ซุ้มประตูทางเข้าวัดวิเวการาม
เจดีย์ สีทองเป็นที่เก็บพระสารีรกฤกธาตุที่ชาวบ้านศรัทธานับถือ
โบถส์ที่มีพระประธานปรางค์ปราบมาร
กศน.ตำบลบางพระอยู่ในวัดวิเวการาม
วัดวิเวการาม
ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
วัดวิเวการาม ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 3 ตำบลบางพระ เป็นวัดฝ่ายธรรมยุติกนิกาย วัดนี้มีเจดีย์ประจุพระบรมสารีริกธาตุให้ประชาชน
สักการะบูชา ทางด้านล่างของพระพุทธบาทบางพระ วัดนี้ แต่ก่อนชาวบ้านเรียกว่า “วัดนอก” ไม่ทราบแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด บริเวณที่สร้างวัดนี้ บางตำนานเล่าว่า เดิมเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณ บางตำนานเล่าว่า พื้นที่บริเวณนี้เดิมเป็นป่าช้าเก่า เป็นวัดร้าง เนื่องจากหลังจากเจ้าอาวาสรูปสุดท้าย คือหลวงปู่หอม กระสุนคด แล้ววัดนี้ก็กลายเป็นวัดร้างมานานถึง 50 ปี วักวิเวการามนี้ ครูบาอาจารย์สายกรรมฐานเคยมาจำพรรษาหลายรูป ยุคแรกๆมีหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย สามเณรประมัย กาฬเนตร ผู้เขียนหนังสือสอนวิปัสสนาที่โด่งดัง หลวงปู้เกิ่ง อธิมุตโต และเจ้าอาวาสคือหลวงปู่บัวพันธ์
ปี 2479 มีการจัดตั้งสถานปฏิบัติธรรมขึ้นในบริเวณนี้ โดยสามเณรประมัย กาฬเนตร ศิษย์ของหลวงปู่สิงห์ ธนตา ยคโม และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เกจิอาจารย์สายอรัญวาสี สามเณรประมัยเดินธุดงค์มาปักลดบนเขาพระบาทบางพระ เกิดนิมิตแห่งแสงสว่างขึ้นในบริเวณป่าช้า และพบโบสถ์เก่าที่นั้น และหลังจากนั้นสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ได้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวของพระกรรมฐานจากภาคอีสาน สายหลวงปู่สิงห์ และหลวงปู่มั่น แต่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาเป็นประจำ
ผู้สร้างวัดวิเวการามขึ้นอีกครั้ง คือ พระอาจารย์เกิ่ง อิมุตตโก (เกิ่ง ทันธรรม) จากจังหวัดนครพนม พระสงฆ์รูปนี้เดินทางจาริกไปยังท้องถิ่นต่างๆ เพื่อแสวงหาอาจารย์ผู้นำแนวทางปฏิบัติกรรมฐาน เมื่อเดินทางมายังชลบุรี ได้สร้างวัดชัยมงคล ที่พัทยา และมอบให้พระครูไพโรจน์ปัญญาคุณ (พระอาจารย์บุญมา) เป็นเจ้าอาวาส แล้วพระอาจารย์เกิ่ง อธิมุตตโก ได้มาสร้างวัดวิเวการามในบริเวณที่เป็นวัดร้างดังกล่าวแล้ว ในปี 2487 สามารถฟื้นฟูการเรียนนักธรรมและบาลีได้
หลวงพ่อคำบ่อ ฐิตปัญโญ แห่งวัดใหม่ บ้านตาล ตำบลโคกสี อำเภอสว่างดินแดน จังหวัดสกลนครบันทึกไว้ว่า ได้พาศรัทธาญาติโยมไปที่วัดไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต เพื่อรอหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เพื่อเข้ารับฟังธรรมโอวาทของท่าน ขณะนั้นหลวงปู่เทสก์มาร่วมงานบูรพาจารย์ที่จังหวัดสกลนคร จนหลวงปู่กลับจากสกลนครไปวัดไม้ขาว หลวงพ่อคำบ่อได้อยู่ที่วัดไม้ขาว จนกระทั่งญาติโยมจังหวัดชลบุรี ขออาราธนาให้กลับชลบุรีด้วยกันในต้นเดือนกรกฎาคม 2498 แล้วมาจำพรรษาอยู่ที่วัดวิเวการาม
หลาวงพ่อคำบ่อ ฐิตปัญญโก บันทึกไว้ว่า “ปีแรกๆที่วัดวิเวการาม ครูบาอาจารย์ท่านพานั่งภาวนาไหว้พระสวดมนต์หกโมงเย็น แล้วก็ภาวนายันเที่ยงคืน ฝึกกันอยู่อย่างนั้น ในระหว่างอยู่ในช่วงนี้ คือปี พ.ศ. 2497-2499 นี้
ปี 2504 พระครูอรุณธรรมรังสี (พระอาจาย์ลุน สุเมโธ) ซึ่งธุดงค์มาจำพรรษาที่วัดนี้ ได้ชักชวนญาติโยมสร้างอุโบสถใหม่ขึ้นอีกหลังหนึ่ง ช่วงนี้สิทธา เชตะวัน บันทึกไว้ว่าที่ศรีราชาหลวงพ่อห้อ พาพระอาจารย์จันทา ถาวโร ซึ่งต่อมาเป็นพระอาจารย์กรรมฐานผู้มีชื่อเสียง ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดวิเวการาม มีเจ้าอาวาสวัดชื่อ พระอาจารย์ลุน เป็นพระธุดงค์กรรมฐานชาวจังหวัดอุบลราชธานี
ปี 2506 หลวงพ่อบัวพันธ์ กตปุญโญ ซึ่งเดินธุดงค์ไปยังที่ต่างๆ ได้กลับมาช่วยพระครูอรุณธรรมรังสีสร้างอุโบสถจนสำเร็จ ต่อมาหลวงพ่อบัวพันธ์ กตปุญโญ ได้เป็นเจ้าอาวาส วัดวิเวการามยาวนานถึง 36 ปี ได้พัฒนาวัดขึ้นเป็นอันมาก ปัจจุบันเจ้าอาวาส
วัดวิเวการามคือ พระอาจารย์ บุญเสน (หลวงตาบุญเสน)
ปัจจุบัน กศน.ตำบลบางพระ ได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าอาวาส (หลวงตาบุญเสน) ให้ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ของคนในชุมชน เป็นที่พักผ่อน ทางจิตใจ สถานที่บริเวณรอบวัดมีความร่มรื่น อากาศถ่ายเถสะดวก รอบนอกของวัด ล้อมรอบไว้ด้วยคลองสุครีพ คลองสุครีพเป็นน้ำกร่อยที่น้ำจืดไหลมาจากเขา และ น้ำเค็มที่มาจากเวลาน้ำทะเลขึ้น เพราะวัดวิเวการาม อยู่ติดทะเล ชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับวัดวิเวการาม จะมาทำบุญเป็นประจำ ทุกวันพระ หรือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา