ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
วิธีการดำเนินงาน
ความเป็นมาและความสำคัญของการพัฒนานวัตกรรม
กระบวนการอ่านจับใจความเป็นทักษะอย่างหนึ่งในการอ่าน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถจับประเด็นและสาระสำคัญของเรื่องที่อ่านได้อย่างรวดเร็ว การอ่านจับใจความสำคัญเป็นการพิจารณาส่วนประกอบของเนื้อเรื่องที่อ่าน เพื่อหาใจความสำคัญของเรื่อง โดยอาศัยการแปลความคิดของผู้เขียนและเป็นการทำความเข้าใจ ถึงกระบวนการอ่านจับใจความสำคัญ ที่ทั้งต้องเข้าใจความหมายของคำ กลุ่มคำและประโยค เป็นต้น การอ่านจับใจความมีจุดประสงค์หลักเพื่อเก็บสาระสำคัญของเรื่อง หลังจากการอ่านจบแต่ละครั้งสามารถรับรู้และทำความเข้าใจเรื่องได้ตรงความมุ่งหมายของผู้เขียน โดยอาศัยกระบวนการ การอ่านจับใจความจึงเป็นกระบวนการที่เข้าใจความหมายของคำ กลุ่มคำ ประโยคและข้อความเป็นประการสำคัญ การอ่านจับใจความสำคัญ คือ การสรุปความจากการอ่านอย่างละเอียดและตั้งคำถามขณะที่อ่าน
เมื่อพิจารณาจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย ด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 โรงเรียนบ้านปลวกแดง อยู่ในระดับคุณภาพเกณฑ์ พอใช้ และจากการนำปัญหาเข้าสู่การ PLC กลุ่มสาระภาษาไทย พบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ส่วนใหญ่ ไม่สามารถอ่านจับใจความสำคัญได้ ทำให้ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทำให้ผู้จัดทำเล็งเห็นว่าการพัฒนาศักยภาพด้านการอ่านของนักเรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญ ควรมีการส่งเสริมและเร่งพัฒนาให้ผู้เรียนมีทักษะการอ่านที่ดีขึ้น และการพัฒนาศักยภาพด้านการอ่านของนักเรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญ ควรมีการส่งเสริมและเร่งพัฒนาให้ผู้เรียนมีทักษะการอ่านที่ดีขึ้น ดังที่กระทรวงศึกษาธิการเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาการอ่านการเขียนว่าเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาไปสู่การเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้นของผู้เรียน ทั้งนี้การอ่านเป็นกระบวนการทำความเข้าใจและตีความเนื้อหาของข้อความหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูล ความรู้ และความหมาย การอ่านจึงเป็นทักษะที่สำคัญในการเรียนรู้สำหรับผู้เรียน
เทคนิคการตั้งคำถาม 5W1H จะใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลหรือปัญหาได้เกือบทุกรูปแบบ เทคนิคการตั้งคำถาม 5W1H เป็นการคิดวิเคราะห์ (Analysis Thinking) ที่ใช้ความสามารถในการจำแนกแยกแยะองค์ประกอบต่าง ๆ ของสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งอาจจะเป็นวัตถุสิ่งของ เรื่องราว หรือเหตุการณ์นำามาหาความสัมพันธ์ เชิงเหตุผล ระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านั้น เพื่อค้นหาคำตอบที่เป็นความเป็นจริงหรือที่เป็นสิ่งที่สำคัญจากนั้นจึงรวบรวมข้อมูลทั้งหมด มาจัดระบบเรียบเรียงใหม่ให้ง่ายแก่ต่อการทำความเข้าใจ
ด้วยนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นยกระดับคุณภาพการศึกษาให้เด็กไทยทุกคนอ่านออกเขียนได้และ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทยที่สูงขึ้น ด้วยเหตุนี้กระบวนการเรียนการสอนในห้องเรียนจึงไม่เพียงพอกับการพัฒนาทักษะด้านการอ่านจับใจความของนักเรียนในชั้นเรียน จึงต้องอาศัยการใช้สื่อหรือนวัตกรรมที่จะทำให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะด้านการอ่านจับใจความ ผู้จัดทำจึงสนใจศึกษา การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ โดยใช้เทคนิคการตั้งคำถาม 5W1H ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5
วัตถุประสงค์
เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยด้านการอ่านจับใจความ โดยใช้เทคนิคการตั้งคำถาม 5W1H ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5
โรงเรียนบ้านปลวกแดง อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ให้เพิ่มขึ้นร้อยละ 70 ของนักเรียนทั้งหมด 42 คน
2. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย ด้านการอ่านจับใจความ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 โรงเรียนบ้านปลวกแดง
อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ก่อนและหลังการได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคการตั้งคำถาม การตั้งคำถาม 5W1H
วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
1. ศึกษาหาความรู้ แนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบวิธีการสอน เทคนิคการสอน ทฤษฎีการสอนเรื่อง เทคนิคการตั้งคำถาม 5W1H
2. นําปัญหาเข้าสู่กระบวนการ PLC
3. เลือกรูปแบบการสอนและสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ในการจัดการเรียนรู้
4. นํารูปแบบการสอนและสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้และสร้างนวัตกรรม โดยให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับผู้เรียนและเนื้อสาระของการจัดการเรียนรู้
5. เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี วัดและประเมินผล
6. นําแผนการจัดการเรียนรู้ลงสู่การจัดการเรียนรู้
7. วัดและประเมินผล
8. นําเสนอการจัดการเรียนรู้
9. นําผลการจัดการเรียนรู้มาวิเคราะห์เพื่อนําไปพัฒนาในปีต่อไป
10. เขียนรายงานผลการจัดการเรียนรู้
ความเป็นมาและความสำคัญ
โรงเรียนบ้านปลวกแดงให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนได้ พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้าน ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้ มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกการทำประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจัดการตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ฝึกประสบการณ์ให้ผู้เรียนเกิดสมรรณนะที่สำคัญ ได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ซึ่งจะส่งผลในการพัฒนาผู้เรียนให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ทั้ง 8 ประการ เนื่องจากนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นนักเรียนที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จอีกก้าวในเรื่องการศึกษา และจะต้องศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่จะต้องเลือกเรียนในสาขาวิชาที่เราชอบ เพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไปอีก ข้าพเจ้าจึงมีความต้องการพัฒนาสนับสนุนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 ให้นักเรียนสํารวจตัวเองในด้านต่าง ๆที่ชอบและไม่ชอบ
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 รู้จัก เข้าใจ รัก และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น สามารถวางแผนการเรียน อาชีพ รวมทั้งการดำเนินชีวิตและสังคมปรับตัวได้อย่างเหมาะสม และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
2. เพื่อให้ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 ให้มีระเบียบวินัย มีความเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี และมีความรับผิดชอบ มีทักษะการทำงานร่วมกัน รู้จักการแก้ปัญหา มีเหตุผล มีการตัดสินใจที่เหมาะสม ช่วยเหลือแบ่งปัน และเอื้ออาทรและสมานฉันท์ มีคุณธรรมจริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมตามความถนัดและความสนใจ ค้นหาตนเองและพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพของแต่ละบุคคล
3. เพื่อให้ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 เกิดจิตสำนึกในการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคม และประเทศชาติ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ตามความถนัดและความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร มีคุณธรรมจริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์มีจิตสาธารณะและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
4. เพื่อให้ครูได้พัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
เชิงปริมาณ
1. นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 จำนวน 42 คน
เชิงคุณภาพ
1. ร้อยละ 80 ของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 รู้จัก เข้าใจ รัก และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น สามารถวางแผนการเรียน อาชีพ รวมทั้งการดำเนินชีวิตและสังคมปรับตัวได้อย่างเหมาะสม และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
2. ร้อยละ 80 ของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 ให้มีระเบียบวินัย มีความเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี และมีความรับผิดชอบ มีทักษะการทำงานร่วมกัน รู้จักการแก้ปัญหา มีเหตุผล มีการตัดสินใจที่เหมาะสม ช่วยเหลือแบ่งปัน และเอื้ออาทรและสมานฉันท์ มีคุณธรรมจริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมตามความถนัดและความสนใจ ค้นหาตนเองและพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพของแต่ละบุคคล
3. ร้อยละ 80 ของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 เกิดจิตสำนึกในการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคม และประเทศชาติ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ตามความถนัดและความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร มีคุณธรรมจริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์มีจิตสาธารณะและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
4. ร้อยละ 80 ของครูได้พัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
1. การศึกษาความรู้ แนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบวิธีการสอน เทคนิคการสอน ทฤษฎีการสอน เพื่อส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
2. การพัฒนากระบวนการ โครงการ/กิจกรรม เพื่อส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/5 ในโรงเรียนบ้านปลวกแดง โดยมีขั้นตอน / กระบวนการในการดำเนินงานใน ภาพรวม ดังนี้
2.1 Plan วางแผนสร้างความเข้าใจร่วมกันอย่างทั่วถึง
2.2 Participation การมีส่วนร่วม ร่วมมือ ร่วมทำ ร่วมนำร่วมประสานเป็นทีมเดียวกัน
2.3 Process กระบวนการทำงานเชิงลึกเน้นความละเอียดรอบคอบมีขั้นตอนพุ่งเป้าหมายที่ความสำเร็จ
2.4 Preparation การเตรียมความพร้อมซักซ้อมขั้นตอนที่ชัดเจน
2.5 Partnership สร้างเครือข่ายที่เป็นกัลยาณมิตร ประสานช่วยเหลือส่งเสริมอย่างมีความสุข
2.6 Performance Satisfaction ความพึงพอใจของผู้รับบริการ
ประเด็นท้าทายที่ 3 : การจัดกิจกรรมทำหนังสือเล่มเล็ก บูรณาการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ
สภาพบริบท/สภาพปัญหา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยองเขต 1 ได้กำหนดการดำเนินโครงการพัฒนาและส่งเสริมพหุปัญญา โดยพัฒนาระบบบริหารจัดการกลไกการคัดกรองและการส่งต่อเพื่อส่งเสริมการพัฒนาคนไทยตามพหุปัญญาให้เต็มตามศักยภาพ ส่งเสริมสนับสนุนครอบครัวในการเสริมสร้างความสามารถพิเศษตามถนัดและศักยภาพทั้งทางด้านกีฬา ภาษาและวรรณกรรม สุนทรียศิลป์ ส่งเสริมสนับสนุนระบบสถานศึกษา ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างและพัฒนาเด็กและเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษบนฐานพหุปัญญา และส่งเสริมมาตรการการจูงใจแก่ภาคเอกชน และสื่อ ในการมีส่วนร่วมและผลักดันให้ผู้มีความสามารถพิเศษ มีบทบาทเด่นในระดับนานาชาติ ส่งผลให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาศักยภาพตามหลักสูตร มีความพร้อมสำหรับทักษะในศตวรรษที่ 21 มีความสามารถด้านการสื่อสาร สามารถแก้ปัญหา ปรับตัว และพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิผลเพิ่มขึ้นและมีนิสัยใฝ่เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
ในปีการศึกษา 2567 ผลการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 72 ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ข้าพเจ้าได้ทำการฝึกซ้อมและนำนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การทำหนังสือเล่มเล็ก ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ผลปรากฎว่า ได้รับรางวัลเหรียญทอง อันดับ 9 เท่านั้น
จากที่กล่าวมาข้างต้น ข้าพเจ้าในฐานะผู้สอนรายวิชาภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้พัฒนาทักษะภาษาไทยผ่านการทำหนังสือเล่มเล็ก โดยมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนานักเรียนให้ได้แสดงออกถึงความสามารถและความสนใจให้เต็มตามศักยภาพของผู้เรียนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น
วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
ขั้นตอนหลักการดำเนินการ มีดังนี้
1. วางแผนกำหนดวัตถุประสงค์ ระยะเวลา ความคาดหวัง แผนการดำเนินงาน เป้าหมาย ผลลัพธ์ที่ต้องการ และตกลงกันกับนักเรียนเกี่ยวกับประเด็นหรือจุดเน้นที่ต้องการ เนื่องจากฝึกซ้อมจะเน้นไปที่การปฏิบัติจริง โดยวางแผนและตกลงร่วมกันที่จะลงมือปฏิบัติในหน้าที่ของตนเองเป็นพิเศษ
2. สื่อสารและตกลงเป้าหมายร่วมกัน ครูผู้สอนต้องสำรวจงานที่จะสอนโดยจัดลำดับความสำคัญของงานที่ควรสอนก่อน และพิจารณาร่วมกับทักษะและความสามารถและความสนใจของผู้เรียน โดยครูผู้สอนต้องสื่อสารให้นักเรียนรับรู้แนวทางในการฝึกซ้อมเพื่อเข้าแข่งขัน และควรตั้งคำถามที่จุดประกายให้นักเรียนเห็นถึงความสำคัญของการฝึกซ้อมและเป้าหมายความสำเร็จในงานร่วมกัน
3. ดำเนินการฝึกปฏิบัติ โดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้และลงมือปฏิบัติ โดยครูผู้สอนควรยกตัวอย่างและลงมือปฏิบัติเพื่อให้นักเรียนได้เห็นชิ้นงานด้วย
4. ติดตามประเมินผลจากการทำงาน ทั้งระหว่างการฝึกซ้อมและภายหลังการฝึกซ้อม และให้แจ้งข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) กับนักเรียนผู้ฝึกซ้อมรับทราบ รวมถึงประเมินตนเองในฐานะครูผู้สอนเพื่อปรับปรุงวิธีการสอนงานให้เหมาะสม ทั้งนี้ครูผู้ฝึกซ้อมต้องสังเกตการทำงานและหมั่นสอบถามความเข้าใจและให้ข้อแนะนำพร้อมทั้งให้กำลังใจเมื่อนักเรียนทำผิดพลาดหรือทำไม่ถูกต้องด้วยเหตุไม่เข้าใจในหน้างานที่ครูสอน รวมทั้งชมเชยเมื่อยนักเรียนทำงานได้อย่างถูกต้องและสวยงาม
ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
ครูผู้สอนมีการพัฒนาผู้เรียนตามพหุปัญญาให้เต็มตามศักยภาพ สนับสนุนครอบครัวในการเสริมสร้างความสามารถพิเศษตามถนัดและศักยภาพทั้งทางด้านงานฝีมือและอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 100
นักเรียนในสถานศึกษาในสังกัดได้รับการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้เรียนตามพหุปัญญา พัฒนาผู้ที่มีความสามารถพิเศษ ด้านวิชาการ สมรรถนะ สุนทรียภาพ อาชีพ ทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 และด้านอื่น ๆ ตามศักยภาพ
นักเรียนทุกคนในสถานศึกษาในสังกัดมีความรู้ และสมรรถนะที่จำเป็น มีความสุข และมีเป้าหมาย ได้รับการพัฒนาอย่างมีคุณภาพเพื่อพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ” มีทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา “Anywhere Anytime”
นักเรียนทุกคนมีคุณภาพตามที่หลักสูตรกำหนด