แกงกล้วยใส่ไก่บ้าน

แกงกล้วยใส่ไก่บ้าน

แกงกล้วยเป็นแกงพื้นบ้านของชาวเขมร และกูย(ส่วย) เรียกว่า ซันลอว์เจ๊กจ์ แปลว่า แกงกล้วย เป็นอาหารพื้นเมืองของชาวกูย (ส่วย) และชาวเขมร นอกจากเป็นอาหารเขมรแล้วยังแพร่หลายอยู่ในหมู่ชาวกูยในเมืองไทยในบริเวณอีสานใต้ เช่นที่จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ โดยเฉพาะที่ อำเภอพลับพลาชัย

กูยนี้แต่เดิมเป็นรัฐอิสระ ก่อนที่จะมารวมกับเขมร ชาวกูยมีความสามารถในการคล้องช้างที่เรียกว่า"โพนช้าง"ชาวกูยส่วนใหญ่จึงเป็นคนเลี้ยงช้าง และปลูกหม่อน เลี้ยงไหม ทอผ้าไหม ชาวกูยจำนวนมากอพยพมาสู่ดินแดนแหลมทองในสมัยอยุธยา และอยู่ร่วมกันกับชาวเขมรสูง และชาวลาว ได้ผสมกลมกลืนวัฒนธรรมจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แกงกล้วยนี้นอกจากจะนิยมทำกินโดยทั่วไปแล้ว ยังเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงแขกในงานศพ เนื่องจากต้องทำอาหารเพื่อเลี้ยงคนจำนวนมาก การเอากล้วยมาแกงก็ไม่ต้องซื้อหา เพราะกล้วยเป็นของที่หาง่าย มีปลูกกันโดยทั่วไปทุกครัวเรือนอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ถึงการตัดสายสัมพันธ์ระหว่างผู้ตายกับญาติมิตร ที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วย กล้วยที่ใช้ทำแกงกล้วยนั้นเป็นกล้วยดิบ เช่น กล้วยส้ม กล้วยตีบ กล้วยตีนเต่า แต่เราก็สามารถใช้กล้วยน้ำว้าดิบมาแกงได้อร่อยเช่นกัน

วิธีแกงกล้วยก็เหมือนกับการทำแกงเผ็ดทั่วไป แต่ต้องเป็นไก่บ้าน ใส่กล้วยดิบที่ปอกเปลือกออก เวลาปอกนั้นต้องปอกให้เกลี้ยงอย่าให้มีเยื่อของเปลือกติดมา มิฉะนั้น เวลาแกงแล้วสีจะดำคล้ำไม่น่ามอง แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ เพราะเหตุนี้กระมังชาวเขมรจึงเชื่อกันว่าแกงกล้วยเป็นแกงที่ใช้ตัดสัมพันธ์ระหว่างคนตายกับคนเป็น ปอกเสร็จแล้วก็แช่น้ำเกลือเอาไว้ สีจะได้ไม่หมอง หากกล้วยฝาดให้นำไปต้มน้ำทิ้งก่อน

ปัจจุบันการเตรียมกล้วยนั้นจะปอกเปลือกเขียวด้านนอกออกแต่ยังคงมีเปลือกติดอยู่หันเป็นชิ้นพอดีคำให้สวยงาม เครื่องแกงของแกงกล้วยประกอบไปด้วย ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า เกลือ กะปิ พริกแห้ง หอม กระเทียม กะทิ ขมิ้น ปลาร้า กระชาย น้ำปลา

อัตลักษณ์ของแกงกล้วยไก่บ้าน คือ ต้องเป็นกล้วยดิบ ไม่อ่อนไม่แก่เกินไป หากแก่เกินจะมีรสชาติเปรี้ยวและไก่ต้องเป็นไก่บ้าน เครื่องปรุงที่ขาดไม่ได้คือ ปลาร้าเพิ่มความกลมกล่อม(หากทานปลาร้าไม่ได้ใช้กะปิแทน)