หน่วยที่1 เรื่องระบบจำนวนเต็ม
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
วีดิโอการสอนระบบจำนวนเต็ม
วีดิโอการสอนระบบจำนวนเต็ม
เนื้อหาบทเรียน
ระบบจำนวนเต็ม
ระบบจำนวนเต็ม
จํานวนเต็ม แบงได้ 3 ประเภท
1. จํานวนเต็มบวก คือ จำนวนที่มีค่ามากกว่าศูนย์ (ฝั่งขวาของเส้นจำนวน)
2. ศูนย์ คือ จำนวนที่ไม่เป็นทั้งบวกและลบ (อยู่ตรงกลางของเส้นจำนวน)
3. จํานวนเต็มลบ คือ จำนวนที่มีค่าน้อยกว่าศูนย์ (ฝั่งซ้ายของเส้นจำนวน)
เส้นจำนวนแสดงความสัมพันธ์ ของจำนวนเต็ม (หัวลูกศรสามารลากไปได้เรื่อยๆ ไม่มีสิ้นสุด)
จำนวนเต็มลบ ศูนย์ จำนวนเต็มบวก
-4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4
การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม
จากเส้นจำนวน ยิ่งไปฝั่งขวา ยิ่งมีค่ามาก ยิ่งไปฝั่งซ้ายยิ่งมีค่าน้อย
สัญลักษณ์แทนการเปรียบเทียบมีดังนี้
< เครื่องหมายน้อยกว่า เช่น 1 น้อยกว่า 3 เป็น 1 < 3
= เครื่องหมายเท่ากับ เช่น 1 เท่ากับ x เป็น 1 = x
> เครื่องหมายมากกว่า เช่น -1 มากกว่า -3 เป็น -1 > -3
ค่าสัมบูรณ์ คือ ผลตางของจำนวนนับใดๆ กับ 0 โดยใช้สัญลักษณ์ | | บนจำนวนนั้นๆ
เช่น | 5 | = 5 , | -10 | = 10
การบวกจำนวนเต็ม
- การบวกจำนวนเต็มบวกกับจำนวนเต็มบวก ให้นำค่าสัมบูรณ์ของทั้งสองมาบวกกัน ตอบออกมาเป็นค่าบวก
เช่น 3+ 2 = | 3 | + | 2 | = 3 + 2 = 5
- การบวกจำนวนเต็มลบกับจำนวนเต็มลบ ให้นำค่าสัมบูรณ์ของทั้งสองมาบวกกัน ตอบออกมาเป็นค่าลบ
เช่น (-3) + (-2) = - [ | 3 | + | 2 | ] = -( 3 + 2 ) = -5
- การบวกจานวนเต็มบวกกับจำนวนเต็มลบ ให้นำค่าสัมบูรณ์ของทั้งสองมาลบกัน โดยเอาตัวมากกว่าตั้ง ตอบออกมาเป็นบวกหรือลบนั้น ให้เลือกตามตัวมากกว่า
เช่น 3 + (-2) = 1 หรือ (-3) + 2 = -1
อย่างไรก็ดี วิธีที่ผ่านมาดังกล่าว เน้นความจำมากกว่าความเข้าใจ เมื่อบวกลบมากกว่าสองจำนวนขึ้นไปก็อาจเกิดความสับสน จึงแนะนำให้ใช้เส้นจำนวนในการพิจารณาด้วย และให้คิดดูว่า ค่าบวกนั้นจะมีทิศทางไปทางขวา ค่าลบมีทิศทางไปทางซ้าย และจะหักล้างกันเสมอ
จำนวนตรงข้าม คือ จำนวนที่อยู่ด้านตรงข้ามของเส้นจำนวน
เช่น
จำนวนตรงข้ามของ 2 คือ -2
จำนวนตรงข้ามของ -5 คือ 5
จำนวนตรงข้ามของ a คือ -a
จำนวนตรงข้ามของ -a คือ a
สามารถอธิบายได้ว่า - (-a) = a
การลบจานวนเต็ม ทําได้โดยเปลี่ยนจากลบเป็นการบวกด้วยจานวนตรงข้าม
เช่น 3 – 2 คือ 3 + (-2) = -6
การคูณจำนวนเต็ม ให้นำค่าสัมบูรณ์ ของทั้งสองจำนวนมาคูณกัน แล้วพิจารณาดังนี้
จำนวนเต็มบวก x จำนวนเต็มบวก = ค่าบวก
จำนวนเต็มลบ x จำนวนเต็มลบ = ค่าบวก
จำนวนเต็มบวก x จำนวนเต็มลบ = ค่าลบ
จำนวนเต็มลบ x จำนวนเต็มบวก = ค่าลบ
วิธีการดังกล่าวก็เป็นการท่องจำเช่นกัน ลองพิจาณาดังนี้
(-1) x (-1) = 1
(-1) x (-1) x (-1) = -1
5 x (-3) = 5 x 3 x (-1) >>> มีลบออกมา 1 ตัว ได้ค่าลบ = -15
(-5) x (-3) = 5 x 3 x (-1) x (-1) >>> มีลบออกมา 2 ตัว ได้ค่าบวก = 15
(-5) x (-3) x (-2) = 5 x 3 x 2 x (-1) x (-1) x (-1)>>> มีลบออกมา 3 ตัว ได้ค่าลบ = -30
สรุปคือ นับจำนวนลบที่มี ถ้าเป็นคู่หรือศูนย์ก็ได้ค่าบวก ถ้าเป็นคี่ก็ได้ค่าลบ
การหารจำนวนเต็ม ให้นำค่าสัมบูรณ์ ของทั้งสองจำนวนมาคูณกัน แล้วพิจารณาดังนี้
จำนวนเต็มบวก ÷ จำนวนเต็มบวก = ค่าบวก
จำนวนเต็มลบ ÷ จำนวนเต็มลบ = ค่าบวก
จำนวนเต็มบวก ÷ จำนวนเต็มลบ = ค่าลบ
จำนวนเต็มลบ ÷ จำนวนเต็มบวก = ค่าลบ
วิธีการดังกล่าวก็เป็นการท่องจำเช่นกัน ลองพิจาณาดังนี้
(-1) ÷ (-1) = 1
สรุปคือ นับจำนวนลบที่มีทั้งฝั่งเศษและส่วน ถ้าเป็นคู่หรือศูนย์ก็ได้ค่าบวก ถ้าเป็นคี่ก็ได้ค่าลบ
สมบัติของจำนวนเต็ม
1. สมบัติการสลับที
เมื่อมีจำนวนเต็มสองจำนวนบวกกันหรือคูณกัน สามารถสลับที่ได้โดยที่ผลลัพธ์ยังคงเท่าเดิม
นั่นคือ a + b = b + a และ a × b = b × a
เมื่อ a, b เป็นจำนวนเต็มใดๆ
เช่น 3 + (-2) = (-2) + 3 = 1
(-2) × 3 = 3 × (-2) = -6
2. สมบัติการเปลี่ยนหมู่
เมื่อมีจำนวนเต็มสามจำนวนบวกกันหรือคูณกัน สามารถทำคู่แรกหรือคู่หลังก่อนก็ได้ โดยที่ผลลัพธ์สุดท้ายยังคงเท่ากัน
นั่นคือ (a + b) + c = a + (b + c) และ (a × b) × c = a × (b × c)
เมื่อ a, b, c เป็นจำนวนเต็มใดๆ
เช่น [1 + (2)] + (3) = 1 + [(2) + (3)] = 6
[4 x (2)] x (3) = 4 x [(2) x (3)] = 24
3. สมบัติการแจกแจง
เมื่อมีจำนวนเต็มไปคูณกับในวงเล็บที่มีจำนวนเต็มบวกหรือลบกันอยู่ สามารถที่จะแจกจำนวนเต็มนั้นเข้าไปคูณทุกจำนวนในวงเล็บได้
นั่นคือ a × (b + c) = (a × b) + (a × c)
และ (b + c) × a = (b × a) + (c × a)
เช่น (-3) × [5 + 2] = [(-3) × 5] + [(-3) × 2] = -21
สมบัติของ 0 และ 1
สมบัติของศูนย์
1. a + 0 = 0 + a = a เมื่อ a แทนจำนวนใดๆ
2. a × 0 = 0 × a = 0 เมื่อ a แทนจำนวนใดๆ
3. 0 ÷ a = 0 เมื่อ a แทนจำนวนใดๆ ที่ไม่ใช่ 0
4. a × b = 0 แล้ว จะได้ a = 0 หรือ b = 0
สมบัติของหนึ่ง
ให้ a แทนจำนวนเต็มใดๆ
1. a × 1 = 1 × a = a
2. a ÷ 1 = a เมื่อ a แทนจำนวนเต็มใดๆ