การเรียน กศน.(แบบพบกลุ่ม)
เป็นการจัดการศึกษาที่เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นหลัก มีการจัดการเรียนการสอนเพื่อนำสิ่งที่ได้ไปศึกษา
ค้นคว้า แล้วนำมาเสนอ อภิปราย และสรุปร่วมกันในลักษณะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
ระดับการจัดศึกษา
- ระดับประถมศึกษา
- ระดับมัธมศึกษาตอนต้น
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
หลักฐานการรับสมัคร
1. ใบสมัคร
2. รูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป หน้าตรงไม่สวมแว่นตาดำ ไม่สวมหมวก และสวมเสื้อสีขาวมีปก
3. สำเนาทะเบียนบ้านพร้อมตัวจริง
4. สำเนาหนังสือแสดงวุฒิ พร้อมฉบับจริง
5. สำเนาบัตรประชาชน พร้อมฉบับจริง
ระยะเวลารับสมัคร
ภาคเรียนที่ 1 รับสมัครเดือน เมษายน เปิดภาคเรียน 16 พฤษภาคม
ภาคเรียนที่ 2 รับสมัครเดือน ตุลาคม เปิดภาคเรียน 1 พฤศจิกายน
จัดกระบวนการเรียนการสอนหรือนักศึกษาต้องมาเรียน 18 ครั้ง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง นักศึกษาต้องมีเวลาจัดการรียนการสอน
ไม่น้อยกว่า 80 % ขาดเรียนได้ไม่เกิน 4 ครั้ง จะทำให้หมดสิทธิ์สอบ
เวลาเรียนแบ่งการเรียนออกเป็น 2 ภาคเรียน ภาคเรียนละ 20 สัปดาห์ โดยกำหนดให้ทุกระดับ ต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า
4 ภาคเรียน หรือ 2 ปี ยกเว้น ผู้ที่มีเทียบโอนผลการเรียนสามารถจบก่อน 4 ภาคเรียน
สถานที่รับสมัคร
- ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเขต (กศน.เขต) ดูเบอร์โทรติดต่อ
- ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ (กศน.อำเภอ) ดูเบอร์โทรติดต่อ
- กศน.ตำบล/ศูนย์การเรียนชุมชน
การลงทะเบียน
1. ระดับประถม และระดับมัธยมศึกษาศึกษาตอนต้น นักศึกษาสามารถลงทะเบียนได้ภาคเรียนละ 2 หมวด โดยลงทะเบียน
ในกลุ่มหมวดพื้นฐาน 1 หมวด และกลุ่มหมวดประสบการณ์ 1 หมวด โดยยกเว้นหมวดวิชาที่นำมาเทียบโอนผลการเรียน
2. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย นักศึกษาสามารถลงทะเบียนเรียนได้ภาคเรียนละ 2 หมวดวิชา โดยลงทะเบียนในหมวดวิชา
พื้นฐาน 1 หมวดและหมวดประสบการณ์ 1 หมวด
* ยกเว้นหมวดวิชาที่ได้ผลการเรียนเป็น “0 “ หรือหมวดวิชาที่เรียนเพิ่มเติมจะสามารถลงทะเบียนเรียนได้ 3 หมวดวิชา
ทั้งนี้ไม่นับรายหมวดวิชาที่เทียบโอนผลการเรียน
3. การลงทะเบียนกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต นักศึกษา ต้องลงไม่น้อยกว่า 200 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่นักศึกษา
จะต้องได้รับการประเมินตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด จึงจะได้รับการประเมินตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด จึงจะได้รับ
การพิจารณาให้จบหลักสูตรในแต่ละระดับการเรียนได้
4. การลงทะเบียนรักษาสภาพ กรณีนักศึกษาไม่สามารถลงทะเบียนเรียน ในภาคเรียนใดภาคเรียนหนึ่งได้จะต้องลงทะเบียน
รักษาสภาพการเป็นนักศึกษา หากไม่สามารถลงทะเบียนรักษาได้ ต้องลงทะเบียนย้อนหลังทุกภาคเรียนที่ไม่ได้ลงทะเบียน
ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 6 ภาคเรียนติดต่อกัน และต้องเป็นไปตามวัน เวลา วิธีการที่สถานศึกษากำหนด
การจัดกระบวนการเรียนรู้
1. กิจกรรมการเรียนการสอนของนักศึกษาต้องมีเวลาอย่างน้อย 9 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
2. การเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต.) นักศึกษาต้องมีเวลาในการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างน้อย 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือวันละ 3 ชั่วโมง
3. การทำโครงงาน นักศึกษาต้องเรียนรู้โดยการทำโครงงาน หมวดวิชาละ 1 โครงงาน ในแต่ละภาคผู้เรียนจะต้องรวมกลุ่มกัน
ประมาณ 5-7 คน เพื่อทำโครงงาน 1 โครงงาน ต่อ 1 หมวดวิชา โดยร่วมกันคิดวิเคราะห์ว่าจะทำโครงงานใดในหมวดวิชานั้น
วางแผนและลงมือปฏิบัติ นำเสนอความก้าวหน้าของการทำโครงงานในการพบกลุ่มเป็นระยะ ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเกิด
ความคิดต่อยอดเพื่อนำไปพัฒนาโครงงานอย่างต่อเนื่องทุกกลุ่มจนสิ้นสุดภาคเรียน
4. การจัดการเรียนรู้โดยการทำกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต (กพช.) เป็นกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการพบกลุ่ม และเป็นเงื่อนไข
ของการจบหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนทุกระดับ เป็นกิจกรรมกลุ่มผู้เรียนทำตามความสนใจความถนัด โดยเน้นการนำความรู้
และประสบการณ์ที่ได้จากการศึกษ /เรียนรู้ ไปสู่การปฏิบัติที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตจริงเพื่อพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม
และสิ่งแวดล้อม มีการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ระเบียบวินัยความรับผิดชอบ การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข ซึ่งผู้เรียน
จะทำกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตในภาคเรียนใด ภาคเรียนหนึ่งก็ได้ และสามารถทำร่วมกับผู้เรียนในระดับการศึกษาอื่น โดยทำให้
เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
การเทียบโอนการศึกษา
การเทียบโอนผลการเรียน หมายถึง การนำผลการเรียนซึ่งเป็นความรู้ ทักษะ และ ประสบการณ์ของผู้เรียนที่เกิดจากการศึกษา
ทั้ง 3 รูปแบบ มาประเมินเป็นส่วนหนึ่ง
วิธีการเทียบโอนผลการเรียน
1. การเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษาในระบบ และ การศึกษานอกระบบ
2. การเทียบความรู้และประสบการณ์
ขอบข่ายการเทียบโอนผลการเรียน
1. การเทียโอนผลการเรียนจากการศึกษาในระบบ และ การศึกษานอกระบบ
2. การเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษานอกระบบที่จัดเป็นหลักสูตรเฉพาะ
3. การเทียบโอนผลการเรียนจากหลักสูตรต่างประเทศ
4. การเทียบโอนประสบการณ์ กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น ทหารกองประจำการ อาสาสมัครสาธารณสุข ผู้นำท้องถิ่น เป็นต้น
5. การเทียบโอนผลการเรียนจากการเรียนรู้ ในกิจกรรมพัฒนาอาชีพ
การเตรียมตัวของผู้ต้องการเทียบโอนผลการเรียน
1. จัดเตรียมเอกสารทางการศึกษา เป็นใบ ป.05 รบ. 1 ต
2. จัดเตรียมเอกสารการเทียบโอน ใบ สด.8 , บัตรประจำตัวอาสาสมัครสาธารณสุข
3. หลักฐานอื่นๆ
การประเมินเทียบระดับการศึกษาแบบไต่ระดับ
เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ได้รับการรับรองคุณวุฒิทางการศึกษาและมีหลักฐาน
การศึกษา เพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพ และแสดงสถานะในสังคม หรือการศึกษาต่อ สร้างแรงจูงใจให้บุคคลทั่วไป
มีความกระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้ เพิ่มทักษะ และสั่งสมประสบการณ์อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
ระดับการศึกษา
- ระดับประถมศึกษา
- ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ระยะเวลา
ระดับละ 6 เดือน
(ทุกระดับต้องผ่านการประเมินที่กำหนดไว้)
การประเมิน ประกอบด้วย 2 มิติ
- มิติด้านความรู้ ความคิด ประเมินจำนวน 6 มาตรฐาน โดยใช้วิธีการทดสอบ
- มิติประสบการณ์ ใช้วิธีประเมินเชิงประจักษ์จากสภาพจริงและการสัมภาษณ์โดยคณะกรรมการ
คุณสมบัติของผู้สมัคร
- มีสัญชาติไทย
- มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
- มีประสบการณ์และประกอบอาชีพอยู่ในพื้นที่ ๆ จะเข้ารับการประเมินไม่น้อยกว่า 1 ปี
หลักฐานการสมัคร
- รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป
- สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมฉบับจริง จำนวน 1 ฉบับ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมฉบับจริง จำนวน 1 ฉบับ
- สำเนาหนังสือสำคัญแสดงวุฒิการศึกษา พร้อมฉบับจริง จำนวน 1 ฉบับ
- หลักฐานหนังสือรับรองแสดงการประกอบอาชีพหรือการทำงาน ในสถานประกอบการเดิม อย่างน้อย 1 ปี
เปิดรับสมัคร
เดือนเมษายน และตุลาคมของทุกปี
สมัครและสอบถามรายละเอียด ได้ที่...
- สำนักงาน กศน.กทม./จังหวัดทุกแห่ง (เบอร์โทรติดต่อ)
หรือโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
กลุ่มงานเทียบระดับการศึกษา สำนักงาน กศน.
0 2282 2853 และสายด่วน กศน. 1660