ประวัติโรงเรียน
โรงเรียนวัดปรางค์เป็นโรงเรียนที่คณะสงฆ์อำเภอปัว ได้ร่วมกันจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ ปีการศึกษา 2536 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ เนื่องจากนับตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ.2535 นั้น ทางคณะสงฆ์อำเภอปัวได้ประสบกับปัญหาการขาดแคลนพระภิกษุ - สามเณร ที่จะมาปฏิบัติศาสนกิจในทางพระพุทธศาสนาตามวัดต่างๆ บางวัดเป็นวัดร้างไม่มีพระภิกษุ - สามเณรอยู่จำพรรษา บางวัดก็มีแต่เจ้าอาวาสหรือสมภารอยู่ในวัดเพียงรูปเดียว จึงทำให้เกิดปัญหาการทำพิธีทางพระพุทธศาสนา หรือประกอบพิธีการต่างๆ เช่น การทำบุญในมงคลและงานอวมงคลในแต่ละหมู่บ้าน เป็นต้น และเมื่อถึงช่วงเข้าพรรษา วัดก็ไม่มีพระภิกษุ - สามเณรอยู่จำพรรษา ทำให้คณะศรัทธาญาติโยมต้องออกไปทำบุญที่วัดอื่นซึ่งอยู่ห่างไกลสร้างความลำบากให้กับคณะศรัทธาญาติโยมของแต่ละหมู่บ้านเป็นอย่างมาก
จากปัญหาดังกล่าวทำให้คณะสงฆ์ในอำเภอปัว ได้ตระหนักถึงความสำคัญมาโดยตลอด และได้วิเคราะห์ถึงปัญหาการขาดแคลนพระภิกษุ-สามเณรอยู่ในขณะนั้น ซึ่งได้สรุปออกมาเป็น 3 ประเด็นหลัก คือ
1. คณะสงฆ์อำเภอปัวไม่ได้จัดการศึกษาให้กับพระภิกษุ- สามเณรอย่าง
หลากหลาย เพื่อสนองความต้องการเด็กนักเรียนที่จะเข้ามาบรรพชาเป็นสามเณรและชุมชนท้องถิ่น คงมีแต่เฉพาะการจัดการเรียนการสอนเฉพาะนักธรรมตรี โท เอก เท่านั้น จึงเป็นเหตุทำให้พระภิกษุ - สามเณรที่มีอยู่ออกไปศึกษาเล่าเรียนในตัวจังหวัดที่มีการจัดการเรียนการสอนอย่างหลากหลาย
2. ผู้ปกครองของนักเรียนที่เรียนจบชั้น ป. 6 ยังไม่ให้ความสำคัญกับการศึกษาพระปริยัติ-ธรรม แผนกนักธรรม จึงไม่สนับสนุนให้บุตรของตนเข้ามาบรรพชาเป็นสามเณร เพราะต้องการให้บุตรหลานของตนได้ศึกษาเล่าเรียนต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษา
3. วัดบางวัดในอำเภอปัว ที่เป็นวัดร้างไม่มีพระภิกษุ - สามเณรอาศัยอยู่ เป็นเหตุให้ผู้ปกครองของนักเรียนไม่เชื่อมั่นในการส่งบุตรหลานของตนเข้าไปอยู่ในวัดนั้น ๆ เพราะเป็นห่วงอนาคตของบุตรหลานของตนจะขาดคนดูแลอย่างใกล้ชิด
จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น ทางคณะสงฆ์อำเภอปัวจึงมีมติในที่ประชุมสงฆ์ที่จะเสนอให้มีการจัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาขึ้น โดยเสนอให้จัดตั้งที่วัดปรางค์ ตำบลปัว อำเภอปัว จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของอำเภอปัว จึงได้นำเอาข้อมูลดังกล่าวข้างต้น เข้าประชุมร่วมประชุมปรึกษาหารือกับทางชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านอำเภอปัวเพื่อหาทางแก้ไขกับปัญหาดังกล่าวข้างต้น ณ ที่ว่าการอำเภอปัว ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2535 และได้รับการสนับจากทางชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านอำเภอปัวเป็นอย่างดี
คณะสงฆ์อำเภอปัวจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการทำงานชุดหนึ่ง โดยมีพระครูนันทเขมคุณ รองเจ้าคณะอำเภอปัว วัดหนาด เป็นประธาน เจ้าอธิการเสวียน ปภาโต เจ้าคณะตำบลไชยวัฒนา และพระมหายุทธนา วชิรปญฺโญ รักษาการเจ้าอาวาสวัดราชสีมา เป็นคณะทำงาน เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและดำเนินการจัดทำโครงการจัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา เพื่อเสนอขอจัดตั้งจากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการต่อไป
ต่อมาคณะกรรมการดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการเสนอขอจัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาขึ้น เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2535 และได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็นโรงเรียนพระปริยัติ-ธรรม แผนกสามัญศึกษา สังกัดกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ ตามใบอนุญาตเลขที่ 72 ลงวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2536
ต่อมาในเดือนมีนาคม พ.ศ.2536 ทางคณะสงฆ์อำเภอปัว ร่วมกับทางชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านอำเภอปัว ได้ดำเนินการสร้างอาคารเรียนชั่วคราวจำนวน 1 หลัง โดยได้มอบหมายให้นายก่ำ ขระเขื่อน กำนันตำบลแงง อำเภอปัว (ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอปัว) เป็นผู้ควบคุมในการดำเนินการก่อสร้าง โดยใช้งบประมาณที่ได้รับบริจาคจากประชาชน จำนวนเงินประมาณ 23,000. บาท และได้เริ่มทำการเปิดการเรียนการสอนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.24536 เป็นต้นมา โดยเปิดทำการเรียนการสอนทั้งในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1) จำนวน 2 ห้องเรียน (ซึ่งใช้อาคารเรียนชั่วคราวมุงหญ้าคา) และชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4) จำนวน 1 ห้องเรียน (โดยใช้กุฏิที่พักสงฆ์วัดปรางค์ ใช้อาคารเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม(หลังเก่า) ของสำนักเรียนวัดปรางค์ เป็นห้องสมุด และห้องพักครู
ต่อมาในเดือนเมษายน พ.ศ.2537 โรงเรียนวัดปรางค์ได้สร้างอาคารเรียนชั่วคราว(มุงหญ้าคา) ขึ้นมาอีก 1 หลัง 3 ห้องเรียน เพื่อรองรับนักเรียนที่ขยายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้ทำโครงการสร้างอาคารเรียนถาวร ขนาด 2 ชั้น ขึ้น 1 หลัง โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณทั้งภาครัฐ และเอกชน และได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2540 และเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2540 เป็นต้นมา โดยใช้เป็นห้องเรียน จำนวน 5 ห้อง ห้องพักครู จำนวน 1 ห้อง ห้องวิชาการ จำนวน 1 ห้อง ห้องโสตฯ จำนวน 1 ห้อง ห้องวิทยาศาสตร์ จำนวน 1 ห้อง ห้องคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 ห้อง และห้องสมุด จำนวน 1 ห้อง
ต่อมาในปีการศึกษา 2542 ทางโรงเรียนได้ทำการรื้อถอนอาคารเรียนชั่ว คราว (มุงหญ้าคา) และได้ก่อสร้างอาคารถาวร ขนาดชั้นเดียว จำนวน 3 ห้องเรียนขั้นมา 1 หลัง โดยแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2542 และได้ใช้เป็นอาคารเรียนถาวรมาจนถึงปัจจุบัน
ต่อมา พ.ศ. 2545 ได้ทำการรื้อถอนอาคารไม้ที่ใช้เป็นห้องพักครูและห้องสมุด(อาคารสำนักเรียนวัดปรางค์เก่า) และได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียนถาวรเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2545 และแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 ใช้เป็นห้องเรียนจำนวน 2 ห้องเรียน
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จทรงเยี่ยมโรงเรียนวัดปรางค์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2549 ทางโรงเรียนได้กราบบังคมทูล ฯ เสนอขอสร้างอาคารศูนย์การเรียนรู้ชุมชน และมีองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่านรับดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์การเรียนรู้ขนาด 2 ชั้น ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างใน พ.ศ. 2551 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2552
ใช้เป็นอาคารหอฉัน และศูนย์การเรียนรู้ ICT ของโรงเรียน
ในพ.ศ. 2552 ทางโรงเรียนได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารโรงครัว เพื่อใช้เป็นห้องปรุงอาหาร - น้ำปานะ ในโครงการพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ปัจจุบันโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาวัดปรางค์ สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ให้กับพระภิกษุ -สามเณรในเขตพื้นที่บริการอำเภอปัว และนอกพื้นที่บริการ ได้แก่ อำเภอเชียงกลาง อำเภอบ่อเกลือ อำเภอทุ่งช้าง และอำเภอท่าวังผา เป็นต้น