แหล่งเรียนรู้

พระธาตุหงส์หิน

พระธาตุหงส์หิน เจ้าหงส์หินโพธิ์สัตย์เจ้าผู้สืบสายเจ้ามาจากพาราณสี ในครั้งกระนั้น ซึ่งต่อมาเรียกว่าเวียงลอ ในยุคเดียวกันกับที่เชียงแสนเป็นราชธานี เพราะสังเกตเห็นได้จากศิลปะการสร้างพระธาตุเจดีย์ และพระพุทธรูปโยคทั่วไปเป็นแบบเชียงแสนในสมัยพระเจ้าหงส์หินเป็นเจ้าผู้ครองนครเวียงลอนั้น พระองค์ทรงเป็นเจ้าผู้ทรงธรรมถึงกับได้รับพระสมญานามว่าเป็น "พระโพธิ์สัตย์" และเป็นพระโพธิ์สัตว์พระองค์เดียวแห่งสุวรรณภูมิ ตามคำบอกเล่าจากผู้เฒ่า ผู้แก่ ว่าหินที่มีรุปลักษณะคล้ายหงส์ ที่ตั้งอยู่บนดอยเรือนั้น มีควาาเก่าแก่มาหลายร้อยปี ผู้เฒ่าได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า รูปหงส์หินนี้เดิมทีมีรูปงดงาม มีหัว มีหาง มีปีก เหมือนหงส์มากต่อมาในปี พ.ศ.2450 พระครูมหาหน่อแก้ว กับท่านพระครูบาอภิชัย ได้สร้างพระเจดีย์ขึ้นที่บนดอยแห่งนี้ โดยสร้างครอบรูปหงส์หิน เพื่อจะให้พระธาตุศักดิ์สิทธิ์แต่ก็ไม่สามารถทำใหเจดีย์ที่สร้างสวยงามได้ จึงทุบเอาปีก หัว หางของหงส์หินออก แล้วสร้างเจดีย์ครอบเอาไว้ต่อมาบ้านเมืองเกิดฝนไม่ตกตามฤดูกาล บ้านเมืองแห้งแล้ง และเกิดฝนผ้าคะนองมีฟ้าผ่าลงที่เจดีย์ ทำให้พระเจดีย์แตกพังทลายหมด เหลือแต่รูปหินธรรมดา ไม่มีปีก หัว หาง เหมือนเดิมไว้ให้เราเห็นมาจนทุกวันนี้ นับตั้งแต่นั้นมาบ้านเมืองก็อยู่เย็นเป็นสุขตลอดมาต่อมาในปี พ.ศ.2532 ได้มีพระอนันพุทธรรมโม วัดพระธาตุแสงแก้วมงคล อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ได้มาสร้างอนุสาวรีย์ เจ้าพ่อหงส์หินโพธิสัตว์ ไว้ทางทิศตะวันออกและสร้างรูปเจ้าหงส์หินและแม่เฒ่าขี่หลังหงส์หิน อยู่ใกล้กับหินรูปหงส์เดิม เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังไว้เป็นที่เคารพสักการะในโบราณสถานและโบราณวัตถุ สืบต่อไปชั่วกาลนาน
วัดพระธาตุหนองห้า (พระธาตุศรีเวียงลอ) ตั้งอยู่เชิงดอยจิกจ้อง นอกเขตคูเมือง กำแพงเมืองเวียงลอด้านทิศตะวันตก จากเดิมใกล้ๆวัดนั้นเป็นหนองที่มีต้นห้าหรือต้นหว้าใหญ่ขึ้นอยู่ ชาวบ้านจึงพากันเรียกว่า “วัดพระธาตุหนองห้า”ก่อนหน้านั้นพบเจดีย์ทรงระฆังคว่ำศิลปะล้านนา-สุโขทัย อายุราวพุทธศตวรรษที่ 20 – 21 จำนวน 1 องค์เท่านั้น จากการสำรวจในเวลาต่อมาจึงพบฐานวิหารขนาดใหญ่จมอยู่ใต้พื้นดินด้านตะวันตกของเจดีย์