ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นตระกูลของไวรัสที่ก่อให้อาการป่วยตั้งแต่โรคไข้หวัดธรรมดาไปจนถึงโรคที่มีความรุนแรงมาก เช่น โรคระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS-CoV) และโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS-CoV) เป็นต้น ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อนในมนุษย์ก่อให้เกิดอาการป่วยระบบทางเดินหายใจในคน และสามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ โดยเชื้อไวรัสนี้พบครั้งแรกในการระบาดในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงปลายปี 2019
ถ้าเกิดว่าติดเชื้อไวรัส COVID-19 จะมีระยะในการฟักตัวประมาณ 2-14 วัน ซึ่งในช่วงเวลานี้ สามารถแพร่กระจายโรคได้ แม้อยู่ในระยะฟักตัวถึงแม้จะไม่มีอาการใดๆ แสดงออกมาเลย โดยผู้ป่วย 1 ราย สามารถแพร่กระจายเชื้อให้กับคนอื่นได้เฉลี่ย 2-4 คน ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของประชากร และ สภาพอากาศ สำหรับอาการข้างต้น
ไอ
เจ็บคอ
น้ำมูกไหล
คัดจมูก
หายใจแล้วมีอาการเหนื่อย
แน่นหน้าอก
เมื่อยเนื้อ เมื่อยตัว
ปวดหัว อ่อนเพลีย
ท้องเสีย
อาเจียน
มีไข้
กินสู้โรค พื้นฐานของระบบภูมิคุ้มกันที่ดีมาจากการได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้ว ควรเสริมด้วยสารอาหารที่เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง โดยเฉพาะโปรไบโอติกแบคทีเรีย และสารอาหารจำพวกเบต้ากลูแคน
พักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนหลับให้ได้ 7 – 8 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังควรเข้านอนเร็วเพื่อให้ต่อมหมวกไตหลั่งฮอร์โมน DHEA ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนเพศหญิงและชาย ทำหน้าที่ช่วยต้านความเครียดและกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ออกกำลังกาย การออกกำลังกายช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เม็ดเลือดขาวในร่างกายมีความแข็งแรงพอที่จะจัดการกับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่าย แต่การออกกำลังกายที่มากเกินไปก็อาจทำให้ภูมิคุ้มกันตก ทำให้มีโอกาสรับเชื้อได้ง่ายขึ้น จึงควรออกกำลังกายแต่พอดี วันละ 30 – 60 นาทีต่อวันอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอแล้ว
ไม่สูบบุหรี่ รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจาก COVID-19 มากกว่า ทำให้เยื่อบุโพรงจมูกทำงานได้แย่ลง ทั้งการสูบเป็นระยะเวลานานจะนำไปสู่โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เสี่ยงติดเชื้อมากยิ่งขึ้น โดยมีรายงานจากวารสารการแพทย์จีนระบุว่า ในผู้ป่วยที่มีอาการทรุดลงรวมถึงเสียชีวิตเป็นผู้สูบบุหรี่มากกว่าผู้ไม่สูบบุหรี่ถึง 14 เท่า!
ทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง ไม่เครียด พยายามทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้ เพื่อไม่ให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเครียด หรือที่เรียกว่าคอร์ทิซอลมากเกินไป จนส่งผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้แย่ลง และเมื่อจิตใจปลอดโปร่ง จะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน DHEA ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย