บอนสี (Caladium spp.) เป็นพืชใบประดับที่มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ โดยเฉพาะประเทศบราซิล แต่ได้แพร่กระจายเข้ามาสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยมานานนับร้อยปี จนได้รับการพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์จนมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนที่ใดในโลก
บอนสีถูกนำเข้ามาในสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้รับความนิยมปลูกในหมู่เจ้านายและขุนนาง เนื่องจากมีใบสีสันสวยงาม แปลกตา และถือเป็นไม้ประดับที่บ่งบอกถึงฐานะ ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น การปลูกบอนสีได้แพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ที่โปรดการสะสมพันธุ์ไม้หายาก
ในสมัย รัชกาลที่ 5 มีการรวบรวมและประกวดบอนสีในวัง ทำให้เกิดความนิยมปลูกอย่างกว้างขวาง ทั้งในราชสำนักและหมู่ประชาชน
เกษตรกรและนักเล่นบอนสีเริ่มเพาะเลี้ยงและคัดเลือกพันธุ์ จนเกิดพันธุ์พื้นเมืองที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น สีแดง ชมพู เขียว ขาว หรือการผสมสีที่สวยงาม
มีการตั้งชื่อพันธุ์ตามเอกลักษณ์ เช่น พญาไร้ใบ, หัวใจสีชมพู, เจ้าหญิงไก่ฟ้า, ตะวันฉาย เจ้ากรุงไกรเซอร์ ฯลฯ
ในช่วงประมาณ พ.ศ. 2520–2540 บอนสีไทยได้รับความนิยมสูงสุด มีการจัดประกวดบอนสีทั่วประเทศ และมีการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่นและยุโรป ทำให้บอนสีไทยเป็นที่รู้จักในนาม “ราชินีแห่งไม้ประดับใบ” (Queen of Foliage Plant)
ปัจจุบันบอนสีไทยยังคงเป็นพันธุ์ไม้ที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาและศิลปะของคนไทยในการพัฒนาพันธุ์ไม้ การผสมผสานลวดลายและสีสันบนใบเปรียบเสมือน “ผลงานศิลป์จากธรรมชาติ” ที่ได้รับการสืบทอดต่อกันมา และยังมีการอนุรักษ์พันธุ์เก่า ควบคู่ไปกับการสร้างพันธุ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ทั้งในประเทศและตลาดโลก
✨ จะเห็นได้ว่า บอนสีไทยไม่ใช่เพียงไม้ประดับธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมการปลูกไม้ประดับของไทย ที่ผสมผสานความงดงามทางธรรมชาติเข้ากับภูมิปัญญาของคนไทยจนมีชื่อเสียงระดับโลก
บอนสีไก่ราชาวดี
บอนสีหนุมานแผลงศร
บอนสีฮกหลงชมพู
บอนสีเกาะเกร็ด
บอนสีไก่แก้วสวรรค์
บอนสีไก่ไพรฑูร
บอนสีไก่สุพรรณ
บอนสีไก่อัมรินทร์
บอนสีม่านนางพิม
บอนสีท้าวพันตา
บอนสีแม่กุสุมา
เศรษฐีวินสันด่างเหลือง