ลำไยสายพันธุ์ เบี้ยวเขียว เป็นพันธุ์พื้นเมืองที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นแหล่งผลิตลำไยที่สำคัญ ลักษณะเด่นของพันธุ์นี้คือ ผลดก เนื้อแน่น รสหวานหอม และสามารถเก็บรักษาได้นานกว่าพันธุ์อื่น
ลักษณะทั่วไป
ต้น : เจริญเติบโตแข็งแรง แตกกิ่งก้านได้ดี ใบมีสีเขียวเข้ม
ผล : มีขนาดกลางถึงใหญ่ เปลือกบางเรียบเป็นสีน้ำตาลอมเขียว ผลสุกเต็มที่จะมีสีเหลืองน้ำตาล
เนื้อ : หนา สีขาวใส กรอบแน่น มีรสหวานจัด มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
เมล็ด : ขนาดเล็ก เมื่อเทียบกับปริมาณเนื้อ ทำให้รับประทานได้สะดวก
จุดเด่น
รสชาติหวานอร่อย เหมาะสำหรับบริโภคสด
มีอายุการเก็บรักษาค่อนข้างนาน ทำให้สามารถขนส่งไปตลาดต่างจังหวัดและต่างประเทศได้
เป็นพันธุ์ที่ปลูกง่ายและให้ผลผลิตค่อนข้างสม่ำเสมอ
การใช้ประโยชน์
ลำไยพันธุ์เบี้ยวเขียวได้รับความนิยมในการบริโภคสด และยังสามารถนำไปแปรรูปได้หลากหลาย เช่น ลำไยอบแห้ง น้ำลำไยกึ่งสำเร็จรูป และขนมหวานต่าง ๆ ทำให้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง และช่วยสร้างรายได้หลักให้กับเกษตรกรผู้ปลูกในภาคเหนือ
การหายไปของลำไยสายพันธุ์เบี้ยวเขียว
ลำไยพันธุ์ เบี้ยวเขียว เคยเป็นสายพันธุ์ที่นิยมปลูกมากในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ เนื่องจากรสชาติหวานหอม เนื้อแน่น และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ลำไยพันธุ์เบี้ยวเขียวกลับค่อย ๆ หายไปจากแปลงปลูกเกษตรกร และถูกแทนที่ด้วยพันธุ์อื่นที่ตอบโจทย์ตลาดมากกว่า
สาเหตุสำคัญที่ทำให้พันธุ์เบี้ยวเขียวลดน้อยลง ได้แก่
การแข่งขันด้านตลาดการค้า – ตลาดทั้งในและต่างประเทศเริ่มต้องการพันธุ์ที่มีผลขนาดใหญ่และสม่ำเสมอ เช่น พันธุ์อีดอ ซึ่งสามารถดึงดูดผู้บริโภคได้มากกว่า
ผลผลิตต่อไร่ไม่สูงเท่าพันธุ์ใหม่ – ลำไยพันธุ์เบี้ยวเขียวแม้รสชาติดี แต่ผลออกไม่ดกเท่าพันธุ์อีดอหรือพันธุ์ใหม่ ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา
ความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง – ผู้บริโภคเริ่มนิยมลำไยผลใหญ่ เมล็ดเล็ก เนื้อหนามากกว่าลำไยพันธุ์พื้นบ้าน
การขยายพันธุ์และการค้าไม่ต่อเนื่อง – ไม่มีการส่งเสริมการปลูกอย่างจริงจัง ทำให้พื้นที่ปลูกและจำนวนต้นพันธุ์ลดลงเรื่อย ๆ
ระบบเศรษฐกิจเกษตร – เกษตรกรต้องการพันธุ์ที่ขายได้ราคาสูงและมีผลผลิตมากเพื่อคุ้มค่าต่อการลงทุน จึงเปลี่ยนไปปลูกพันธุ์อื่น
ผลกระทบจากการหายไป
ความหลากหลายทางพันธุกรรมของลำไยไทยลดลง
รสชาติและเอกลักษณ์เฉพาะของพันธุ์เบี้ยวเขียวเสี่ยงสูญหาย
เกษตรกรบางกลุ่มที่เคยพึ่งพาพันธุ์นี้ต้องปรับตัวตามกระแสตลาด
แนวทางอนุรักษ์
หากต้องการให้พันธุ์เบี้ยวเขียวยังคงอยู่ ควรมีการเก็บรักษาพันธุกรรมในธนาคารพืช การปลูกเชิงอนุรักษ์ในสวนทดลอง และการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในรูปแบบ ลำไยพื้นเมืองคุณภาพ ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น การขายเป็นสินค้าพรีเมียมเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้พันธุ์เบี้ยวเขียวไม่สูญหายไปอย่างถาวร