ที่มาของอาหาร “ซันลอเจก” เป็นภาษาเขมร หมายถึง “แกงกล้วย” ซันลอ = แกง, เจก = กล้วย เนื่องจากเมื่อก่อน การคมนาคมขนส่งต่าง ๆ ยังไม่สะดวก อาหารการกินต่าง ๆ ล้วนหาได้จากเรือกสวน ไร่นา และรอบ ๆ บริเวณบ้าน เมื่อมีคนตายในหมู่บ้าน เจ้าของงานจะจัดหาอาหารต้อนรับผู้มาร่วมงานศพ ซึ่งมักจะทำแกงกล้วยเป็นอาหารหลัก เพราะบ้านเกือบทุกหลัง นิยมปลูกต้นกล้วย เพราะต้นกล้วยสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ประเพณี/ความเชื่อ เป็นอาหารพื้นบ้าน รับประทานเป็นกับข้าว นิยมใช้เป็นอาหารเลี้ยงแขกที่ร่วมงานศพ เพราะเชื่อว่าเป็นการตัดสายสัมพันธ์ ระหว่างผู้ตายกับญาติมิตรที่ยังมีชีวิตอยู่ เครื่องปรุง/ส่วนผสม ๑. กล้วยน้ำหว้าดิบ ๗ ผล ๒. เนื้อไก่ ๕ ขีด ๓. มะพร้าว ๕ ขีด ๔. ใบแมงลัก ๕น ๕. ใบมะกรูด ๓ ใบ ๖. ใบชะอม ๗ ยอด ๗. ตะไคร้ ๒ ต้น ๘. ข่า ๓ แว่น ๙. หัวหอม ๕ หัว ๑๐. กระเทียม ๓ กลีบ ๑๑. พริกแห้ง ๕ เม็ด ๑๒. เกลือ ๑ ช้อนชา ๑๓. น้ำปลา ๑ ช้อนโต๊ะ ๑๔. น้ำตาลทราย ๑ ช้อนโต๊ะ ๑๕. ผิวมะกรูด ๑ ช้อนชา ๑๖. กะปิ หรือปลาร้า หรือปลาอินทรีย์ อย่างใดอย่างหนึ่ง ขั้นตอน/วิธีทำ ๑. โขลกพริกแห้ง ข่า ตะไคร้ หัวหอม กระเทียม และเกลือ รวมกันให้ละเอียด ๒. หั่นไก่เป็นชิ้น ๆ ๓. ปอกเปลือกกล้วยน้ำหว้าดิบ หั่นตามยาว หรือหั่นเฉียง แช่ในน้ำมะหนาวหรือน้ำเกลือ เพื่อไม่ให้กล้วยที่ปอกแล้วมีสีดำ ๔. คั้นมะพร้าวให้ได้หัวกะทิ ๑ ถ้วย หางกะทิ ๓ ถ้วย นำหัวกะทิเคี่ยวให้แตกมัน ใส่พริกแห้งลงผัดให้หอม เติมหางกะทิ ๑ ถ้วย ใส่ไก่ลงผัด เติมน้ำกะทิที่เหลือ พอเดือดใส่กล้วย ปรุงรสด้วยน้ำตาล ปลาร้าหรือปลาอินทรีย์ อย่างใดอย่างหนึ่ง ใส่ใบมะกรูด ใบแมงลัก
หมาน้อย” อาหารพื้นบ้านอีสาน บ้านสนม ต.สนม อ.สนม จ.สุรินทร์
“หมาน้อย” เป็นอาหารพื้นบ้านทางภาคอีสาน แถบภาคเหนือตอนบนเรียก “แอ่งแต๊ะ” วัตถุดิบที่ใช้ คือ ใบหมาน้อย หรือใบแอ่งแต๊ะ มีคุณสมบัติการเปลี่ยนรูปจากของเหลวเป็นวุ้นแต่ไม่ถึงกับแข็งเหมือนวุ้นทั่วไป แต่จะเป็นวุ้นแบบเด้งดึ๋งดั๋งไปมาเมื่อใช้ช้อนตักลงไปที่หมาน้อย
หมาน้อย เป็นพืชที่จัดอยู่ในประเภทสมุนไพร ชนิดยาเย็น ช่วยดับกระหายได้เป็นอย่างดี
รายละเอียด
เดือน ๖ ๗ ๘ ป็นช่วงฤดูฝน ในนามักจะมีปลาจำนวนมาก ชาวนาจะจับปลาที่มีขนาดใหญ่มาทำเป็นอาหารประเภท ปิ้ง ย่าง ส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้ในงานพิธี เช่นพระภูมิลงนา วิธีทำ ๑. ผ่าท้องควักไส้ปลาทิ้ง แล้วล้างให้สะอาด ๒. พอสะเด็ดน้ำ นำมาคลุกกับเกลือแล้วใช้ไม้หนีบ นำไปปิ้งจนสุก
คำสำคัญ
อาหารพื้นบ้านสุรินทร์ ปลาย่าง ปลาปิ้ง ไตรยอัง
หมวดหมู่
ภูมิปัญญาท้องถิ่น
สถานที่ตั้ง
ตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์, ตลาดสีเขียว อบจ.สุรินทร์
ตำบล นอกเมือง อำเภอ เมืองสุรินทร์ จังหวัด สุรินทร์
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
ตำราอาหารชาติพันธุ์ชาวไทยเขมรจังหวัดสุรินทร์
บุคคลอ้างอิง สมนึก รัตนกำเนิด
ชื่อที่ทำงาน มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
เลขที่ ๑๘๖ หมู่ที่/หมู่บ้าน ๑ ถนน สุรินทร์-ปราสาท
ตำบล นอกเมือง อำเภอ เมืองสุรินทร์ จังหวัด สุรินทร์
Cr : แหล่งที่มา http://nariniceice.blogspot.com/
ละแวกะดาม (ในภาษาเขมรถิ่นไทย), ละแวกะตาม (ในภาษากูย), ละแวกะปู (ในภาษาไทยถิ่นอีสาน)[1] หรือ แกงคั่วปู เป็นอาหารประเภทแกงชนิดหนึ่งของชาวไทยเชื้อสายเขมร[2] และชาวกูย[3] ในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างหรืออีสานใต้ และพบได้ทางตอนบนของประเทศกัมพูชา[2] แกงชนิดนี้มีลักษณะเป็นแกงน้ำขลุกขลิก มีวัตถุดิบหลักคือ มันปูนา คั่วกับพริกแกงที่ทำจากสมุนไพร สามารถเพิ่มเนื้อสัตว์หรือผักเพื่อเพิ่มโภชนาการได้[2][4] ปัจจุบันถือเป็นอาหารหายาก[4] ในประเทศไทยจะนำอาหารชนิดนี้นำเสนอบนโต๊ะอาหารรับแขกในงานราชการ และใช้ไหว้ผีบรรพบุรุษในพิธีแซนโฎนตา ส่วนประเทศกัมพูชาก็นำเสนออาหารชนิดนี้บนโต๊ะอาหารเพื่อรับรองแขกผู้มีเกียรติในพิธีขึ้นเขาพนมกุเลน[2]
ภาคเหนือของประเทศไทย มีอาหารที่ใช้กรรมวิธีเดียวกันแต่มีวัตถุดิบต่างกันเล็กน้อย เรียกว่า มอบปู[5] หรือ มอกปู[6]
เมนูอาหารผ่านการคัดเลือก ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) "รสชาติ... ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ร่วมกับนายกเหล่ากาชาดจังหวัด สภาวัฒนธรรมจังหวัด และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด บูรณาการร่วมกันเพื่อค้นหาเมนูที่เสี่ยงใกล้สูญหาย มีประโยชน์ทางโภชนาการ และเป็นเมนูประจำแสดงอัตลักษณ์ของท้องถิ่น ซึ่งสุรินทร์ มีอาหารที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือก คือ เบาะโดง
"เบาะโดง" เมนูท้องถิ่น จ.สุรินทร์ ที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม คัดเลือกเป็นส่วนหนึ่งของการตามหารสชาติที่หายไป TheLostTaste โดยร่วมกับ สนง.วัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "หนึ่งจังหวัดหนึ่งเมนูเชิดชูอาหารถิ่น"
เบาะโดง มาจากภาษาถิ่น (เขมร) เบาะโดง มาจากคำ 2 คำคือ เบาะ =ตำ,ป่น และ โดง = มะพร้าว มีต้นกำเนิดมาจากบ้านทนมีย์ ตำบลเทนมีย์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า แต่เดิมเป็นพื้นที่ ที่มีต้นมะพร้าวจำนวนมาก จึงนำมาแปรรูปเป็นอาหาร เบาะโดงจึงเป็นน้ำพริกประจำถิ่น ที่ใช้เนื้อมะพร้าวแก่ขูดแล้วคั่วให้สุก หอมได้ที่ก็นำมาตำให้ละเอียดกับเครื่องปรุงน้ำพริกอื่นๆ เช่น กระเทียม พริก ปลาร้า ปลาทู ทานกับข้าวสวย พร้อมผักพื้นบ้านในท้องถิ่น
อย่างไรก็ตามเมนูเบาะโดง เป็นเมนูโบราณของพื้นถิ่นจังหวัดสุรินทร์ ที่ถูกลืมเลือน หรือลืมรสชาติไปบ้างแล้ว ซึ่งในปัจจุบันมีการปรับสูตรที่แตกต่างกันไป แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน และหารับประทานได้ยาก แต่สามารถทำตามที่บ้านได้ง่ายๆ หากท่านที่สนใจสามารถหาซื้อได้ที่ศูนย์การเรียนรู้บ้านเทนมีย์ ตำบลเทนมีย์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
"อังแกบบอบ " (อัง-แกบ-บอบ) เป็นภาษาเขมรท้องถิ่น แปลว่า กบยัดไส้ อาหารพื้นบ้านของแซ่บทางอีสาน ที่หาทานได้ยากยิ่ง
แต่ผู้เขียนก็ไม่หวั่นจริงๆเพราะฝึกทำจนชิน หากินได้สบายถ้าอยากชิม เมนูนี้รับรองว่าอร่อยถูกลิ้นท่านผู้อ่านที่รักอย่างแน่นอน
วัตถุดิบที่สำคัญก็คือ กบ ซึ่งผู้เขียนจะใช้เป็นกบนาตามธรรมชาตินะคะ เพราะรสชาติจะอร่อยกว่ากบเลี้ยง ที่สำคัญกบนาจะไม่มีกลิ่นคาวเหมือนกบเลี้ยงด้วย
อ่านต่อได้ที่ https://exclusive.postjung.com/1362802