พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยหรือคนในพื้นที่เรียกกันว่า “เขาหมาจอ”วันนี้เรามาทำความรู้จักแหล่งเรียนรู้เส้นทางธรรมชาติแห่งนี้กัน พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยตั้งอยู่ริมทะเลบริเวณเขาหมาจอ ตำบลแสมสาร ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ นสร. ที่รู้จักกันในนามหน่วยซีล หรือมนุษย์กบ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สากลเรียกว่า Natural History Museum อันเป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงวัตถุธรรมชาติ (ธรรมชาติวิทยา) ทั้งในด้านธรณีวิทยา พฤกษศาสตร์ สัตวศาสตร์ ทางทะเลเป็นแห่งแรกในประเทศไทย มีพื้นที่ประมาณ 16 ไร่ เป็นหนึ่งใน โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ สิ่งก่อสร้างมีลักษณะเป็นอาคารไต่ระดับเขาถึงยอดเนินเป็นอาคารรูปพัด เพื่อให้มองเห็นทัศนียภาพมุมกว้างของเกาะและทะเลโดยมุ่งที่จะให้ผู้ชมเห็นความงดงามของท้องทะเล แล้วเกิดจินตนาการและความปิติที่จะรักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้ตามแนวพระราชดำริพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ว่า "ให้สำรวจตั้งแต่ยอดเขาถึงใต้ทะเล" กองทัพเรือได้น้อมเกล้าฯ รับพระราชดำริมาประมวลเป็นรูปแบบการก่อสร้างและหลักการการจัดการพิพิธภัณฑ์ฯ จนกระทั่งสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยบนฝั่งแสมสารรวมทั้งสวนพฤกษศาสตร์ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนเกาะแสมสารแล้วเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่ 30 ตุลาคม 2550
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงมีพระราชกระแสแนะนำแนวทางการสร้าง ความรู้ความเข้าใจและจิตสำนึก ในเรื่องเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้แก่เยาวชนไว้หลายครั้งหลายครา ครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536 ได้มีพระราชกระแสว่า
"การสอนให้เด็กมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์พืชพรรณนั้น ควรใช้วิธีการปลูกฝังให้เด็กเห็นความงดงามความสนใจ และก่อให้เกิดความปิติที่จะทำการศึกษาและอนุรักษ์พืชพรรณต่อไป การใช้วิธีการสอน การอบรมให้เกิดความรู้สึกกลัวว่าหากไม่อนุรักษ์แล้ว จะเกิดผลเสีย เกิดอันตรายแก่ตนเอง จะทำให้เด็กเกิดความเครียด ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อประเทศในระยะยาว"
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวและค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนในกิจกรรมของท้องถิ่น ในเชิงวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและการท่องเที่ยวทำให้นักศึกษาภาคภูมิใจในแหล่งการเรียนรู้นี้
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 อาคาร ตั้งเรียงรายอยู่เนินเขา โดยมีจุดชมวิวอยู่ที่อาคาร 5 ซึ่งเป็นไฮไลท์ของการมาชมพิพิธภัณฑ์ฯ สามารถมองเห็นวิวทางทะเลที่สวยงามในมุมสูง ของท้องทะเลสัตหีบ และเกาะชื่อดัง ได้แก่ เกาะแสมสาร เกาะขาม ท่ามกลางน้ำทะเลสีฟ้า
รายละเอียดเพิ่มเติม พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย เปิดให้เข้าชมเวลา 09.00-17.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ เสียค่าชมผู้ใหญ่คนละ 50 บาท เด็กอายุตั้งแต่ 3 ปีไม่เกิน 15 ปีบริบูรณ์
คนละ 20 บาท ชาวต่างชาติคนละ 100 บาท ทหารเรือนอกเครื่องแบบแสดงบัตรประจำตัวคนละ 30 บาท
การเดินทางใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ ฯ – ระยองจากมอเตอร์เวย์กรุงเทพ ฯ สุดทางที่ถนนตัดสายบายพาสอ้อมเมืองชลบุรี ขับรถตรงไปทางระยองผ่านทางแยกต่างระดับ ที่เบี่ยงซ้ายไปแหลมฉบังอาจจะ เปลี่ยนเส้นทางใช้ถนนสายนี้ไปทางถนนสุขุมวิทก็ได้ แต่แนะนำให้ ขับรถตรงไปทางระยอง ถึงทาง แยกต่างระดับให้เลี้ยวซ้ายไประยอง และสังเกตป้ายบอกทางไปสัตหีบ พอถึงสามแยกสัตหีบ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถนนสาย 331 ผ่านสนามบินอู่ตะเภาถึงสี่แยกไฟแดงบ้านกิโลเมตร 10 ขับรถตรงไปตามเส้นทางไปท่าเรือ สัตหีบ (ท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด) ไปนิดนึงให้เลี้ยวซ้ายเข้าบ้านช่องแสมสาร สังเกตป้ายบอกทางไปวิหารหลวงพ่อดำและพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ให้ขับไปทางป้ายพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย
ข้อมูลเนื้อหา เรื่องราว เขียนโดย นางสาวประวีณา ดาวมณี ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย นางสาวประวีณา ดาวมณี
ข้อมูลอ้างอิง สำนักงานพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย
เว็บไซต์ www.tis-museum.org