แผนการจัดการเรียนรู้ 4C Model

ความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking)

เป็นกระบวนการทางปัญญาที่เกี่ยวกับการสร้างหรือการก่อให้เกิดความคิด กระบวนการ สิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ และการจะเกิดความคิดใหม่ ๆ เหล่านี้ขึ้นมาได้นั้นจะต้องมีการผสมผสานความคิดตั้งแต่ 2 ความคิดขึ้นไป ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือเกิดจากการฝึกฝนเรียนรู้ก็ได้ หลายคนที่อยากจะเป็นบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์แต่ต้องมาเจออุปสรรคทางความคิดความเชื่อของตนเองที่ว่า “ความคิดสร้างสรรค์เป็นเรื่องของพรสวรรค์” ซึ่งการที่คนเราจะพัฒนาตนเองให้มีความคิดสร้างสรรค์นั้น จะต้องเปลี่ยนมุมมองในเรื่องนี้เสียก่อน ในความเป็นจริงการคิดสร้างสรรค์เป็นทักษะที่เรียนรู้ได้ พัฒนาได้ในตัวบุคคล มิใช่เป็นเรื่องของพรสวรรค์หรือเรื่องบังเอิญเพียงอย่างเดียว ยิ่งบุคคลใดได้รับการฝึกฝนมากเท่าใด บุคคลนั้นย่อมคิดสร้างสรรค์ได้มากกว่าผู้อื่น และก่อนที่เราจะฝึกฝนนั้น เราต้องรู้และเข้าใจธรรมชาติของทักษะการคิดสร้างสรรค์เสียก่อน การคิดสร้างสรรค์ ประกอบไปด้วยทักษะย่อยหลายทักษะ ได้แก่ การคิดคล่องแคล่ว (Fluency) การคิดยืดหยุ่น (Flexibility) การคิดริเริ่ม (Originality) การคิดละเอียดลออ (Elaboration) การคิดเสี่ยง (Risk Taking) การคิดจินตนาการ (Imagination) ความอยากรู้อยากเห็น (Curiosity) ทักษะย่อยเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องฝึกเป็นลำดับขั้นตอน เราสามารถฝึกทักษะใดก่อนก็ได้ ในการจัดการเรียนรู้รูปแบบที่เน้นสมาธิ 4C Model นี้จะฝึกทักษะย่อย 4 ทักษะด้วยกัน คือ การคิดคล่องแคล่ว การคิดยืดหยุ่น การคิดริเริ่ม และการคิดละเอียดลออ

ลักษณะของความคิดสร้างสรรค์

1. การคิดคล่องแคล่ว (Fluency) หมายถึง ความสามารถในการคิดตอบสนองต่อสิ่งเร้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้หรือความสามารถคิดหาคำตอบที่เด่นชัดและตรงประเด็นมากที่สุด ซึ่งจะนับปริมาณความคิดที่ไม่ซ้ำกันในเรื่องเดียวกัน

2. การคิดยืดหยุ่น (Flexibility) หมายถึง ความสามารถในการปรับสภาพของความคิดในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ ความคิดยืดหยุ่นเน้นในเรื่องของปริมาณที่เป็นประเภทใหญ่ ๆ ของความคิดแบบคล่องแคล่วนั่นเองเป็นตัวเสริมและเพิ่มคุณภาพของความคิดคล่องแคล่วให้มากขึ้นด้วยการจัดเป็นหมวดหมู่และมีหลักเกณฑ์ยิ่งขึ้น

3. การคิดริเริ่ม (Originality) หมายถึง ความสามารถคิดแปลกใหม่ แตกต่างจากความคิดธรรมดาหรือความคิดง่าย ๆ ความคิดริเริ่มอาจจะเกิดจากการนำความรู้เดิมมาคิดดัดแปลงและประยุกต์ให้เกิดเป็นสิ่งใหม่ขึ้น

4. การคิดละเอียดลออ (Elaboration) หมายถึง ความสามารถของการคิดในรายละเอียดเพื่อตกแต่งหรือขยายความคิดหลักให้ได้ความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เป็นความสามารถในการมองเห็นรายละเอียดในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น ซึ่งต้องอาศัยทักษะในการสังเกตช่วยในการฝึกทักษะการคิดนี้ด้วย

การจัดการเรียนรู้รูปแบบที่เน้นสมาธิ 4 C Model

ขั้นที่ 1 ขั้นฝึกสมาธิ (Concentrate)

1.1 ขั้นการตั้งสมาธิ

1.2 ขั้นการวิเคราะห์ประสบการณ์

ขั้นที่ 2 ขั้นพัฒนาความคิดรวบยอด (Concept)

2.1 ขั้นการสร้างความคิดรวบยอด

2.2 ขั้นการสร้างแนวคิดเป็นของตนเอง

ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติสร้างสรรค์ (Create)

3.1 ขั้นการคิดคล่องแคล่ว (Fluency)

3.2 ขั้นการคิดยืดหยุ่น (Flexibility)

3.3 ขั้นการคิดริเริ่ม (Originality)

3.4 ขั้นการคิดละเอียดลออ (Elaboration)

ขั้นที่ 4 ขั้นวิเคราะห์พิจารณา (Contemplate)

4.1 ขั้นวิเคราะห์ผลงาน

4.2 ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้

4 C Model.pdf