การเลี้ยงไก่พื้นบ้าน เป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่บริเวณบ้านให้เกิดประโยชน์ เพื่อเพิ่มรายได้
วิธีการ/ขั้นตอนการเลี้ยง
สร้างโรงเรือนนอนสำหรับหลบแดดหลบฝนแบบง่ายๆ เพราะส่วนใหญ่ไก่พื้นบ้านที่เลี้ยงจะเน้นปล่อยให้หากินเองตามธรรมชาติ โดยที่ไม่ต้องไปดูแลจัดการหรือควบคุมการเลี้ยงใดๆ ทั้งสิ้น “เน้นเลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติ จะเดินหาอะไรกินก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ โดยที่ไม่ต้องไปหาอาหารอะไรให้เลย ไก่ก็มีความแข็งแรงดี โดยเฉพาะบ้านที่มีการเลี้ยงโค กระบือ้วยแล้ว จำเป็นที่จะต้องมีฟางข้าว ไก่ก็จะไปคุ้ยเขี่ยหาเมล็ดข้าวพวกนั้นกินเอง และที่สำคัญเศษอาหารที่ได้จากครัวเรือนไก่พื้นบ้านก็สามารถกินได้อีกด้วย ยิ่งแมลงที่มาเกาะกับโค ไก่พวกนี้ช่วยกินหมด ก็ถือว่ามีประโยชน์มาก
ซึ่งไก่พื้นเมืองเมื่อเลี้ยงจนโตเต็มที่ ตัวเมียจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไป ส่วนตัวผู้จะมีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม โดยเมื่อทุกตัวเข้าสู่วัยผสมพันธุ์ได้ ก็จะปล่อยให้ไก่ผสมพันธุ์กันเอง ไม่ได้มีการจับคู่เหมือนกับการเลี้ยงแบบทำเป็นไก่ชนทั่วไป เพราะจะเน้นเป็นแบบจำหน่ายเป็นไก่เป็นให้กับลูกค้าที่จะมารับซื้อไปทำชำแหละเนื้อจำหน่ายเป็นไก่สด
การดูแลรักษา
การป้องกันโรคก็จะมีการทำวัคซีนให้บ้างในช่วงที่เป็นลูกไก่อยู่ พอไก่เจริญเติบโตมากขึ้นก็หมั่นดูบ้างว่ามีลักษณะอย่างไร ถ้าเหมือนจะเป็นช่วงที่มีโรคระบาด ก็จะหาซื้อยาปฏิชีวนะมาผสมกับน้ำให้ไก่กิน ก็จะช่วยป้องกันในเรื่องของโรคได้อยู่บ้าง เพราะบางทีโรคมามาก ถึงไก่จะเลี้ยงแบบนี้มีความแข็งแรงอยู่แล้ว แต่ก็ควรที่จะป้องกันไว้บ้าง
การให้อาหาร
เนื่องจากเป็นแบบการเลี้ยงให้อยู่เชิงธรรมชาติ ไม่ได้เน้นให้อาหารเสริมหรืออาหารข้นที่มีจำนวนโปรตีนมากๆ ไก่อาจจะเจริญเติบโตได้ช้ากว่าปกติ แต่ในเรื่องของรสชาติ เนื้อมีความอร่อยแน่นอน
การตลาด
เมื่อเลี้ยงได้ขนาดก็จะประสานแม่ค้ามารับซื้อถึงบ้าน ราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 - 120 บาท ซึ่งต่อปีก็ถือว่าเป็นอาชีพเสริมที่ทำรายได้พอสมควร จากปริมาณที่ขายได้แบบอาชีพเสริม