จากการที่ผู้เรียนได้ศึกษา เรื่องที่ 1 ภารกิจเพื่อความมั่นคงในการทำธุรกิจ ประกอบด้วยเรื่องย่อย ๆคือ บทบาทหน้าที่ของตนเองที่มีต่อธุรกิจ การบริหารทรัพยากรดำเนินธุรกิจ การบริหารการผลิต การจัดการส่งมอบและการวิจัยพัฒนา ซึ่งเน้นเฉพาะการบริหารจัดการของตัวผู้ประกอบการ และเรื่องที่ 2 การวัดและประเมินผลความมั่นคงในอาชีพ ซึ่งต้องเรียนรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบการวัดและประเมินผลความมั่นคงในอาชีพ วิธีการวัดผลและประเมินผลความมั่นคงในอาชีพ และการแปรผลการประเมินตนเองเป็นการหาข้อสรุปว่าจะดำเนินการขยายอาชีพหรือไม่ อย่างไร
เพื่อเป็นการสร้างความมั่งคงยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการควรพิจารณาวิเคราะห์ศักยภาพในการขยายอาชีพ 5 ด้าน ดังนี้
1. ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพื้นที่
2. ศักยภาพของพื้นที่ตามลักษณะภูมิอากาศ
3. ศักยภาพของภูมิประเทศและทำเลที่ตั้งของแต่ละพื้นที่
4. ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตของแต่ละพื้นที่
5. ศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ในแต่ละพื้นที่
ทรัพยากรธรรมชาติ หมายถึง สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งมนุษย์สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน และการประกอบอาชีพ ทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ ป่าไม้ แม่น้ำ ลำคลอง อากาศ แร่ธาตุต่าง ๆทรัพยากรธรรมชาติบางชนิดใช้แล้วหมดไป เช่น แร่ธาตุต่าง ๆ บางชนิดมนุษย์สามารถสร้างทดแทนขึ้นใหม่ได้เช่น ป่าไม้ เมื่อมนุษย์ตัดไปใช้ประโยชน์แล้วก็สามารถปลูกทดแทนขึ้นใหม่ได้ ดังนั้น การขยายอาชีพต้องพิจารณาว่าทรัพยากรที่จะต้องนำ มาใช้ในการขยายอาชีพในพื้นที่มีหรือไม่มีเพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่มีผู้ประกอบการต้องพิจารณาใหม่ว่าจะขยายอาชีพที่ตัดสินใจเลือกไว้หรือไม่ หรือพอจะจัดหาได้ในพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งผู้ประกอบการต้องเสียค่าขนส่งจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ เช่น ตัดสินใจจะขยายอาชีพจากเดิมเลี้ยงสุกร 100 ตัว ต้องการเลี้ยงเพิ่มเป็น 200 ตัว ซึ่งเพิ่มอีกเท่าตัว จะต้องพิจารณาว่า อาหารสุกรหาได้ในพื้นที่หรือไม่ เช่นรำข้าวในพื้นที่มีพอเพียงที่จะเลี้ยงสุกรที่เพิ่มขึ้นหรือไม่
ในแต่ละพื้นที่จะมีลักษณะภูมิอากาศแตกต่างกัน เช่น ประเทศไทยภาคกลางมีอากาศร้อน ภาคใต้มีฝนตกเป็นเวลานาน ภาคเหนือมีอากาศเย็น โดยเฉพาะอาชีพเกษตรกรรมขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศเป็นส่วนใหญ่ เช่นในพื้นที่มีการปลูกลิ้นจี่ ลำไย อยู่แล้ว และมีผลผลิตออกมากในฤดูกาล ทำให้ราคาตกต่ำต้องการแปรรูปให้เป็นลำไยตากแห้ง เพื่อให้ได้ราคาดี ดังนั้น ต้องพิจารณาว่าในช่วงนั้นมีแสงแดดพอเพียงที่จะตากลำไยได้หรือไม่
สภาพภูมิประเทศและทำเลที่ตั้งของแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกัน เช่น เป็นภูเขา เป็นที่ราบสูง ที่ราบลุ่ม แต่ละพื้นที่มีผลต่อการขยายอาชีพ เช่น การจัดหาแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในพื้นที่ต้องพิจารณาว่าแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในภูมิประเทศนั้น ๆ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หรือไม่ หรือต้องการขยายสาขาไปอีกสถานที่หนึ่งก็ต้องพิจารณาทำเลที่ตั้งแห่งใหม่ว่าจะขายกาแฟได้หรือไม่
แต่ละพื้นที่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมีศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตที่แตกต่างกันดังนั้นแต่ละพื้นที่สามารถนำเอาสิ่งเหล่านี้มาใช้เป็นอาชีพได้ เช่น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเข้าชมศิลปะ วัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้าน หรือพาชมวิถีชีวิต อาจจะขยายอาชีพโดยเพิ่มจำนวนรอบที่เข้าชมให้พอเพียงกับตลาดเป้าหมาย
ทรัพยากรมนุษย์ในแต่ละพื้นที่ หมายถึง ความรู้ ความสามารถของมนุษย์ที่เป็นภูมิปัญญาทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน ด้านการประกอบอาชีพต่าง ๆ ในพื้นที่นั้น ๆ เมื่ออาชีพนั้นมีความมั่นคงในพื้นที่นั้น ๆ แล้ว อาจจะขยายไปพื้นที่อื่น ๆ การกระจายความสามารถของทรัพยากรมนุษย์ ก็สามารถทำได้โดยการอบรมผู้สนใจในความรู้นั้น ๆ ให้สามารถนำไปขยายยังพื้นที่อื่น ๆได้
ผู้ประกอบการที่มีอาชีพมั่นคงโดยผ่านการพัฒนาจนกระทั่งเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายก็สามารถขยายธุรกิจให้กว้างขวาง โดยการเพิ่มปริมาณหรือขยายสาขาให้มากขึ้นได้ โดยนำศักยภาพทั้ง 5 ด้านมาช่วยประกอบการพิจาณาด้วย