จากเส้นทางในชุมชน นมัสการพระคู่บ้านและสัมผัสเส้นทางวัฒนธรรมเมืองเก่า ที่เป็นสมบัติล้ำค่า และได้สืบทอดในชุมชนจากคนรุ่นหนึ่งมายังคนอีกรุ่นหนึ่ง จากประตู้ต้นผึ้งท่านางลอย ลัดเลาะตามริมกำแพงเมืองเก่า ชุมชนพระแก้วหัวข่วง ชุมชนท่ามะโอ ชุมชนศรีล้อมแสงเมืองมา และย้อนรอยอดีตความภาคภูมิใจสถาปัตยกรรมยุโรปแบบคลาสสิค สมัยกรีกผสมสถาปัตยกรรมไทย บ้านป่องนัก ที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินมณฑลพายัพ แลเป็นที่ทรงประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในภาคเหนือ ในปีพ.ศ.2501
สถานที่ท่องเที่ยวตามเส้นทางนี้ เราพบวัดเก่าแก่ที่มีความเจริญรุ่งเรือง และเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนทั้งในลำปางและต่างจังหวัด วัดประตูต้นผึ้ง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2380 นับถึงปีปัจจุบัน มีอายุประมาณ 178 ปี สันนิษฐานว่าสร้างในสมัย เจ้าน้อยขัตติยะ บุตรเจ้าคำโสม โดยชื่อวัดมาจากชื่อเข้าเวียงเหนือ (ประตูต้นผึ้ง) มีพระณรงค์ ปภากโร เป็นเจ้าอาวาส วัดประตูต้นผึ้งเป็นวัดที่ชาวลำปาง และนักท่องเที่ยวรู้จักอย่างมากมาย ในวันสำคัญทางศาสนาหรือไม่ใช่วันสำคัญทางศาสนา ก็จะมีทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างมากราบไหว้บูชา พร้อมทำบุญถวายสังฆทานอย่างสม่ำเสมอ ตามความเชื่อว่าเมื่อมาขอพรแล้วจะสมปารถนา นอกจากนี้ ทางวัดประตูต้นผึ้งมีการรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่เป็นโรคต่าง ๆ ที่รักษาอย่างไรก็ไม่หายขาดสักที่ จึงได้มาปรึกษาพระอาจารย์ ส่วนใหญ่เป็นเป็นผู้ป่วยโรคหัด โรคงูสวัด ผู้มารักษาที่นี้ต่างก็อาการดีขึ้น
วัดศรีล้อม มีต้นไม้ศรีมหาโพธิ์ ต้นใหญ่อยู่กลางวัดและมีผ้าสีพันรอบๆ พร้อมทั้งไม้ค้ำต้นโพธิ์ไว้ตามประเพณี เป็นที่เคารพนับถือของคนลำปาง นอกจากนั้นมีศาลเพียงตา รูปปั้นพญายักษ์ และมณฑปครอบรอย อาวุธโบราณ
มณฑปครอบรอยพระพุทธบาทจำลอง อยู่ด้านหน้า ต้นไม้ศรีมหาโพธิ์ แสดงความเป็นเมืองไก่ขาวตามตำนานลำปางเมืองไก่
ห้องเทิดพระเกียรติ
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
บ้านป่องนัก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2468 เพื่อเป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินมณฑลพายัพ แลเป็นที่ทรงประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในภาคเหนือ ในปีพ.ศ.2501 ตัวบ้านสร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมยุโรปแบบคลาสสิค สมัยกรีกผสมสถาปัตยกรรมไทย มีลักษณะเป็น อาคารไม้ 2 ชั้นยกพื้นเตี้ย มีหน้ามุขแบบ 5 เหลี่ยม จำนวน 5 มุข มีช่องลมลายฉลุที่เรียกว่าขนมปังขิง (gingerbread) หน้าต่าง เป็นบานเกล็ดไม้อยู่รายล้อมรอบบ้าน มีจำนวนมากถึง 250 บาน และมีช่องหน้าต่างกว่า 469 ช่อง มีบันไดจำนวน 2 บันได ได้แก่ บันไดด้านหน้าสำหรับเจ้านาย ส่วนบันไดด้านหลัง สำหรับข้าราชบริพาร
ปัจจุบันบ้านป่องนักเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์มณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ชั้นล่าง จัดเป็นที่แสดงอาวุธยุทโยปกรณ์บางส่วนที่ใช้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ชั้นบน จำลองห้องต่างๆ อาทิ ห้องโถงที่ประทับแรมครั้งเสด็จ ห้องทรงงาน จัดให้เป็นห้องเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ห้องบรรทม ห้องสรง ห้องจัดแสดงเกี่ยวกับภาพเขียนสีประตูผา และแสดงภาพถ่ายโบราณอีกมากมาย เช่น ภาพการแต่งกายของหญิงชาวล้านนาเมื่อปี พ.ศ.2445 เป็นต้น
เส้นทางวัฒนธรรมเมืองเก่า เป็นการถ่ายทอดสภาพสังคมและวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่นตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันและจะก้าวต่อไปในอนาคต