การปลูกผักกูดปลอดภัย

สวนผัดกูดปลอดภัย แหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง

ตั้งอยู่ที่ 233 หมู่ 1 ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา จ.ลำพูน  51140

โทร.08-71902349 

แหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง สวนผักกูดปลอดภัย ตั้งอยู่ที่ 233 หมู่ 1 ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา จ.ลำพูน โดยมี นายสุรชัย แสงบุญเรือง เป็นเจ้าของสวนผักกูด ได้กล่าวว่า เมื่อกล่าวถึง “ผักกูด” คนรุ่นใหม่น้อยคนนักที่จะคุ้นเคยและรู้จัก หรือได้รับประทานผักชนิดนี้กัน แต่ก็ยังเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ที่รักสุขภาพนิยมนำมารับประทานเพื่อให้ประโยชน์ต่อร่างกาย “ผักกูด” เป็นชื่อของผักพื้นบ้านที่อยู่ในตระกูลเฟิน ซึ่งสามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้ นิยมนำยอดอ่อนและใบอ่อนมาปรุงอาหาร หรือลวกจิ้มน้ำพริก โดยมีสรรพคุณแก้ไข้ ตัวร้อน พิษอักเสบ บำรุงสายตา บำรุงโลหิต และความดันโลหิตสูง เป็นต้นลักษณะใบจะเป็นแผงรูปขนนกคู่ขนานกัน ใบอ่อนปลายยอดจะม้วนงอแบบก้นหอย ส่วนตรงที่เป็นสปอร์ซึ่งอยู่ด้านหลังใบที่แก่จัด จะทำให้ต้นผักกูดมีการขยายพันธุ์รวดเร็ว โดยการแตกกอใหม่ 

การปลูกผักกูด และ การเก็บผักกูด ประเทศไทยมีความหลากหลายทางพันธุ์พืชสูงมาก คนไทยในอดีตจึงรู้จักใช้ประโยชน์จากพืชพันธุ์ที่มีอยู่ทั่วไปรอบๆ ถิ่นที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะการนำมาใช้รับประทานเป็นผัก และยารักษาโรค ความรู้เรื่องการลองผิดลองถูก ได้สะสมและถ่ายทอดสู่คนรุ่นหลังกลายเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น พืชผักที่นำมารับประทานจึงนิยมเรียกว่า “ผักพื้นบ้าน” ซึ่งมีมากมายหลายชนิด มีลักษณะแตกต่างกันไปตามสภาพท้องถิ่น 

ปัจจุบัน การปลูกผักกูด ยังไม่แพร่หลายมากนัก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผักชนิดนี้จะเจริญเติบโตได้ดีและสมบูรณ์เฉพาะบริเวณที่ขึ้นริมน้ำ รวมถึงด้านการขนส่งที่ต้องเก็บความชื้นอย่างดี เพื่อให้ผักมีสภาพสมบูรณ์ สด ใหม่ เมื่อถึงมือลูกค้า ฉะนั้นน้อยคนนักที่จะรู้จักและเคยรับประทานผักชนิดนี้ เพราะตามท้องตลาดทั่วไปมักพบเห็นเป็นจำนวนน้อย นอกจากแหล่งที่มีการปลูกที่สามารถหาซื้อได้ง่าย เพราะมีผู้บริโภคที่รู้จักและนิยมรับประทาน  นายยุทธชัย  แสงบญเรือง ซึ่งถือว่าเป็นเกษตรกรผู้ปลูกผักกูดในตำบลทาสบเส้า แต่กว่าจะได้มาเป็นสวนผักกูดในทุกวันนี้ ทั้งสองต้องลองผิดลองถูกในการนำผักกูดจากป่ามาปลูกในพื้นที่ของตน จนสามารถเก็บผลผลิตจำหน่ายได้เป็นกอบเป็นกำ สร้างอาชีพเกษตรกรรมให้ยั่งยืนต่อไปได้เดิมทีไม่คิดจะปลูกผักกูดเป็นอาชีพ แต่ด้วยความชอบรับประทานผักกูด เพราะมีเพื่อนบ้านนำมาให้ทดลองรับประทาน และติดใจในรสชาติ สมัยก่อนไม่มีใครปลูก ต้องไปเก็บตามริมห้วย เมื่อซื้อรับประทานบ่อยๆ เข้า จึงคิดไปหาต้นผักกูดในป่าเพื่อมาปลูกเองบ้าง ตอนนั้นได้ต้นพันธุ์มาประมาณ 2-3 ถุงปุ๋ย แล้วนำมาลงปลูกภายในสวนของตน แต่ช่วงนั้นไม่ได้ดูแลเอาใจใส่ผักกูดอะไรมากนัก เนื่องด้วยภายในครอบครัวชอบรับประทานผักกูด แต่เวลาบริโภคจะต้องไปหาซื้อตามตลาด พอได้พันธุ์ผักกูดจากป่ามาปลูกจึงประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักกูดมารับประทาน จึงตั้งใจปลูกผักชนิดนี้ไว้เพื่อรับประทานในครัวเรือนแต่พอผักกูดมีจำนวนมาก รับประทานกันในครอบครัวไม่ทัน จึงนำผักกูดมาฝากเพื่อนบ้านขายกำละ 5 บาท จึงทำให้มีรายได้เข้ามามากขึ้นจนต้องปลูกขยายเพิ่ม


ราคาจำหน่ายจากสวนไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงเท่าใดนัก ราคาจะทรงตัวเท่าเดิมประมาณ 40-50 บาท ต่อกิโลกรัม แต่อาจมีการปรับขึ้นบ้างในช่วงอากาศหนาว เพราะผักกูดจะแตกยอดช้ามาก ส่วนราคาจำหน่ายตามท้องตลาดจะอยู่ที่ประมาณ 80-100 บาท ต่อกิโลกรัมในช่วงแรกที่ทำการขายผักกูดเพราะผลผลิตที่ออกมามีจำนวนมากเกินที่จะรับประทานได้หมด แม่ค้า มารับซื้ออยู่ตลอด ดังนั้น จึงมีรายได้จากการเก็บผักกูดขายทุกวัน 

การปลูกและบำรุงดูแลผักกูด

ถ้าต้องการปลูกให้ได้ปริมาณมากเพื่อการค้าจะสามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้สปอร์และเหง้ามาปลูก เช่นเดียวกับการปลูกต้นเฟิน ดินที่เหมาะสมใน การปลูกผักกูด คือ ดินทราย หรือดินร่วนปนทราย ก็ได้ แต่ถ้าเป็นดินเหนียวผักกูดจะเจริญเติบโตช้า เพราะรากจะชอนไชได้ยาก ไม่เหมือนดินทรายที่มีความโปร่ง รากผักกูดจึงเจริญเติบโตดี และหาอาหารได้ง่ายส่วนดินที่ไม่ควรนำมาปลูกผักกูด คือ ดินลูกรัง ดินชนิดนี้จะมีหินปะปนผสมอยู่ด้านใน เมื่อปลูกผักกูดดินจะร้อนกว่าดินชนิดอื่น ถึงจะรดน้ำอย่างไรก็ไม่เป็นผล จะทำให้ผักกูดไม่เจริญเติบโต หรือตายไปในที่สุด

การเตรียมดิน ควรใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก เช่น ขี้วัว ขี้ไก่แกลบ มาผสมดินที่ใช้ปลูก หรืออาจนำมาหว่านบริเวณที่ต้อง การปลูกผักกูด นำพันธุ์ผักกูดที่เตรียมไว้มาปลูก โดยนำดินมากลบพอมิด จากนั้นรดน้ำให้ชุ่มมากๆ ห้ามปลูกต้นผักกูดลึกจนเกินไป เพราะจะทำให้รากออกยาก หรือไม่ออกเลยผักกูดจะเป็นผักที่มีการเจริญเติบโตที่ดี แตกต้นอ่อนง่าย เมื่อปลูกใหม่ๆ ควรรดน้ำทุกวัน ก็จะทำให้ต้นผักกูดแตกต้นอ่อนดียิ่งขึ้น และควรเว้นระยะระหว่างต้นไว้ประมาณ 1 ศอก และไม่ควรปลูกถี่มากเกินไปนัก เพราะต้นจะเบียดกันเกินไปเวลาที่ผักกูดแตกกอออกมา

ระบบน้ำ สิ่งที่สำคัญที่สุดใน การปลูกผักกูด และขาดไม่ได้นอกจากสภาพพื้นดินที่มีความร่วนซุยแล้วคงจะหนีไม่พ้นการให้น้ำ เพราะผักกูดเป็นพืชที่ชอบขึ้นตามแหล่งน้ำ ดังนั้นเมื่อเรานำมาปลูกการให้น้ำต้องเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ถ้าพื้นที่ใดขาดน้ำหรือมีแหล่งน้ำไม่เพียงพอ ก็ไม่เหมาะสมสำหรับ การปลูกผักกูด เพื่อการค้า เพราะนอกจากผักกูดจะไม่เจริญเติบโตแล้ว การลงทุนอาจจะเสียเปล่าได้ส่วนผักกูด คุณธนพรจะใช้ระบบน้ำแบบสปริงเกลอร์ โดยวางระยะห่างกว้าง 4 เมตร ยาว 4 เมตร 1 ไร่ จะเสียค่าใช้จ่ายในการทำระบบน้ำแบบสปริงเกลอร์ประมาณไม่เกิน 4,000 บาท ส่วนการรดน้ำควรรดวันละครั้ง เพราะผักกูดจะขาดน้ำไม่ได้ ต้องมีความชื้นอยู่ตลอดเวลา ถึงจะมีการแตกยอดกับใบอ่อนเพื่อให้เก็บผลผลิต

การให้ปุ๋ย เนื่องจากมี การปลูกผักกูด จำนวนมาก และเพื่อความปลอดภัยและใส่ใจกับผู้บริโภค จึงใช้แต่ปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอกจากขี้วัว ขี้ไก่ โดยใช้วิธีหว่านให้ทั่วพื้นที่ปลูกผักกูด แล้วพ่นน้ำตาม เพื่อให้รากผักกูดดูดสารอาหารได้เร็วขึ้น “การดูแลผักกูดไม่มีอะไรมาก มันเป็นผักอยู่กับธรรมชาติ ปลูกง่าย รอดง่าย แต่สิ่งสำคัญก็คือ “น้ำ” เพราะผักกูดชอบความชื้น ยิ่งได้น้ำเยอะก็จะยิ่งแตกยอดเยอะตามไปด้วย ดินก็มีส่วนสำคัญตามมา ผักกูดจะชอบดินทรายถึง 70% ไม่ชอบดินเหนียวถ้าเป็นดินลูกรังยิ่งปลูกยาก เพราะเป็นดินร้อน มีหินปน ถึงจะรดน้ำอย่างไรก็ไม่เกิดประโยชน์ นอกจากนี้การใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก จะทำให้ผักกูดปลอดจากสารพิษ คนกินก็ปลอดภัย แถมผักกูดยังมีประโยชน์หลายอย่างอีกด้วย”

โรคและแมลงในผักกูด ตั้งแต่คุณธนพรปลูกผักกูด แมลงศัตรูพืชที่พบ และสร้างความเสียหาย ส่วนใหญ่จะเป็นเพลี้ยไฟ ซึ่งจะเจอเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง แต่ไม่ได้สร้างความ เสียหายมากมายเพียงใดนัก เมื่อพบเจอจึงนำสารกำจัดแมลงมาฉีดพ่นบริเวณนั้น หรือฉีดคุมป้องกันเพื่อไม่ให้แพร่ขยายพันธุ์ต่อไป



สรรพคุณของผักกูด

1. ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ

2. ผักกูดอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก และบีตาแคโรทีน การรับประทานผักกูดร่วมกับเนื้อสัตว์จะช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุต่างๆ ได้ดีขึ้น และยังช่วยบำรุงร่างกายอีกด้วย

3. ใบผักกูดนำมาเป็นต้มน้ำดื่ม จะช่วยแก้ไข้ ตัวร้อน ได้

4. ผักกูดเป็นผักที่มีคุณสมบัติช่วยดับร้อน ทำให้ร่างกายปรับสภาพอุณหภูมิให้เข้ากับฤดูได้

5. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเม็ดเลือด

6. ช่วยบำรุงโลหิต เนื่องจากผักกูดเป็นผักที่ธาตุเหล็กมากที่สุดเป็นอันดับ 1

7. ช่วยแก้โรคโลหิตจาง

8. ช่วยบำรุงสายตา

9. ช่วยลดความดันโลหิตสูง

10. ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้

11. ผักกูดเป็นผักที่มีเส้นใยอาหารสูงมาก จึงช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นอย่างดี

12. ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยแก้พิษอักเสบ

 

หากท่านใดสนใจข้อมูลเพิ่มเติม หรือสนใจซื้อต้นพันธุ์ไปปลูก ติดต่อได้ที่ นายสุรชัย แสงบุญเรือง 233 หมู่ 1 ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา จ.ลำพูน  51140 โทร.08-71902349


ภาพถ่าย/ภาพประกอบ : นายยุทธชัย แสงบุญเรือง ครู กศน.ตำบลทาสบเส้า

เรียบเรียงข้อมูล/เนื้อหา : นายยุทธชัย แสงบุญเรือง ครู กศน.ตำบลทาสบเส้า

ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด : 1 กุมภาพันธ์ 2566

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ lpn.amt_nfedc@nfe.go.th หรือโทร 053-976-291