ประวัติวัดบางกอบัว
วัดบางกอบัว สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. 2274 ประมาณยุคกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดยเล่าสืบต่อกันมาว่า มีชาวมอญชื่อ “มะทอ” และภรรยาชื่อ “ ประทุม ” สองสามีภรรยาได้สร้างขึ้นและขนานนามว่า “วัดบางกะบัว” ต่อมาทางการได้เปลี่ยนชื่อเสียใหม่ให้ต้องตามตำบลจึงเรียกกันว่า “วัดบางกอบัว” มาจนถึงทุกวันนี้
วัดบางกอบัวจึงได้ชื่อว่าเป็นวัดมอญเก่าแก่อีกวัดหนึ่ง เพราะที่วัดนี้เคยมีเสาหงส์ธงตะขาบตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลาโรงครัวหลังเก่ ซึ่งอยู่ด้านข้างของเจดีย์มอญองค์ใหญ่หน้าศาลาการเปรียญในปัจจุบัน แต่ร่องรอยของเสาหงส์ธงตะขาบในปัจจุบันไม่เหลือให้เห็นร่องรอย เพียงแต่คงบอกตำแหน่งที่ตั้งได้ เพราะชาวบางกอบัวส่วนใหญ่ไม่ได้สืบทอดประเพณีของชาวมอญไว้และไม่ทราบว่าต้นตระกูลของใครเป็นชาวมอญบ้างและที่ดินที่สร้างวัดก็ไม่ทราบว่าเป็นของใครมาก่อน ในส่วนที่ทราบคือบริเวณอนามัยและองค์การบริหารส่วนตำบลบางกอบัว ที่คุณย่าทองหล่อ ใยลออ ได้บริจาคที่ดินให้วัดในส่วนนี้เท่านั้น วัดนี้ “สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์” วัดราชบพิธราชวรวิหาร สมเด็จพระสังฆราชเจ้า องค์ที่ 11 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์เคยเสด็จมาประทับแรมที่วัดบางกอบัว ณ กุฏิตำหนักอยู่บริเวณหน้าหอสวดมนต์เป็นกุฏิทรงไทยโบราณคู่ ปัจจุบันได้รื้อออกแล้วเพราะชำรุดผุพัง
ลักษณะพื้นที่ตั้งวัด เป็นที่ราบลุ่ม หน้าวัดอยู่ทางทิศเหนือ ตรงข้ามปากคลองพระโขนงภายในวัดมี อาคารเสนาสนะต่าง ๆ ดังนี้ อุโบสถกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๔ เมตร กุฎีสงฆ์ จำนวน ๒๒ หลัง นอกจากนี้มี หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ ซึ่งเป็นทรงไทยโบราณ สำหรับปูชนียวัตถุ มีพระประธานในอุโบสถและ เจดีย์มอญซึ่งอยู่ด้านหน้าวัด
วัดบางกอบัวได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อประมาณ พ.ศ.2333 (อ้างอิงจาก หนังสือประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม 2 กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ หน้าที่ 76 เลขทะเบียนหนังสือ น 276 10343 เลขหมู่ 294.3135 ก 521 ป ล.2 ฉ.4 และได้จากการสอบถามพระครูโกมุทสมุทรคุณ(ฝอยทอง เขมปญโญ) เจ้าอาวาสวัดบางกอบัว และพระณรงค์ โรจนสังวรณ์ (ฉายาจารุวณฺโณ หรือพระปุ๋ย) ท่านได้เล่าให้ฟังว่า สมภารจีน อุปโก เจ้าอาวาสวัดทอง ตั้งอยู่ในคลองพระโขนง เป็นผู้เขียนประวัติวัดไว้ ท่านสมภารจีน อุปโก ท่านนี้ ท่านมีความรู้ถึง 5 ภาษาด้วยกัน คือ ภาษามอญ อังกฤษ ฝรั่งเศส ลาติน สันสกฤต หนังสือที่ท่านเขียนไว้เป็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ พระณรงค์ท่านได้เล่าว่าหนังสือเล่มนี้ได้สูญหายไปตอนท่านย้ายกุฏิประมาณปี พ.ศ.2542 ปัจจุบันมีพระครูใบฎีกาสุวินท์ สุวิชาโน เป็นเจ้าอาวาสวัดบางกอบัว
หลวงปู่เหมือน ติสสโร พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของวัดบางกอบัว
"พระครูโกมุทสมานคุณ" หรือ "หลวงปู่เหมือน" วัดบางกอบัว อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในอดีต ลูกศิษย์ลูกหา ชาวบ้านทั่วไปได้สัมผัสถึงความเมตตาและวัตรปฏิบัติที่งดงาม ต่างขนานนามท่านว่า "เทพเจ้าแห่งบางกอบัว" เป็นชาวตำบลบางกอบัวโดยกำเนิด มีนามเดิม เหมือน ปุระบุรณะ เกิดเมื่อ วันที่ 18 ก.พ.2422 ตรงกับวันพุธขึ้น 9 ค่ำ เดือน 4 ปีเถาะ ที่ ต.บางกอบัว อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อเยาว์วัย เป็นเด็กที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ขยันขันแข็ง เป็นที่รักใคร่ของพ่อแม่และญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน อายุครบบวช เข้าพิธีอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดลาดกระบัง ต.ลาดกระบัง อ.แสนแสบ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2433 มีเจ้าอธิการแก้ว วัดกองแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อจิตร วัดบางกอบัว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ทอง วัดลาดกระบัง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา "ติสสโร" หลังจากบวชแล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดลาดกระบัง 1 พรรษา ต่อมา พ.ศ.2444 ย้ายมาอยู่ที่วัดบางกอบัว
"หลวงปู่เหมือน" เป็นผู้คงแก่เรียน ศึกษาวิทยาคมจากพระอาจารย์คง วัดด่าน บางโพงพาง และพระอาจารย์ทอง วัดลาดกระบัง ได้เล่าเรียนวิชาอาคมจากพระอาจารย์ทั้งสองจนแตกฉาน ท่านยังมีสหธรรมิกเป็นอดีตพระเกจิอาจารย์ดังอีก 2 รูป นั่นก็คือหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก และหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว ไปมาหาสู่แล้วได้แลกเปลี่ยนวิชาอาคมซึ่งกันและกันเสมอ ตลอดเวลาที่อยู่ในเพศบรรพชิต หลวงปู่เหมือนได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่พุทธศาสนามากมาย รวมทั้งชาวตำบลบางกอบัวและตำบลใกล้เคียง นอกจากท่านจะเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งในเรื่องคาถาอาคมแล้ว ท่านยังเป็นพระหมอโบราณที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หากชาวบ้านเจ็บไข้ได้ป่วยจะมาให้ท่านรักษาโดยใช้ยาสมุนไพร สูตรสมุนไพรของหลวงปู่เหมือนชาวบ้านรู้จักกันดีในนามของ "ยาเขียว" โดยท่านจะนำสมุนไพรมาตากให้แห้ง แล้วมาบดปั้นเป็นลูกกลอน หรือไม่ก็เอาสมุนไพรมาต้มน้ำให้ผู้ที่เจ็บป่วยกิน ผู้ป่วยจะหายเจ็บไข้ทุกรายไป
เนื่องจากความดีของท่าน คณะสงฆ์จึงแต่งตั้งให้ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางกอบัว แทน พระครูสัทธาภิรม (ฟัก) โดยได้เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่พระครูโกมุทสมานคุณ และเป็นเจ้าคณะตำบลบางกอบัว รวมทั้งยังเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อปี พ.ศ.2476
วัตถุมงคลของหลวงปู่เหมือน ปัจจุบันเป็นที่นิยมของนักสะสมอย่างมาก ส่วนใหญ่สร้างด้วยเนื้อดิน ที่เป็นผงพุทธคุณก็มีแต่เป็นส่วนน้อย ส่วนมากจะลงเหล็กจารด้านหลังองค์พระ ที่ไม่ได้ลงเหล็กจารก็มีแต่ท่านก็ปลุกเสกรวมกันทั้งหมด ส่วนเหรียญรุ่นแรกสร้างเมื่อปี พ.ศ.2476 ท่านสร้างเพื่อแจกเป็นที่ระลึกในคราวฉลองตราอุปัชฌาย์ของท่านประมาณ 1,500 เหรียญ มีเนื้อเงิน 200 เนื้อทองแดงกะไหล่เงินกะไหล่ทอง 300 เนื้อทองแดงรมดำและ ไม่รมดำ 500 เนื้ออัลปาก้า 500 เหรียญ นอกจากนี้ ยังมีรูปถ่ายของท่าน ด้านหลังรูปมีทั้งจารดินสอและไม่มีจาร ส่วนเหรียญรุ่นสองลูกศิษย์สร้างแจกในงานพระราชทานเพลิงศพประมาณ 3,000 เหรียญ โดยมีหลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว เป็นผู้ปลุกเสกให้
มรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2504 เวลา 16.00 น. สิริอายุ 82 ปี พรรษา 61
ข้อมูลจาก [ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม