเดินทางเป็นหมู่คณะฯ กำหนดให้พักรวมกันสองคนขึ้นไปต่อหนึ่งห้อง ให้เบิกค่าที่พักได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกินอัตราค่าเช่าห้องพักคู่ เว้นแต่กรณีไม่เหมาะสมหรือเป็นโรคติดต่อร้ายแรงโดยมีใบรับรองแพทย์ให้เบิกเท่าที่จ่ายจริงไม่เกินอัตราค่าเช่าห้องพักคนเดียว สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งระดับเชี่ยวชาญขึ้นไปรวมทั้งบุคคลภายนอกที่คณบดีเห็นสมควรจะเบิกในอัตราค่าเช่าห้องพักคนเดียวหรือห้องพักคู่ก็ได้
คำถาม : การจ่ายเงินล่วงหน้ารวมท้งค่ายกเลิกตั๋วเดินทาง หรือค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง เบิกได้หรือไม่
คำตอบ : ได้ ให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริง ในกรณีส่วนราชการหรือหน่วยงานเป็นเหตุ กรณีเกิดสถานการณ์ไม่ปกติ ภัยธรรมชาติ หรือกรณีเจ็บป่วยที่ไม่สามารถเดินทางได้โดยมีใบรับรองแพทย์ประกอบการเบิกจ่าย
คำถาม : ค่าเบี้ยเลี้ยงได้อัตราวันละเท่าไหร่
คำตอบ : ทุกประเภท/ตำแหน่งเบิกในลักษณะเหมาจ่าย ได้ในอัตราวันละ 300บาท/วัน
คำถาม : การนับเวลาเดินทางไปปฏิบัติงานเพื่อคำนวณเบี้ยเลี้ยงเดินทาง นับอย่างไร
คำตอบ : ให้นับตั้งแต่เวลาออกจากสถานที่อยู่หรือสถานที่ปฏิบัติงานตามปกติจนกลับถึงสถานที่อยุ่หรือสถานที่ปฏิบัติงานตามปกติแล้วแต่กรณีดังนี้
1. กรณีที่มีการพักแรมให้นับ 24 ชม. เป็น 1 วัน ถ้าไม่ถึง 24 ชม. หรือเกิน 24 ชม. และส่วนที่ไม่ถึงหรือเกิน 24 ชม. นั้นนับได้เกิน 12 ชม.
ให้ถือเป็น 1 วัน
2. กรณีมิได้มีการพักแรม หากนับได้ไม่ถึง 24 ชม. และส่วนที่ไม่ถึงนับได้เกิน 12 ชม. ให้ถือเป็น 1 วัน หากนับได้ไม่เกิน 12 ชม. แต่เกิน
6 ชม. ให้ถือเป็นครึ่งวัน
คำถาม : ค่าเช่าที่พัก หากเดินทางไปปฏิบัติงานในท้องที่ที่มีค่าครองชีพสูง แหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะต้องจ่ายค่าที่พักสูงกว่าอัตราที่กำหนดเบิกได้หรือไม่และเบิกอย่างไร
คำตอบ : ได้ โดยผู้เดินทางต้องชี้แจงเหตุผลประกอบนำเสนอผู้มีอำนาจอนุมัติโดยให้อยู่ในดุลพินิจ ซึ่งจะสามารถเบิกค่าเช่าที่พักเพิ่มได้อีกไม่เกินร้อยละ 25 ของอัตราค่าที่พักที่กำหนด
คำถาม : การเดินทางโดยยานพาหนะประจำทาง เป็นอย่างไร และ เบิกอย่างไร
คำตอบ : 1. โดยปกติให้เดินทางโดยยานพาหนะประจำทางและเบิกได้โดยประหยัด
2. เดินทางโดยรถไฟและรถทัวร์ เบิกเท่าที่จ่ายจริงโดยแนบหลักฐานการจ่ายประกอบ
3. เดินทางโดยเครื่องบิน ระดับคณบดี ให้โดยสารชั้นธุรกิจ สำหรับผู้ปฏิบัติงานตำแหน่งอื่น ๆ ให้โดยสารชั้นประหยัด หากจำเป็นต้อง
นั่งสูงกว่าสิทธิเพื่อประโยชน์ของมหาวิทยาลัยและส่วนงานให้ชี้แจงเหตุผลให้อยู่ในดุลพินิจผู้มีอำนาจอนุมัติ
คำถาม : การเดินทางโดยพาหนะรับจ้างเบิกได้กรณีใดบ้าง
คำตอบ : 1. เดินทางไปกลับระหว่างที่พักกับสถานที่ปฏิบัติงานหรือสถานียานพาหนะประจำทาง ภายในเขตจังหวัดเดียวกัน
2. เดินทางไปกลับระหว่างที่พักกับสถานที่ปฏิบัติงานภายในเขตจังหวัดเดียวกันวันละสองเที่ยว
3. เดินทางไปปฏิบัติงานในเขตกรุงเทพฯ
4. ไปในพื้นที่ไม่มียานพาหนะประจำหรือมีแต่ต้องการความรวดเร็วเพื่อประโยชน์ของมหาวิทยาลัย หรือนำสิ่งของทางที่จำเป็นต้องเอา
เดินทางไปด้วยทำให้ไม่สะดวก จึงจำเป็นต้องนั่งรถรับจ้าง ให้ผู้เดินทางชี้แจงเหตุผลประกอบ
คำถาม : ค่ารถรับจ้างข้ามเขตจังหวัดเบิกได้หรือไม่และเบิกได้เท่าไหร่
คำตอบ : เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกินอัตรา 600 บาทต่อเที่ยว
คำถาม : ค่าพาหนะส่วนตัวไปปฏิบัติงานเบิกได้หรือไม่และจะเบิกได้ในอัตราเท่าไหร่
คำตอบ : ได้ โดยให้แนบเส้นทางของกรมทางหลวงในทางสั้นและตรง หรือระยะทางของหน่วยงานอื่นที่ตัดผ่าน หากไม่มีผู้เดินทางเป็นผู้รับรองระยะทาง หลักฐานที่ใช้ประกอบคือใบรับรองแทนใบเสร็จ โดยผู้เดินทางเขียนรายละเอียดการเดินทางจากจุดใดไปจุดใด ระยะทางเท่าไหร่ โดยมีอัตราเงินชดเชยค่าพาหนะรถส่วนบุคคลดังนี้
1) รถยนต์ กิโลเมตรละ 4 บาท
2) รถจักรยานยนต์ กิโลเมตรละ 2 บาท
คำถาม : ค่าเครื่องบินเบิกค่าใช้จ่ายอะไรได้บ้าง และ มีค่าใช้จ่ายอะไรที่เบิกไม่ได้
คำตอบ : ให้เบิกค่าใช้จ่ายได้เฉพาะ ค่าพาหนะ รวมถึงค่าสัมภาระและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ยกเว้น ค่าบริการเลือกที่นั่ง ค่าบริการอาหารและเครื่องดื่ม
ค่าประกันชีวิตหรือค่าประกัยภาคสมัครใจ จะเบิกไม่ได้คำถาม : หลักฐานการเบิกค่าเช่าที่พัก แนบอย่างไร
คำตอบ : แนบใบเสร็จรับเงินหรือใบแจ้งรายการค่าเช่าที่พัก ซึ่งต้องมีรายละเอียดวันที่เข้า-ออก จากที่พัก อัตราค่าห้องพัก
16.คำถาม : กรณีเบิกค่าเช่าที่พักโดยผ่านตัวแทนจำหน่าย ต้องทำอย่างไร
คำตอบ : แนบใบเสร็จรับเงินของตัวแทนจำหน่ายเป็นหลักฐานประกอบการเบิกค่าเช่าที่พักได้
17. คำถาม : การยืมเงินและการส่งใช้เงินยืมค่าเดินทางไปปฏิบัติงาน ทำอย่างไร
คำตอบ : ก่อนเดินทาง ให้ผู้เดินทางส่งหนังสือขออนุมัติเดินทางล่วงหน้า 1-2 สัปดาห์ หากมีความจำเป็นต้องจ่ายค่าลงทะเบียนก่อนเนื่องจากจะได้รับ
ส่วนลดสามารถระบุในใบยืมเพื่อขอให้โอนเงินยืมก่อนได้
หลังเดินทาง ให้เร่งส่งรายงานการเดินทางและหลักฐานประกอบการเบิกจ่ายภายใน 15 วัน นับจากเดินทางเสร็จสิ้น พร้อมคืนเงินเหลือจ่าย
(ถ้ามี)
18. คำถาม : แบบฟอร์มที่ใช้ในการเบิกค่าใช้จ่ายเดินทางมีแบบฟอร์มอะไรบ้าง
คำตอบ : เดินทางไปปฏิบัติงานคนเดียว แนบ ใบเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงาน และหลักฐานการจ่าย
เดินทางไปปฏิบัติงานเป็นหมู่คณะฯ หลักฐานการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงาน ส่วนที่ 2 ประกอบเพิ่มเติม
19. คำถาม : ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องจ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติคืออะไร
คำตอบ : ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานเช่น ค่าผ่านทางด่วน หรือค่าปะยาง ให้เฉพาะรถราชการ ค่าผ่านทางด่วน เป็นต้น
20. คำถาม : เดินทางไปฝึกอบรม ทางผู้จัดการฝึกอบรมได้เก็บเงินค่าลงทะเบียนโดยทางหลักสูตรจัดที่พักห้องพักเดี่ยวและค่าอาหารทุกมื้อรวมอาหารเย็นตลอดการฝึกอบรม ผู้เดินทางจะเบิกจ่ายได้อย่างไร
คำตอบ : เบิกจากใบเสร็จค่าลงทะเบียน สำหรับค่าอาหารที่ผู้จัดเลี้ยงให้หักจากค่าเบี้ยเลี้ยง
ค่าใช้จ่ายในการจัดอบรม ตามประกาศมหาวิทยาลัยวันที่ 17 ส.ค.64 เรื่องการเบิกค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม 2564
คำถาม : หากจะจัดฝึกอบรมจะต้องทำอย่างไรบ้าง
คำตอบ : ต้องดำเนินการดังนี้
1. ศึกษาประกาศของมหาวิทยาลัย เรื่องการเบิกค่าใช้จ่ายในการจัดฝึกอบรม การจัดงาน และการจัดประชุมระหว่างประเทศ พ.ศ. 2564
2. เขียนโครงการจัดสัมมนา และนำเสนอโครงการให้ผู้มีอำนาจอนุมัติ สำหรับคณะวิศวฯ ได้มอบอำนาจให้รองคณบดีฝ่ายพัฒนาบุคลากร
3. ขออนุมัติใช้เงินพร้อมยืมเงิน เพื่อนำไปจัดโครงการ ให้ส่งมาล่วงหน้า 2 สัปดาห์ และค่าใช้จ่ายใดที่จำเป็นต้องขอยืมเงินก่อนสามารถทำได้โดยเข้าระบบใบยืมและเขียนวันที่ ที่จำเป็นต้องใช้เงิน โดยคณะจะโอนเงินตามวันที่แจ้ง
4. จัดงานตามโครงการ
5. หลังงานเสร์จ เก็บหลักฐานการจ่ายเพื่อนำมาจัดทำเอกสารเบิกจ่าย ให้เป็นไปตามโครงการที่ขอประมาณการไว้ หากจำเป็นต้องเบิกเกินให้ชี้แจงเหตุผลที่ขอเพิ่มเติม
คำถาม : โครงการฝึกอบรมที่จัดให้กับนักศึกษา เบิกอย่างไร
คำตอบ : เบิกให้เป็นไปตามประกาศของมหาวิทยาลัย เพียงแต่โครงการจัดฝึกอบรมจะต้องนำเสนอคณบดีอนุมัติโครงการและเบิกค่าใช้จ่ายเนื่องจากประกาศ ฉบับดังกล่าวเป็นการฝึกอบรมให้เฉพาะบุคลากรโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบุคลากรเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะไม่มีการให้ปริญญา ทั้งนี้โครงการฝึกอบรมที่จัดให้กับนักศึกษาปลายทางเมื่อนักศึกษาจบการศึกษาไปจะได้รับปริญญา ดังนั้นการอนุมัติจึงเป็นอำนาจของคณบดี
ถาม : ค่าใช้จ่ายในการจัดฝึกอบรม มีอะไรบ้าง
คำตอบ : 1)ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวการใช้และการตกแต่งสถานที่ฯ 2) ค่าใช้จ่ายในพิธีเปิด-ปิด การฝึกอบรม 3)ค่าวัสดุ เครื่องเขียนและอุปกรณ์ 4) ค่าประกาศนียบัตร 5) ค่าถ่ายเอกสาร ค่าพิมพ์เอกสารและสิ่งพิมพ์ 6) ค่าหนังสือสำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรม 7) ค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสาร 8)ค่าเช่าอุปกรณ์ต่าง ๆ 9) ค่าธรรมเนียมธนาคาร 10) ค่าเลี้ยงรับรอง 11) ค่าล่วงเวลา/เงินช่วยเหลือฯ 12) ค่ากระเป๋า 13) ค่าของที่ระลึก 14) ค่าตอบแทนวิทยากร 15) ค่าอาหาร 16)ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม 17)ค่าเช่าที่พัก 18)ค่ายานพาหนะ ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายตาม 1-9 เบิกตามจ่ายจริง จำเป็น เหมาะสม และประหยัด 14-18 เบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนด
ถาม : ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการจัดหาวัสดุ ต้องดำเนินการอย่างไร
คำตอบ : ให้ดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
ถาม : บุคคลใดบ้างที่จะเบิกค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม
คำตอบ : 1)ประธานในพิธีเปิด - ปิด แขกผู้มีเกียรติและผู้ติดตาม 2) เจ้าหน้าที่ 3)วิทยากร 4) ผู้เข้ารับการฝึกอบรม 5) ผู้สังเกตการณ์ ทั้งนี้ ในใบปะหน้า
ของเอกสารเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม ให้ระบุให้ชัดเจน เช่น จำนวนเจ้าหน้าที่ ...คน ผู้เข้าร่วมฝึกอบรม...คน
ถาม : ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับวิทยากร จะเบิกอย่างไร
คำตอบ : ในโครงการให้ระบุสถานภาพของบุคคลให้ชัดเจน เช่น ชื่อ สถานที่ทำงาน สถานภาพเป็นบุคลากร หรือเป็นบุคคลภายนอก และกรณีจำเป็น
ต้องจ่ายค่าตอบแทนวิทยากรสูงกว่าอัตราที่กำหนดข้างต้นให้ผู้จัดชี้แจงเหตุผลความจำเป็น เช่น วิทยากรมีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์
เป็นพิเศษ
ถาม : การจัดประชุม มีเวลาการประชุม 9.00 น. - 12.00 น. จะเลี้ยงอาหารกลางวันได้หรือไม่่
คำตอบ :ไม่ได้ การเบิกค่าอาหารในการประชุมจะเบิกได้ถ้ามีช่วงระยะเวลาการประชุมคาบเกี่ยวในมื้ออาหารนั้น ดังนั้น หากมีการประชุมถึงเวลาประมาณ 13.30 น. ก็สามารถเบิกอาหารกลางวันได้
ถาม : ค่าใช้จ่ายในการประชุมราชการ และ ค่าใช้จ่ายในการจัดฝึกอบรมต่างกันอย่างไร
คำตอบ :ไม่ได้ การเบิกค่าอาหารในการประชุมจะเบิกได้ถ้ามีช่วงระยะเวลาการประชุมคาบเกี่ยวในมื้ออาหารนั้น ดังนั้น หากมีการประชุมถึงเวลาประมาณ 13.30 น. ก็สามารถเบิกอาหารกลางวันได้
ถาม : ค่าอาหารในการจัดฝึกอบรมเบิกได้อย่างไร
คำตอบ : ตามประกาศ ม. กม.008/2565 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ได้แบ่งการจัดอาหารสำหรับสถานที่จัดฝึกอบรม และ อาหารว่าง ไว้ดังนี้
แบ่งการจัดเป็น 2 สถานที่ ได้แก่ 1) จัดอาหารในสถานที่ราชการ : จัดครบทุกมื้อ 800 บาท จัดไม่ครบทุกมื้อ 600 บาท
2) จัดอาหารในสถานที่เอกชน : จัดครบทุกมื้อ 1,200 บาท จัดไม่ครบทุกมื้อ 900 บาท
3) ค่าอาหารว่าง
ในสถานที่ราชการ : 50 บาท/มื้อ/คน สถานที่เอกชน 100 บาท/มื้อ/คนถาม : ค่าอาหารในการจัดประชุมเบิกได้เท่าไหร่
คำตอบ : ค่าอาหารในการประชุมเบิกได้ไม่เกิน 120 บาท/มื้อ/คน
ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มสถานที่ราชการเบิกได้ไม่เกิน 35/มื้อ/คน
ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่มสถานที่เอกชนเบิกได้ไม่เกิน 50/มื้อ/คนถาม : การเบิกค่าเบี้ยเลี้ยง กรณีเดินทางมาเข้าอบรมนับเวลาเดินทางก่อนอบรมและหลังอบรมอย่างไร
คำตอบ : การนับเวลาเดินทางเพื่อเข้ารับการอบรมให้นับตั้งแต่เวลาออกจากบ้านพัก จนกลับถึงบ้านพักและหักด้วยมื้ออาหารระหว่างการฝึกอบรมที่
ทางโครงการจัดให้ถาม : เชิญข้าราชการบำนาญมาเป็นวิทยากร จ่ายค่าวิทยากรได้ในอัตราเท่าใด
คำตอบ : ข้าราชการบำนาญ ถือว่ามิใช่บุคลากรภาครัฐ หากเชิญมาเป็นวิทยากรให้ถือเป็นบุคคลภายนอก ให้ใช้อัตราค่าสมนาคุณวิทยากรที่เป็น
บุคคลภายนอกถาม : การประชุมคณะกรรมการ เวลา 15.00-16.30 น. ผู้จัดประชุมขออนุมัติเลี้ยงอาหารว่างและเครื่องดื่มได้หรือไม่เนื่องจาก
มีเวลาประชุมเพียง 1.30 ชม.
คำตอบ : ได้ เนื่องจากระเบียบไม่ได้กำหนดเกี่ยวกับระยะเวลาในการจัดประชุมถาม : เจ้าหน้าที่ของคณะเป็นวิทยากรในโครงการที่คณะฯ จัดจะเบิกค่าวิทยากรได้หรือไม่ อย่างไร
คำตอบ : ได้ เบิกค่าตอบแทนรายชั่วโมงได้ไม่เกินชั่วโมงละ 300 บาท หรือ ให้ของที่ระลึกถาม : ค่าพาหนะวิทยากร เบิกเหมาจ่ายได้หรือไม่
คำตอบ : กรณีส่วนราชการไม่ได้จัดพาหนะ แต่จ่ายค่าพาหนะ ให้ปฏิบัติตามประกาศมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เรื่องการเบิกค่าใช้จ่าย
ในการเดินทางไปปฏิบัติงาน ประกาศ ณ วันที่ 23 กันยายน 2563
เงินสวัสดิการพนักงานมหาวิทยาลัย
ถาม : สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลทันตกรรมสามารถเบิกค่าอะไรได้บ้าง
ตอบ : ตนเอง เบิกค่าบริการและค่าใช้จ่ายทางทันตกรรมเพื่อการรักษาพยาบาลได้ทุกประเภท
ญาติสายตรง เบิกค่าบริการและค่าใช้จ่ายทางทันตกรรมได้เฉพาะ อุดฟัน, ขูดหินปูน, ถอนฟัน, ผ่าฟันคุด, รักษารากฟัน
ถาม : สิทธิสวัสดิการปีงบประมาณไม่เกิน 20,000 บาท เบิกไม่หมดในปีเงินไปไหน
ตอบ : เบิกจ่ายไม่หมดในปีงบประมาณ สามารถสะสมได้จำนวนร้อยละ 40 ของเงินที่เหลือ สะสมได้ไม่เกิน 250,000 บาท เพื่อนำมาใช้หลังเกษียณอายุงาน สามารถเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับตนเองและญาติสายตรงได้ไม่เกินวงเงินสะสมและสวัสดิการแบบยืดหยุ่นสำหรับตนเอง
ถาม : ตรวจสอบสิทธิคงเหลือได้อย่างไร
ตอบ : https://fund.psu.ac.th/Login.aspx?ReturnUrl=%2fHistoryStaff.aspx ลงชื่อเข้าใช้ PSU Passport
ถาม : กรณีใดที่ไม่ต้องแนบใบรับรองแพทย์
ตอบ : ต้องรักษาที่ โรงพยาบาลของรัฐ ยกเว้นรักษาคลินิคผิวหนังและใบเสร็จเวชสำอางค์
ถาม : กรณีใดที่สามารถนำมาเบิกจ่ายจากกองทุนได้
ตอบ : ค่าตรวจสุขภาพของตนเอง ค่าฉีดวัคซีนทุกประเภท ค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจและรักษา ทันตกรรม ค่ารักษาเฉพาะตนเองกรณีผู้ป่วยนอก
ถาม : ข้าราชการเปลี่ยนสถานภาพเบิกค่านวดแพทย์แผนไทยจากกองทุนพนักงานต้องเบิกยังไง
ตอบ : 1.ใช้ใบเสร็จรับเงินพร้อมใบรับรองแพทย์เบิกจากสิทธิ์ข้าราชการก่อน ได้ตามสิทธิที่กรมบัญชีกลางกำหนด
2. นำส่วนต่างมาเบิกจากกองทุนพนักงาน แนบสำเนาใบเสร็จรับเงินพร้อมใบรับรองแพทย์ รับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมระบุในสำเนาใบเสร็จรับเงินว่า"ต้นฉบับใช้เบิกจ่ายจากงบกลาง จำนวนกี่บาท"
ถาม : กรณีที่มีการโทรสอบถามเกี่ยวกับเบิกค่ารักษาพยาบาลว่าเบิกได้ไหม
ตอบ : ต้องดูใบเสร็จและใบรับรองแพทย์ประกอบถึงจะสามารถบอกได้ว่าเบิกได้ไหม
ถาม : ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอกเบิกอะไรได้บ้าง
ตอบ : เบิกกรณีรักษาผู้ป่วยนอก เบิกค่าตรวจสุขภาพ ที่มีแพทย์ปฏิบัติหน้าที่ ได้ไม่เกิน 20 ครั้งต่อปีงบประมาณ
ถาม : ใบเสร็จรับเงินอายุ1ปีนับได้อย่างไร
ตอบ : ดูจากวันที่ในใบเสร็จรับเงินนับไป 1 ปี
ถาม : สวัสดิการด้านยืดหยุ่นเบิกจากวงเงินไหน
ตอบ : เบิกได้จากวงเงินสะสมที่ตนเองมี ไม่เกิน 3000 บาท/ปี
ถาม : สวัสดิการด้านยืดหยุ่นที่มีรายละเอียดในใบเสร็จไม่ชัดเจนต้องทำยังไง
ตอบ : ต้องแนบรายละเอียดคุณสมบัติของสินค้าและบริการควบคู่การเบิกจ่ายทุกครั้ง
ถาม : ใบเสร็จรับเงินที่ใช้เบิกสวัสดิการด้านยืดหยุ่นต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง
ตอบ : ชื่อ สถานที่ผู้ขาย/ให้บริการ วันเดือนปี รายการสินค้าหรือบริการ จำนวนเงินตัวเลขตัวหนังสือ ลายมือชื่อผู้รับเงิน ชื่อของพนักงานมหาวิทยาลัย
ถาม : เบิกสวัสดิการค่าเล่าเรียนบุตรได้เท่าไหร
ตอบ : เช็คได้จาก https://drive.google.com/file/d/1gs-V4TCIkh6Z97_b3aqRS52LoxP2vEQG/view
ถาม : เบิกสวัสดิการค่าเล่าเรียนบุตรใช้เอกสารใดประกอบบ้าง
ตอบ : 1. ใบเสร็จรับเงิน 2. ประกาศค่าธรรมเนียมการศึกษา
การเบิกเงินหลักสูตรพิเศษ/ค่าธรรมเนียมการศึกษา
ก่อน 2565
ถาม : เงินหลักสูตรพิเศษเบิกจ่ายได้เมื่อไหร่
ตอบ : เมื่อคณะฯได้รับเอกสารใบโอนจากกองคลัง และปลดล็อคระบบจัดสรรในระบบ SIS
ถาม : คณะฯจะได้รับจัดสรรเงินค่าธรรมเนียมการศึกษาเมื่อไหร่
ตอบ : ไม่มีระยะเวลากำหนด ขึ้นกับทางกองคลังจะจัดสรรและแจ้งให้คณะฯทราบ
ถาม : เบิกค่าธรรมเนียมการวิจัยได้เมื่อไหร่
ตอบ : เมื่อคณะฯได้รับจัดสรรค่าธรรมเนียมและปลดล็อคระบบจัดสรรในระบบ SIS
ถาม : ค่าธรรมเนียมการศึกษาหลักสูตรพิเศษ มหาวิทยาลัยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารคณะหรือไม่
ตอบ : ไม่ ค่าธรรมเนียมการศึกษาจะรับโดยระบบทะเบียนฯ เงินที่นักศึกษาจ่ายค่าเทอมจะเข้าบัญชีของมหาวิทยาลัย ซึ่งกองคลังดูแล แล้วกองคลังจะจัดสรรให้คณะรับทราบเพียงตัวเลขทางเอกสารเพื่อให้รับทราบและบันทึกเท่านั้น
ถาม : ค่าธรรมเนียม 3/2563 จะได้เมื่อไหร่
ตอบ : 3/63 ครั้งที่ 1 กองคลังจัดสรรและส่งเอกสารมาให้คณะฯวันที่ 30 พ.ค.65 คณะฯ ตรวจสอบกับกับระบบSIS แล้ว ข้อมูลยังไม่ถูกต้อง แจ้งทางกองคลังแล้ว (คุณรัตติยา 2142 ) แจ้งว่าได้ส่งเอกสารทดแทนฉบับวันที่ 30 พ.ค.65 มายังคณะวันที่ 28 มิ.ย.65 ตอนนี้เอกสารกำลังอยู่ระหว่างทาง ถ้าเจ้าหน้าที่การเงินได้รับเอกสารแล้วจะส่ง E-mail แจ้งเมื่อตรวจสอบเอกสารแล้วข้อมูลตรงกับในระบบ SIS ดังนั้น หากระบบยังไม่เปิดให้ตรวจสอบข้อมูล (เจ้าหน้าที่กองคลังเป็นผู้เปิดให้ดูรายงานในระบบ SIS)
2565 เป็นต้นไป
ถาม : ค่าธรรมเนียม 1/2565 จัดสรรเมื่อไหร่
ตอบ : เดิมกองคลังส่งเอกสารใบโอนมายังงานการเงิน แต่นับแต่ ปีการศึกษา 1/2565 เป็นต้นไป กองคลังยกเลิกส่งเอกสารใบโอนและให้ผู้ดูแลระบบ MAS เป็นผู้ดูแลข้อมูลรายงานค่าธรรมเนียมการศึกษา โดยส่วนงานสามารถดึงข้อมูลรายงานค่าธรรมเนียมการศึกษาผ่านทางระบบ MAS และตรวจสอบยอดเงินจากระบบ MAS ได้ ซึ่งระบบ MAS สามารถดึงรายงานค่าธรรมเนียมการศึกษา 1/2565 ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2566
ถาม : คณะฯจะได้รับจัดสรรเงินค่าธรรมเนียมการศึกษาเมื่อไหร่
ตอบ : ส่วนงานสามารถดึงข้อมูลรายงานค่าธรรมเนียมการศึกษาผ่านทางระบบ MAS และตรวจสอบยอดเงินจากระบบ MAS ได้ ซึ่งระบบ MAS สามารถดึงรายงานค่าธรรมเนียมการศึกษา 1/2565 ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม2566 แต่เป็นยอดเงินที่ยังรับรู้รายได้ไม่ครบจำนวน
ถาม : ทำไมถึงมีการรับรู้รายได้ไม่ครบจำนวน และรับรู้รายได้ครบจำนวนเมื่อไหร่
ตอบ : จากการสอบถามกองคลังและผู้ดูแลระบบMASได้ความว่า ผู้สอบบัญชีทักท้วงการรับรู้รายได้ซึ่งต้องมีการทยอยรับรู้ ดังนั้นจึงมีการตัดยอดการรับรู้เป็นวัน ส่วนที่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้จะเป็นรายได้รอการรับรู้ ซึ่งเป็นเงินรับฝากที่มหาวิทยาลัย และจะตัดการรับรู้เมื่อถึงวันปิดเทอม ได้แก่ 1/2565 เปิดเทอม 27 มิ.ย.65 - 28 ต.ค.65 ดังนั้นระบบจะเริ่มตัดเป็นรายได้วันที่ 27 มิ.ย.65 และรับรู้รายได้ครบจำนวนวันที่ 28 ต.ค.65
ซึ่ง 1/2565 ระบบ MAS ปรับระบบตามคำทักท้วงของผู้สอบ จึงเพิ่งทำระบบเสร็จให้คณะดึงได้วันที่ 13 มีนาคม 2566 และเพิ่งปรับยอดรับรู้เต็มจำนวน 17 เม.ย.66
ถาม : เมื่อดึงรายงานอย่างไรและแนบอะไรประกอบการเบิกจ่าย
ตอบ : PSU MAS > ส่วนงาน > รายงาน > SR01 การจัดสรรค่าธรรมเนียมรับล่วงหน้าตามสังกัดของผู้รับเงิน
ทำบันทึกข้อความเบิกจ่าย แนบ รายงานSR01 การจัดสรรค่าธรรมเนียมรับล่วงหน้าตามสังกัดของผู้รับเงิน
การเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนนักเรียน นักศึกษาที่ช่วยปฏิบัติงานราชการ
ถาม : ค่าตอบแทนนักเรียน นักศึกษาช่วยปฏิบัติงานราชการเบิกจ่ายตามระเบียบหรือประกาศอะไร
ตอบ : เบิกจ่ายตามหนังสือกระทรวงการคลังที่ กค 0406.4/ว 30 ลงวันที่ 3 เมษายน 2558 เรื่องการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน นักเรียน นักศึกษาที่ช่วยปฏิบัติงานราชการ
ถาม : นักเรียน หรือ นักศึกษาช่วยปฏิบัติงานราชการ เบิกค่าตอบแทน ได้เท่าไหร่
ตอบ : อัตราค่าตอบแทน จ่ายดังนี้ - ปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน โดยไม่รวมเวลาหยุดพัก ได้ค่าตอบแทนไม่เกินวันละ 300 บาทต่อคน และหากปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน ได้ค่าตอบแทน ไม่เกิน 150 บาทต่อคน ทั้งนี้ การเบิกจ่ายต้องปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน จึงจะเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนตามประกาศได้ สำหรับ การปฏิบัติงานหลายช่วงในเวลาเดียวกัน ไม่ให้นับเวลาเวลาปฏิบัติงานทุกช่วงเวลารวมกัน เพื่อเบิกเงินค่าตอบแทนในวันนั้น
ถาม : นักศึกษาจะได้รับเงินค่าตอบแทนช่องทางใด
ตอบ : คณะจะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของนักศึกษา โดยใช้หลักฐานการโอนเงินดังกล่าวเป็นหลักฐานประกอบการจ่ายเงิน