บ้านจักรคำภิมุขเดิมชื่อบ้านกู่สิงห์ตอง โดยมีปรากฏกู่สิงห์ตองที่บูรณะเป็นเจดีย์ในวัดจักรคำภิมุข โดยนำอิฐจากกู่หมูมาสร้าง (ในราว พ.ศ.๒๔๙๕ ) แต่ชาวบ้านเรียกตามภูมิศาสตร์ที่มีทุ่งนากว้างใหญ่ว่า “บ้านทุ่งยาว”พ.ศ.๒๔๖๙ พ่ออุ้ยเสาร์เป็นคนของเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์จากในเมืองลำพูนได้เข้ามาอยู่เลี้ยงม้าให้เจ้าหลวงและทำนาของเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์(คาดว่าต้องนำครอบครัวและญาติพี่น้องมาอยู่ด้วย เหตุผลก็คือมาร่วมกันทำนา) พ.ศ.๒๔๗๐เจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ออกไปเยี่ยมที่นาของตนเห็นมีคนอยู่อาศัยเป็นปรึกแผ่นประมาณ ๑๐ หลังคาเรือน เจ้าหลวงขจรศักดิ์ได้ให้เจ้าน้อยแสน ธนัญชยานนท์มาดูแลแบ่งปันข้าวจากชาวนาโดยปรากฏได้ว่าสร้างคุ้มเจ้าน้อยแสนอยู่ติดกับห้างนาเจ้าหลวงต่อมาได้ให้พ่อหนานปัน ชัยศรี ดูแลการแบ่งปันแล้วให้พ่อหลวงนิคม ชัยศรี (เกษม) ผู้เป็นลูกดูแล ต่อมาให้พ่อหลวงเมือง วงศ์ไชยธงดูแลผลประโยชน์ของเจ้าหลวงจะได้รับค่าตอบแทนร้อยละ๑๐ของจำนวนข้าวเปลือกที่ได้รับการแบ่งจากชาวนาในปี พ.ศ.๒๔๗๔ เจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ได้ขายที่ดินหรือที่ทำนาทั้งหมด(หมู่ ๗) ให้กับชุมชนสหกรณ์ในปี พ.ศ.๒๕๒๖ จึงหมดหน้าที่ โดยผู้ดูแลได้สร้างวัดจากหลักฐานเดิมที่เป็นวัดร้างมาก่อน โดยสร้างศาลาวัด วิหาร กุฏิ บ่อน้ำการก่อสร้างวิหารได้สร้างพระพุทธรูปพระประธานตั้งชื่อว่า“วัดจักรคำภิมุข”จึงเป็นชื่อหมู่บ้านอย่างเป็นทางการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในขณะเดียวกันเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ได้สร้างคุ้มห้างนา โดยนำเรือนหลังเก่ามาสร้างจำนวน๒ หลัง โดยเจ้าหลวงได้นำสล่ามาจากในเวียงมาสร้างขึ้น
ข้อมูลเนื้อหา : นางสาวอัมพร วงค์คำมูล ครูกศน.ตำบลต้นธง
เรียบเรียงข้อมูล/เนื้อหา : นางสาวอัมพร วงค์คำมูล ครูกศน.ตำบลต้นธง
ภาพถ่าย : https://www.lovethailand.org
แหล่งข้อมูล : https://www.lovethailand.org