ระบบเกษตรอย่างยั่งยืน ด้วยเกษตรธรรมชาติ
นายสนอง สุภาผล ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี อดีตประธาน ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (ศพก.) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบลนาจอมเทียน ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 107 หมู่ 6 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า แต่เดิมชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่จะทำการปลูกมันสำปะหลัง ปลูกอ้อยทำให้ดินในบริเวณนี้ มีความเสื่อมโทรมมาก แต่หลังจากมีพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้มีการพัฒนาพื้นที่บริเวณโดยรอบนี้เกิดขึ้นทำให้ประชาชนมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ชาวบ้านมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พื้นที่สามารถทำการเกษตรได้ มีหน่วยงานเข้ามาให้ความรู้ชาวบ้านในเรื่องต่างๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงการทำการเกษตรจากเดิมที่ใช้สารเคมีเป็นหลักก็เปลี่ยนมาใช่ปุ๋ยจากธรรมชาติ ปุ๋ยอินทรีย์ ปรับเปลี่ยนพืชที่ใช้ในการปลูกทำให้ดิน ไม่เสื่อมโทรมและนำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำริของในหลวงมาให้ความรู้ ทำให้ชาวบ้านมีความพออยู่ พอกิน พอใช้มีคุณภาพชีวิตดีกว่าเดิมมาก
ปลูกแบบธรรมชาติ เป็นธรรมดาที่มีโรคและแมลง ต้องทำใจ โดยเฉพาะช่วงแรกที่ปลูกแบบเกษตรธรรมชาติ แต่พอมีประสบการณ์จะทำได้ดีขึ้น หลักๆคือต้องปลูกพืชหมุนเวียน อย่าปลูกซ้ำเดิม สลับพื้นที่บ้าง และต้องปลูกพืชผักตามฤดูกาล อาทิ หน้าหนาวปลูกบร็อกโคลี่ อย่างถ้าปลูกถั่วฝักยาวและหัวไชเท้า ปัญหาใหญ่ที่เจอคือ เพลี้ย วิธีแก้ จับเพลี้ยออกหรือทำลายต้นที่ถูกเพลี้ยกิน
แต่ละเดือนเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว มีรายได้ 2 หมื่นกว่าบาท โดยทำกันสองคนกับภรรยา ถือเป็นรายได้ที่ดี ถ้าเทียบกับอาชีพอื่นๆที่เคยทำมา ไม่ว่าจะเป็นการทำประมง เลี้ยงไก่ หรือเลี้ยงหมู
พืชผักของที่นี่จะได้ใบรับรองเกษตรธรรมชาติของศูนย์ฝึกวัดญาณฯ และนำไปขายที่ศูนย์ฝึกในวันอังคารกับวันศุกร์ และขายตลาดนัดบ้านอำเภอ ข้างโรงเรียนสัตหีบวิทยาอีก 2 วันผู้ใหญ่ ยังเป็นผู้ตรวจแปลงของสมาชิกในศูนย์ฝึกฯ เพื่อให้ได้มาตรฐานเกษตรธรรมชาติ
นายสนอง สุภาผล ได้นำไปความรู้และประสบการณ์ไปถ่ายทอดให้กับนักศึกษาและประชาชนทั่วไป เพื่อต่อตอยอดสร้างอาชีพได้ และเป็นศูนย์การ เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบลนาจอมเทียน
แหล่งเรียนรู้ให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้
· ให้นักศึกษาและประชาชนในตำบลนาจอมเทียนได้ฝึกปฏิบัติทักษะการทำน้ำหมักชีวภาพ
· นักศึกษาและประชาชนในตำบลนาจอมเทียนได้นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
. เพื่อบ่มเพาะสร้างนิสัยความพอเพียงให้เกิดในตัวนักศึกษาและประชาชน
สนใจอยากเรียนรู้การทำเกษตรธรรมชาติ ติดต่อผู้ใหญ่สนองได้ที่
09-4991-8671
ข้อมูลเนื้อหา เรื่องราว เขียนโดย นายวีรากร มณีทรัพย์สุคนธ์
ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย นายวีรากร มณีทรัพย์สุคนธ์
เรามารู้จัก Marbling Art กันเถอะ
งานศิลปะที่เกิดจาก การหยด สะบัดสี วาดลวดลาย ลงบนพื้นผิวน้ำเจล โดยวาดลายตามจินตนาการของผู้สร้างสรรค์ ให้มีลักษณะคล้ายชั้นของหินอ่อน หรือเป็นลวดลายอื่นๆ ตามแต่เทคนิคเฉพาะตัว แล้วพิมพ์ภาพลงบนวัสดุต่างๆ เช่น กระดาษ หมอน ผ้า กระเป๋า หมวก ร่มกระดาษ พัด ไม้ เซรามิก รองเท้าเป็นต้น ซึ่งเกิดเป็นลวดลายของผลิตภัณฑ์หนึ่งเดี่ยวในโลก
ผลงานเด่นก็คือยังได้เป็นตัวแทนในการจัดแสดงสินค้า Marbling a Art ตามโครงการผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนสำนักงาน กศน. ต่อนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ by ครูพี่โอ๊ะ ตะลุยโคกหนองนา เมืองบางพระ ชลบุรี อีกด้วย
กศน.ตำบลนาจอมเทียน ตั้งอยู่ในชุมชนวัดหนองจับเต่า ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงมีความเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น มีศิลปะสร้างสรรค์ที่สวยงามมากมาย ซึ่งงานศิลปะเป็นการวาดภาพที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ หรือจินตนาการของมนุษย์ เกิดจากการวาดลายเส้น ขีดเขียนให้ออกมาเป็นรูปร่างลักษณะ หรือสร้างภาพบอกถึงเอกลักษณ์ และลักษณะของสิ่งของนั้น ๆ เป็นลวดลายเฉพาะ เช่น พญาเต่าเรือน โบสถ์พญานาค เป็นต้น และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในชุมชนอีกด้วย
ดังนั้นชุมชนวัดหนองจับเต่า และ กศน.ตำบลนาจอมเทียน จึงมีแนวคิดสร้างสรรค์งานศิลปะกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Marbling Art ให้เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อเป็นการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและสอดคล้องกับเศรษฐกิจชุมชน โดยมี
นางกชกร การักษ์ เป็นวิทยากร ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสัตหีบ โดยความรับผิดชอบของ กศน.ตำบลนาจอมเทียน จึงเห็นความสำคัญในการพัฒนาหลักสูตรการทำ Marbling Art และช่องทางในการขยายอาชีพ เพื่อมุ่งพัฒนาคนให้ได้รับการศึกษาต่อเนื่องตลอดชีวิต อีกทั้งเป็นการพัฒนาทักษะอาชีพการมีงานทำสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้มีความมั่นคงสามารถทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายให้สอดคล้องกับศักยภาพพัฒนาตนเอง สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมที่จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป