ใบความรู้ เรื่อง ข้อมูลและการเก็บรวบรวมข้อมูล
ความหมายของข้อมูล
ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของสถานที่ ฯลฯ โดยอยู่ในรูปแบบที่ เหมาะสมต่อการสื่อสาร การแปลความหมายและการประมวลผล
ชนิดของข้อมูลแบ่งได้หลายชนิด ดังนี้
1. ข้อมูลตัวเลข จะประกอบด้วยตัวเลขเท่านั้น เช่น 145 , 2468 เป็นต้น มักจะนำมาใช้ในการคำนวณ
2. ข้อมูลอักขระ ประกอบด้วย ตัวอักษร ตัวเลข และอักขระพิเศษหรือเครื่องหมายพิเศษต่าง ๆ เช่น บ้านเลขที่ 13/2 เป็นต้น ถ้ามีตัวเลขประกอบ จะมิได้นำมาคำนวณ
3. ข้อมูลภาพ รับรู้จากการมองเห็น เช่น ภาพดารา ภาพสัตว์ต่าง ๆ
4. ข้อมูลเสียง รับรู้จากทางหูหรือการได้ยิน เช่นเสียงพูด เสียงเพลง เป็นต้น
แหล่งที่มาของข้อมูลอาจจะแบ่งได้ 2 รูปแบบ คือ
1. ข้อมูลปฐมภูมิ หมายถึง ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมหรือบันทึกจากแหล่งข้อมูลโดยตรง ซึ่งอาจจะได้สอบถาม การสัมภาษณ์ การสำรวจ การจดบันทึก ตลอดจนการจัดหามาด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติต่างๆที่ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลให้ได้ เช่น เครื่องอ่านรหัสแท่ง เครื่องอ่านแถบแม่เหล็ก ข้อมูลปฐมภูมิจึงเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ได้มาจากจุดกำเนิดของข้อมูลนั้นๆ
2. ข้อมูลทุติยภูมิ หมายถึง ข้อมูลที่มีผู้อื่นรวบรวมให้แล้ว บางครั้งอาจจะมีการประมวลผล เพื่อเป็นสารสนเทศผู้ใช้ข้อมูลไม่จำเป็นต้องไปสำรวจเอง ดังตัวอย่างข้อมูลสถิติต่างๆ ที่หน่วยงานรัฐบาลทำไว้แล้ว เช่น สถิติจำนวนประชากรแต่ละจังหวัด สถิติการส่งออกสินค้า สถิติการนำเสนอสินค้า ข้อมูลเหล่านนี้มีการตีพิมพ์เผยแพร่เพื่อให้ใช้งานได้หรือนำเอาไปประมวลผลต่อ
แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ ; ที่เผยแพร่ของประเทศไทย
ปัจจุบันแหล่งข้อมูลทุติยภูมิมีการเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตมีหลากหลายรูปแบบ ดังต่อไปนี้
1. ไฟล์ :
1.1 ไฟล์ที่ได้จากโปรแกรมตารางการทำงาน เช่น xls
1.2 ไฟล์แบบข้อความ เช่น csv
1.3 ไฟล์รูปภาพ เช่น png , jpg
** ส่วนไฟล์ pdf เป็นไฟล์ที่ยากจะนำไปใช้งาน หากต้องการไฟล์ที่แก้ไขได้ต้องเป็นไฟล์ word แทน
2. รายงานหรือตารางบนเว็บไซต์ : เป็นข้อมูลที่ถูกสรุปไว้แล้ว ไม่มีข้อมูลดิบ ทำให้ยากต่อการนำไปวิเคราะห์ต่อ
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล มีหลายวิธีที่ใช้กันมากในทางพฤติกรรมศาสตร์ ได้แก่
• การสัมภาษณ์โดยตรง
ผู้วิจัยไปทำการสัมภาษณ์จากหน่วยทดลองโดยตรง วิธีนี้ใช้กันมากในการทำสำมะโนและการสำรวจจากตัวอย่าง วิธีนี้เหมาะสำหรับงานวิจัยที่มีข้อคำถามเป็นจำนวนมาก ข้อคำถามมีความซับซ้อนมีคำศัพท์เฉพาะและมีคำจำกัดความที่ต้องการคำอธิบาย แต่เป็นวิธีที่เสียค่าใช้จ่ายสูง
• การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
ในกรณีที่คำถามไม่มากและไม่ซับซ้อน ปริมาณคำถามมีไม่มากนัก การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จะทำให้ได้ข้อมูลเร็วขึ้น แต่มีข้อเสียคือ สัมภาษณ์ได้เฉพาะหน่วยตัวอย่างที่มีโทรศัพท์เท่านั้น บางกรณีผู้ตอบอาจจะไม่เกรงใจ หรือไม่พอใจที่จะตอบ หรืออาจจะวางหูโทรศัพท์ก็ได้
• การตอบแบบสอบถาม
เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลโดยมอบแบบสอบถามพร้อมทั้งอธิบายวิธีบันทึกตลอดจนคำอธิบายศัพท์ต่างๆ ให้แก่หน่วยตัวอย่างล่วงหน้า ผู้วิจัยจะกลับไปรับแบบสอบถามตามวัน เวลาที่นัดหมายไว้ ถ้าการบันทึกแบบสอบถามไม่ถูกต้องหรือไม่เรียบร้อยก็จะได้มีการสอบถามหรือสัมภาษณ์เพิ่มเติมจนกระทั่งได้ข้อมูลตามที่ต้องการ
• การส่งแบบสอบถามทางไปรษณีย์
ผู้เก็บรวบรวมข้อมูลส่งแบบสอบถามทางไปรษณีย์ วิธีนี้เหมาะสำหรับการเก็บข้อมูลที่ไม่มีความสำคัญมากนัก เป็นข้อมูลง่ายๆ ที่ไม่ซับซ้อน ไม่มีศัพท์หรือคำจำกัดความที่ต้องการคำอธิบาย จำนวนข้อคำถามมีไม่มากนัก วิธีนี้มีข้อดีคือ เสียค่าใช้จ่ายน้อยแต่มีข้อเสียคือ ได้รับแบบสอบถามกลับคืนมาน้อยหรือผู้บันทึกอาจจะเข้าใจข้อคำถามไม่ถูกต้อง หรือบันทึกอย่างขาดความรับผิดชอบ ข้อจำกัดคือ วิธีนี้ใช้สำหรับหน่วยตัวอย่างที่อ่านออกเขียนได้เท่านั้น
ความเหมาะสมของแหล่งข้อมูล
ความเหมาะสมของแหล่งข้อมูล : การเลือกใช้ข้อมูลจากแหล่งที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดข้อสรุปที่ผิด นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอันตรายและสร้างความเสียหายในรูปแบบต่างๆ ได้ นักเรียนสามารถใช้มุมมองทั้ง 5 ด้าน ประกอบการพิจารณาความเหมาะสมของแหล่งข้อมูล ดังนี้
1. จุดมุ่งหมายของแหล่งข้อมูล
2. ความทันสมัยของข้อมูล
3. ความสอดคล้องของการใช้งาน
4. ความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล
5. ความถูกต้องแม่นยำ