คุณสมบัติและโครงสร้างของข้อมูล
คุณสมบัติและโครงสร้างของข้อมูล
1. คุณสมบัติของข้อมูลที่ดี
1.1 ความถูกต้อง หากมีการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้วข้อมูลเหล่านั้นเชื่อถือไม่ได้จะทำให้เกิดผลเสียอย่างมาก ผู้ใช้ไม่กล้าอ้างอิงหรือนำเอาไปใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นเหตุให้การตัดสินใจของผู้บริหารขาดความแม่นยำและอาจมีโอกาสผิดพลาดได้ โครงสร้างข้อมูลที่ออกแบบต้องคำนึงถึงกรรมวิธีการดำเนินงานเพื่อให้ได้ความถูกต้องแม่นยำมากที่สุด โดยปกติความผิดพลาดของสารสนเทศส่วนใหญ่มาจากข้อมูลที่ไม่มีความถูกต้องซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากคนหรือเครื่องจักรการออกแบบระบบจึงต้องคำนึงถึงในเรื่องนี้
1.2 ความรวดเร็วและเป็นปัจจุบัน การได้มาของข้อมูลจำเป็นต้องให้ทันต่อความต้องการของผู้ใช้มีการตอบสนองต่อผู้ใช้ได้ตีความหมายสารสนเทศได้ทันต่อเหตุการณ์หรือความต้องการ มีการออกแบบระบบการเรียนค้นและรายงานตามผู้ใช้
1.3 ความสมบูรณ์ ความสมบูรณ์ของสารสนเทศขึ้นกับการรวบรวมข้อมูลและวิธีการทางปฏิบัติด้วยในการดำเนินการจัดทำสารสนเทศต้องสำรวจและสอบถามความต้องการใช้ข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ในระดับหนึ่งที่เหมาะสม
1.4 ความชัดเจนและกะทัดรัด การจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากจะต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลมากจึงจำเป็นต้องออกแบบโครงสร้างข้อมูลให้กะทัดรัดสื่อความหมายได้ มีการใช้รหัสหรือย่นย่อข้อมูลให้เหมาะสมเพื่อที่จะจัดเก็บเข้าไว้ในระบบคอมพิวเตอร์
1.5 ความสอดคล้อง ความต้องการเป็นเรื่องที่สำคัญดังนั้นจึงต้องมีการสำรวจเพื่อหาความต้องการของหน่วยงานและองค์การ ดูสภาพการใช้ข้อมูลความลึกหรือความกว้างของขอบเขตของข้อมูลที่สอดคล้องกับความต้องการ
2. โครงสร้างของข้อมูล
พื้นฐานสำคัญของการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์
ในระบบคอมพิวเตอร์จะมีการจัดโครงสร้างข้อมูล (Data Structure) ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลที่มีขนาดต่างกัน ดังนี้
2.1 บิต (Bit) ย่อมาจาก Binary digit เป็นหน่วยข้อมูลที่เล็กที่สุดของข้อมูลคอมพิวเตอร์ แทนด้วยเลขฐานสอง มีค่า 0 และ 1 เท่านั้น ใช้แทนสถานะ เช่น ปิด/เปิด, จริง/เท็จ, ใช่/ไม่ใช่
2.2 ไบต์ (Byte) หรือ อักขระ (Character) คือ การนำเอาบิตหลาย ๆ บิตมาเรียงต่อกัน เพื่อเป็นตัวอักษร (A-Z, ก-ฮ) ตัวเลข (0-9) และสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่อยู่บนแป้นพิมพ์
1 ไบต์ = 8 บิต คือ การนำเอาเลข 0 กับ 1 มาเรียงต่อกัน 8 ตัว จนครบ 1 ไบต์ เพื่อให้ได้อักษร 1 ตัว ('A', 'B', 'ก') เช่น
0100 0001 มีเลขฐานสอง 8 บิต เป็นรหัสแทนตัว A
0100 1010 เป็นรหัสแทนตัว J
ในตาราง ASCII (แอสกี้) ตารางเพิ่มเติม https://www.eecis.udel.edu/~amer/CISC651/ASCII-Conversion-Chart.pdf?utm_source=chatgpt.com
2.3 ฟิลด์ (Field) เป็น ชุดของไบต์ ที่แทนค่าของข้อมูล 1 รายการ การนำเอาตัวอักษรหรืออักขระ (character) ตั้งแต่หนึ่งตัวขึ้นไปมารวมกันเพื่อให้เกิดความหมายของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น ฟิลด์ชื่อ ฟิลด์นามสกุล ฟิลด์หมู่เลือด เป็นต้น
2.4 เรคอร์ด (Record) หรือระเบียนข้อมูล กลุ่มของฟิลด์ที่มีความสัมพันธ์กัน ที่ประกอบกันเป็นข้อมูลของหน่วยหนึ่ง
เช่น ข้อมูลนักเรียน 1 คน: รหัส, ชื่อ, อายุ, GPA
🧾 ตัวอย่าง: “แถว” ในตารางข้อมูล
รหัส ชื่อ อายุ GPA
1001 สมชาย 20 3.50
2.5 ไฟล์ (File) หรือแฟ้มข้อมูล คือกลุ่มเรคอร์ดหลายๆเรคอร์ดที่เก็บข้อมูลซึ่งเป็นเรื่องเดียวกัน เช่น ไฟล์ข้อมูลนักเรียน ไฟล์ข้อมูลการลงทะเบียนเรียน ไฟล์ข้อมูลพนักงาน ไฟล์ข้อมูลลูกค้า ไฟล์ข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า ไฟล์ข้อมูลสินค้า เป็นต้น ดังนั้นหนึ่งไฟล์จะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งเรคอร์ดเพื่อใช้งานข้อมูล
ตัวอย่าง ไฟล์ข้อมูลที่ประกอบด้วยเรคอร์ดนักเรียนทั้งหมดในโรงเรียนแห่งหนึ่ง โดยแต่ละเรคอร์ดจะมีฟิลด์หมายเลขประจำตัว ชื่อ นามสกุล เกิดวันที่ หมู่โลหิต ที่อยู่จังหวัด และรหัสไปรษณีย์
ใช้จัดเก็บข้อมูลเป็นหน่วย เช่น .txt, .csv, .doc, .db, .accdb ไฟล์ 1 ไฟล์ อาจมีหลายบรรทัด (เรคคอร์ด) และแต่ละบรรทัดมีหลายฟิลด์
ตัวอย่าง ไฟล์ข้อมูลนักเรียน
2.6 ฐานข้อมูล (Database) คือ ระบบจัดเก็บ จัดการ และค้นคืนข้อมูลจำนวนมาก เก็บรวบรวมไฟล์หลายไฟล์ที่เกี่ยวข้องกันมารวมเข้าด้วยกัน เช่น ไฟล์ข้อมูลนักเรียนที่เรียนในโรงเรียนเดียวกัน ข้อมูลครู ข้อมูลวิชาเรียน ข้อมูลผลการเรียน มารวมกันเป็นฐานข้อมูลของโรงเรียน
มีโครงสร้างชัดเจน รองรับการค้นหา จัดเรียง และความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล
ตัวอย่าง: ฐานข้อมูลโรงเรียน มี: ตาราง นักเรียน (student) ตาราง วิชา (subject) ตาราง คะแนน (score)
ทดลองแปลงรหัส https://charactercalculator.com/th/binary-translator/
จัดทำโดย
นางสาวทิพย์สุคนธ์ พันธ์กิ่ง (ครูกั้ง)
กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์)
โรงเรียนบุญวัฒนา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา