เรื่องเล่า....เส้นทางทุเรียน

ผลไม้ชื่อดังยอดฮิตติดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ทั้งราคาและความนิยมคงจะไม่พ้นราชาผลไม้ก็คือทุเรียน นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันผู้คนชื่นชอบการบริโภคทุเรียนกันเป็นจำนวนมาก เมื่อย้อนหลังไปไม่ถึงสิบปี มานี้ ปัจจุบันกลายเป็นว่าหากใครไม่กินทุเรียนถือว่าตกเทรนด์ไปโดยปริยาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโลก ไร้พรมแดนช่องทางการซื้อสินค้าที่มากและหลากหลายเวลาจะซื้ออะไรก็ต้องออกไปซื้อของตามห้างร้านหรือตลาดเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้กลับสามารถซื้อของได้ผ่านทางช่องทางออนไลน์ที่มีของให้เลือกสรรจาก ทั่วทุกมุมโลก ก็สามารถนำมาส่งได้ถึงหน้าบ้านเพียงแค่คลิก ชาวต่างประเทศที่ชื่นชอบทุเรียนอย่างมาก คือชาวจีนที่สั่งซื้อทุเรียนจากเมืองไทยไปบริโภคเป็นปริมาณที่มากดูได้จากสถิติการจำหน่ายทุเรียน ผ่านทางอาลีบาบา เว็บไซต์ขายส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อทุเรียนกลายเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญเช่นนี้

พระยาแพทย์พงศาวิสุทธาธิบดี (สุ่น สุนทรเวช) กล่าวถึงการปลูกทุเรียนของภาคกลางว่าประมาณ พ.ศ.2397 มีการทำสวนทุเรียนที่ตำบลบางกร่าง คลองบางกอกน้อยตอนแรก ๆ นั้นเป็นการขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ก่อนพัฒนามาเป็นการปลูกด้วยกิ่งตอนทุเรียน 3 สายพันธุ์ที่นำเมล็ดมาเพาะ ได้แก่ อีบาตร (ทุเรียนนนทบุรี) ทองสุก และการะเกด ใช้เมล็ดของทั้ง 3 สายพันธุ์นี้ ปลูกทำให้เกิดทุเรียนลูกผสมขึ้นมากมาย แล้วจึงปรับปรุงสายพันธุ์มาเรื่อย จนเป็นสายพันธุ์ทุเรียนในปัจจุบันแม้ว่าทุเรียนจะปลูกได้ในทุกภาค ของประเทศไทย แต่แหล่งผลิตทุเรียนที่สำคัญของประเทศ คือ จันทบุรี ตราด ระยอง และปราจีนบุรี

ซึ่งมูลค่าการส่งออกของทุเรียน จากข้อมูลของ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 (สวพ.6) ในผลผลิตฤดูกาลนี้ ผลไม้ประเภททุเรียน ของจังหวัดจันทบุรี มียอดส่งออกไปยังประเทศจีนมากกว่า ปีที่ผ่าน ๆ มา สูงกว่าเท่าตัว โดยมีการส่งออกผลผลิตทุเรียนไปแล้ว 25,030 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนัก ต่อตู้ละ 18 ตัน คิดเป็นน้ำหนักผลผลิตทุเรียนกว่า 450,000 ตัน หากคิดแค่ราคากิโลกรัมละ 100 บาท จะมีมูลค่าการส่งออกของปีนี้มีมูลค่าเป็นเงินไทยมากกว่า 4 หมื่นล้านบาท

ที่ตั้ง จังหวัดจันทบุรี