วันที่โพสต์: Nov 28, 2013 4:9:37 AM
Travel Marvel ประจำวันที่ 23 พฤศจิกายน 2556
ไปชมปรากฏการณ์แสงเหนือ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี และสามารถเห็นได้ทั่วไป ตามแถบขั้วโลกเหนือ แต่สำหรับปีนี้จะแตกต่างออกไป เนื่องจากเป็นปีที่ปรากฏการณ์ดังกล่าว จะสวยงาม และยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 11 ปี เราจึงรวบรวมสถานที่ ที่เหมาะสำหรับการชมแสงเหนือมากที่สุดในโลก
ปรากฏการณ์แสงเหนือ หรือ ออโรรา บอเรลลีส เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติบริเวณขั้วโลกเหนือ คำว่าออโรรา บอเรลลีส เป็นภาษาละติน แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า รุ่งอรุณสีแดงแห่งทิศเหนือ ตั้งชื่อโดย กาลิเลโอ กาลิเลอิ นักดาราศาสตร์ชื่อดัง แสงเหนือถือเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่ใครที่ได้พบเห็น ต่างก็จะประทับใจไปตลอดชีวิต แต่สำหรับปีนี้ มีความพิเศษกว่าปีอื่นๆ เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์จากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือนาซา ออกมาเปิดเผยว่า ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ จะเป็นเดือนที่แสงเหนือ มีความสวยงาม และยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 11 ปี เนื่องจากเป็นปีที่ดวงอาทิตย์ปล่อยเปลวสุริยะออกมามากกว่าปีอื่นๆ โดยปรากฏการณ์นี้ จะพบเห็นได้ทั่วไป ตั้งแต่ตอนเหนือของแคนาดา กรีนแลนด์ สแกนดิเนเวีย และรัสเซีย วันนี้ เราจึงรวบรวมสถานที่ทีดีที่สุด สำหรับการชมปรากฏการณ์แสงเหนือ ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้
เริ่มกันที่ที่แรก ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน ในประเทศไอซ์แลนด์ โมยาน เบรนน์ ช่างภาพชื่อดังที่ตามถ่ายภาพแสงเหนือมานานหลายปีเล่าให้ฟังว่า ปกติแล้ว นักท่องเที่ยวจะเห็นแสงเหนือในเกือบทุกพื้นที่ของไอซ์แลนด์ แต่ที่ที่สวยที่สุด สำหรับเขาแล้ว ขอยกให้กับทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน เพราะเมื่อแสงเหนือส่งลงมากระทบกับพื้นผิวของน้ำแข็ง จะก่อให้เกิดประกายสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยทางการท้องถิ่นได้จัดเตรียมเรือเอาไว้ สำหรับล่องชมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน คิดค่าตั๋วคนละ 31 ดอลลาร์ หรือราว 980 บาท
แห่งต่อมาเราขอพาไปที่เมืองแฟร์แบงก์ มลรัฐอลาสกา สหรัฐอเมริกา สถานที่แห่งนี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการชมแสงเหนือในสหรัฐฯ อีกทั้ง ยังเป็นที่ตั้งของสถาบันธรณีฟิสิกส์ ของมหาวิทยาลัยอลาสกาอีกด้วย สำหรับใครที่เดินทางมาที่นี่ กูรูด้านการชมแสงเหนือแนะนำว่า ควรไปพักที่ Chena Resort ซึ่งเป็นรีสอร์ทที่อยู่ใกล้กับสนามบินเมืองแฟร์แบงก์ และยังอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ด้วยการติดตั้งเครื่องปลุกอัตโนมัติ ที่จะส่งเสียงเตือน เมื่อมีปรากฏการณ์แสงเหนือเกิดขึ้นบนท้องฟ้า ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องออกไปรอด้านนอกห้องพัก ท่ามกลางอุณหภูมิที่ต่ำจนติดลบในช่วงกลางดึก
จากอเมริกา เราขอพามาต่อกันที่ยุโรป อย่างประเทศฟินแลนด์ สถานที่แห่งนี้ คือหมู่บ้านมิวนิโอ และหมู่บ้านคิลปิสจาร์วี ซึ่งถือเป็นสองหมู่บ้านชื่อดัง ที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปชมแสงเหนือเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ซึ่งแสงเหนือจะเกิดขึ้นบริเวณรอยต่อของสองหมู่บ้านนี้ โดยชาวบ้านได้จัดโปรแกรมทัวร์สุดพิเศษ ด้วยการใช้สุนัขลากเลื่อน วิ่งไปตามแนวป่าหิมะ ซึ่งเป็นพรมแดนของประเทศสวีเดน ฟินแลนด์ และนอร์เวย์ ก่อนที่จะพักค้างคืนสุดโรแมนติก ในกระท่อมกลางป่า โปรแกรมทัวร์ดังกล่าวกินระยะเวลา 7 วัน มีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 3,540 ดอลลาร์ หรือราว 112,000 บาท
อีกหนึ่งประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการชมแสงเหนือไม่แพ้ที่ไหนในโลก ก็คือประเทศนอร์เวย์ เมืองที่เราจะพามาชมแสงเหนือนั้น มีชื่อว่าทรุมเซ่อ ที่ได้รับการเปรียบเทียบว่าเป็น ปารีสแห่งเมืองเหนือ สำหรับไฮไลท์ของการมาเที่ยวชมแสงเหนือที่เมืองทรุมเซ่อนั้น ก็คือการล่องเรือแรงดันไอน้ำ ของบริษัทเดินเรือยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่างเฮอร์ติกรูเตน ซึ่งจะล่องไปชมแสงเหนือตามฟยอร์ดแห่งต่างๆ และหากใครที่อยากมีความรู้เพิ่มเติมทางด้านดาราศาสตร์ ก็สามารถล่องเรือเที่ยวพิเศษอย่าง Astronomy Voyage ที่ได้ออกเดินทางตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา และจะมีบริการไปจนถึงเดือนมีนาคม เรือลำนี้ มีบรรดานักดาราศาสตร์จากทั่วโลก ร่วมเดินทางไปด้วย เพื่อสังเกตปรากฏการณ์แสงเหนือและบันทึกข้อมูลเป็นประจำทุกปี ซึ่งการล้องเรือไปกับ Astronomy Voyage นั้น จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์ต่อคน หรือราว 60,000 บาท
23 พฤศจิกายน 2556 เวลา 10:45 น.