แหล่งเรียนรู้

  วัดพระธาตุปางม่วง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2420 ตั้งอยู่บ้านปางม่วง หมู่ที่ 9 ตำบลห้างฉัตร อำเภอ ห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ชาวบ้านเรียก ว่า วัดพระธาตุปางม่วง ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ เนื่องจากมี โบราณสถาน คือ พระธาตุปางม่วง ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบ อินเดีย เพราะผู้สร้าง พระธาตุนั้นเป็นคนอินเดีย คือ นายคาบินเยน โภราด่า ซึ่งเป็นนายช่างคุมคนงานในสมัยนั้น ลักษณะเด่นของพระธาตุก็ คือ จะมีสัญลักษณ์รูปดาบไขว้กันปรากฏอยู่ด้านข้าง 4 ด้านของ พระธาตุ และมีกระโจมรูป 3 เหลี่ยม ตรงปลายของกระโจมจะมีสัญลักษณ์คล้ายหอก 3 ง่าม อยู่ตรงส่วนนอก ภายในกระโจมมีพระพุทธรูปองค์เล็กวางไว้ตามชั้นประมาณ ข้างละ 2-3 องค์ ซึ่งพระธาตุปางม่วงเป็นพระธาตุที่สำคัญแห่งหนึ่งของ จังหวัดลำปาง ทาง กรมศิลปากร ได้ ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ทางศาสนาอันดับที่ 7 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับที่ 67 ตอนที่ 15 วันที่ 14 มีนาคม 2543 ในชื่อ วัดป่าม่วง สิ่งสำคัญ คือ เจดีย์ เป็นที่บรรจุพระเกศาของ พระพุทธเจ้า


ตามรอย..โขงพระเจ้าแบบล้านนา อายุ 1,315 ปี และพระวิหารอายุ 283 ปี ณ พระวิหารเจ้าแม่จามเทวี วัดปงยางคก จังหวัดลำปาง

ตามตำนานการสร้างเล่าว่า..เมื่อปี พ.ศ.1253 เจ้าแม่จามเทวี กษัตริย์ผู้ปกครองนครหริภุญไชย(ลำพูน) เสด็จมาเยี่ยมพระเจ้าอนันตยศ ราชบุตรมาครองนครเขลางค์ลำปาง ขณะที่่จะเดินทัพนำฉัตรทอง ไปบูชาพระธาตุลำปางหลวง ปรากฎช้างพระที่นั่งหมอบยอบตัวลง พร้อมทั้งชูงวงในท่าคารวะ

เจ้าแม่เห็นก็เกิดความอัศจรรย์ใจ จึงได้ให้มีการพักทัพ ณ บริเวณที่แห่งนี้ พอตกกลางคืน จึงทรงอธิษฐานว่า ถ้าสถานที่แห่งนี้ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ขอให้เกิดปาฎิหารย์ขึ้น สิ้นคำอธิษฐานก็ปรากฎแสงฉัพพรรณรังษีแห่งพระบรมสารีริกธาตุ พวยพุ่งออกมาจากจอมปลวกแห่งหนึ่ง

เจ้าแม่จามเทวี จึงได้สร้างมณฑปปราสาทขึ้น ครอบจอมปลวกไว้ ตลอดจนสร้างสิงห์คาบนาง สร้างกู่จ๊างนบ พร้อมทั้งปลูกต้นสะหรี(ศรีมหาโพธิ์) และก่อโขงประตูไว้อย่างสวยงาม

>>อ่านรีวิวต่อใต้ภาพ<<

พิกัด: วัดปงยางคก ตำบล ปงยางคก อำเภอ ห้างฉัตร ลำปาง https://goo.gl/maps/b5WpvmGjUe42

#แอ่วดีReview     www.aewdee-review.com

#เที่ยวลำปาง #ลำปางเมืองห้ามพลาด #วัดปงยางคก #พระวิหารเจ้าแม่จามเทวี #เที่ยววัดลำปาง


วัดพระธาตุดอยน้อย

บ.สันทราย  ม.๑  ต.เวียงตาล  อ.ห้างฉัตร  จ.ลำปาง

[พระบรมธาตุเจดีย์] 

ประวัติพระธาตุดอยน้อย วัดพระธาตุดอยน้อย 

(แหล่งที่มา : หนังสือตำนานพระธาตุดอยน้อย วัดพระธาตุดอยน้อย. ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔.)

ก่อนที่จะพบพระธาตุเจ้าองค์ดำ (พระบรมสารีริกธาตุ) นั้น  ในสมัยก่อนพอถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำของทุกเดือน ชาวบ้านสันทราย (บ้านทรายคำเดิม) ได้เห็นรัศมีแสงสว่างปรากฏขึ้นที่วัดดอยน้อย ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ชาวบ้านเมื่อเห็นปาฏิหาริย์เช่นนั้น จึงตกลงกันมานิมนต์พระอาโนจัย เจ้าอาวาสวัดปงสนุก ขึ้นไปพักที่วัดดอยน้อย เพื่อเตรียมตัวนิมนต์พระและประกาศเชิญชวนชาวบ้านใกล้เคียงทุกหมู่บ้านทุกอารามให้จัดหาเครื่องไทยทาน พร้อมทั้งตุงเหล็ก ตุงทอง ตุงเงิน และตุงทราย

ต่อมาในวันพุธ เดือน ๘ ขึ้น ๘ ค่ำ จุลศักราช ๑๒๕๗  (พ.ศ. ๒๔๓๙) ตรงกับปีเม็ด (ปีมะแม) จึงได้เชิญเจ้าพระยาแขว่นและเจ้านายที่อยู่ใกล้เคียงให้มาร่วมงาน จากนั้นได้จัดทำเครื่องไทยทานและตุงทั้ง ๔ ถวายแด่ท้าวจตุโลกบาล ทั้ง ๔ ทิศ อันมี ท้าวธตรฎฐ์ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศตะวันออก ท้าววุรุฬหกผู้เป็นใหญ่ด้านทิศใต้ ท้าวกุเวรหรือท้าวเวสสุวรรณผู้เป็นใหญ่ด้านทิศเหนือ รวมทั้งท้าวมหาพรหม ครูบาอาจารย์ โดยร่วมกันอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายขอให้ดลบันดาลให้รู้ที่อยู่แห่งองค์พระธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

หลังจากที่ได้อาราธนาเสร็จแล้ว พระอาโนจัยและพระภิกษุทั้งหลายที่ไปร่วมกับเจ้าแขว่นรวมทั้งชาวบ้านหญิงชายได้ลงมือขุดค้น รื้อถอนรากไม้และเศษอิฐแล้วนำมาคัดแยกแต่ละชนิด แล้วนำมารวมกันจดลงทะเบียนแยกเป็นประเภทอิฐ หิน และขุดค้นเรื่อยมาจนถึงวันพุธ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๘ ชาวบ้านบ้านแม่ปุ้มได้ขุดพบขุมยนต์ซึ่งก่อไว้ด้วยคอนกรีต จึงงัดแงะแล้วทุบจนแตก จึงเห็นเป็นเรืออยู่ภายใน 


วัดพระธาตุม่อนไก่แจ้

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยฤๅษี ๕ ตน ได้เสด็จจาริกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือหมายความว่าเข้าเขตตำบลเมืองยาว เพราะกาลปางก่อนโน้นทางตำบลแม่สันปัจจุบันก็ขึ้นอยู่ในเขตตำบลเมืองยาว พระพุทธองค์ก็ทอดพระเนตรเห็นเขาทั้ง ๔ ลูกเรียงกันในท่ามกลางพื้นที่ราบเรียบพอสมควร พระพุทธองค์ทรงทราบนึกถึงในอดีตก่อนปางหลังว่า

ในอดีตสมัยหนึ่งพระองค์ย่อมรู้ว่าได้เกิดในสมัยเจ้ามหาวงค์แตงอ่อน พระองค์ได้นำไก่มาตั้งแข่งขันกันที่ดอยม่อนไก่แจ้ และมีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นโดยไก่แจ้ตัวหนึ่งแข่งขันท้าทายอยู่ม่อนดอยตรงกันข้าม ขันคุ้นเขี่ยแล้วก็หายไป แต่เจ้าของไก่ตัวนี้ไม่ยอมแข่งขันกับไก่พระพุทธองค์ จึงวิ่งหนีเตลิดไปแอบอยู่ในเขตอำเภอเมืองลี้ เพราะจะสู้ไก่พระพุทธองค์ไม่ไหวจึงหนีลี้ภัยไปอยู่ ณ ที่โน้น ท่านทั้งหลายและนักปราชญ์ผู้รู้อาจจะสงสัยว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น 

ประวัติพระธาตุม่อนไก่เขี่ย

พระธาตุม่อนไก่เขี่ย มีอายุเกือบ ๑,๐๐๐ ปี น่าจะสร้างสมัยพระเเม่เจ้าจามเทวี หรืออาจจะสร้างสมัยหลัง และสันนิษฐานว่าสร้างราวคราวเดียวหรือใกล้เคียงกับพระธาตุลำปางหลวง เพราะอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน จึงเป็นพระบรมธาตุเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่ มีการบูรณะองค์พระธาตุในสมัยครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ต่อมาหลวงพ่อภุมริน มหาวิริโย (ตุ๊ธาตุ) (เจ้าอาวาสวัดพระธาตุม่อนไก่เขี่ย) ได้มาจำพรรษาและบูรณะวัดพระธาตุม่อนไก่เขี่ยอีกครั้งร่วมกับญาติธรรมและศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย เมื่อ ๗ ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน