นโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลส์ จำกัด
บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลส์ จำกัด (“บริษัทฯ”) ได้ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และบุคคลทั่วไปของบริษัทฯ หรือมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ โดยประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้อธิบายแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
1 ขอบเขตการมีผลใช้บังคับ
1.1 บุคคลที่ประกาศฯ มีผลใช้บังคับ
ประกาศนี้มีผลใช้บังคับกับลูกค้า และบุคคลทั่วไปของบริษัทฯ หรือมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม (“ท่าน”) โดยแบ่งออกได้ดังนี้
1.1.1 ลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา
หมายถึง บุคคลที่จะเป็น/เป็น/เคยเป็น ผู้ซื้อสินค้า ใช้บริการ อุดหนุน ได้รับประโยชน์ หรือการอื่นใดในทำนองเดียวกัน จากบริษัทฯ บริษัทภายในเครือ รวมถึงแต่ไม่จำกัดที่บริษัทฯ ได้ไปว่าจ้างบุคคลอื่นหรือนิติบุคคลให้กระทำแทน/ในนามบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นในทำนองเดียวกัน เช่น
ผู้ซื้อ ผู้เช่า ผู้เช่าซื้อ
ผู้เข้ามาติดต่อ/สอบถาม เกี่ยวกับการเข้ารับบริการของบริษัทฯ หรือที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ
เป็นต้น
1.1.2 ลูกค้าที่เป็นนิติบุคคล
หมายถึง บุคคล ผู้แทน ตัวแทน รวมถึงแต่ไม่จำกัดผู้รับมอบอำนาจ จากนิติบุคคลที่จะเป็น/เป็น/เคยเป็น ผู้ซื้อสินค้า ตัวแทนจำหน่าย ผู้ค้าปลีก ผู้ใช้บริการ อุดหนุน ได้รับประโยชน์ จากบริษัทฯ
บริษัทภายในเครือ รวมถึงแต่ไม่จำกัดที่บริษัทฯได้ไปว่าจ้างบุคคลอื่นหรือนิติบุคคลให้กระทำแทน/ในนามบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นในทำนองเดียวกัน เช่น
ผู้ถือหุ้น
ผู้บริหารระดับสูง
กรรมการผู้จัดการ
ผู้จัดการทั่วไป
ผู้ประสานงาน
พนักงานเจ้าหรือเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับมอบอำนาจหรือมอบหมาย
เป็นต้น
1.1.3 บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ที่มีความเกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์อื่นใดกับบริษัทฯ
หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล รวมถึงแต่ไม่จำกัดผู้แทน ตัวแทน ผู้รับมอบอำนาจ ผู้ประสานงานของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลนั้น ซึ่งมีความเกี่ยวข้อง หรือมีความสัมพันธ์อื่นใดกับบริษัทฯ จากบริษัทฯ บริษัทภายในเครือ รวมถึงแต่ไม่จำกัดที่บริษัทฯ ได้ไปว่าจ้างบุคคลอื่นหรือนิติบุคคลให้กระทำแทน/ในนามบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นในทำนองเดียวกัน เช่น
ลูกจ้าง พนักงาน เจ้าหน้าที่ บุคลากรภายใน ผู้ที่มาปฏิบัติงานให้กับบริษัท
บุตร บิดามารดา คู่สมรส สมาชิกในครอบครัว
บุคคลอ้างอิงหรือให้การรับรอง
ผู้ค้ำประกัน ผู้จำนำ ผู้จำนอง
ลูกหนี้ เจ้าหนี้
ตัวแทน ผู้แทน ผู้ประสานงาน ผู้ได้รับมอบอำนาจ ผู้ได้รับมอบหมาย
เป็นต้น
1.1.4 บุคคลธรรมดาทั่วไป
บุคคลอื่น ๆ นอกเหนือจากบุคคลตามข้อ 1.1.1 – 1.1.3 ผู้เกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์ใด ๆ กับบริษัทฯ บริษัทภายในเครือ รวมถึงแต่ไม่จำกัดที่บริษัทฯ ได้ไปว่าจ้างบุคคลอื่นหรือนิติบุคคลให้กระทำแทน/ในนามบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
2 ข้อมูลที่มีการเก็บรวบรวม
2.1 แหล่งที่มาของข้อมูล
2.1.1 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง
บริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรงผ่านขั้นตอนที่มีขึ้นหรือจัดทำขึ้นเพื่อการดำเนินการใด ๆ ระหว่างท่านกับบริษัทฯ รวมถึงแต่ไม่จำกัดที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่บริษัทฯ ได้จัดเตรียมไว้ เช่น เว็บไซต์ อีเมล์ แอพพลิเคชั่น เฟสบุ๊ค (Facebook) ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ (Line Official Account) โทรศัพท์ โทรสาร ข้อความ (SMS) แบบสอบถาม ใบลงทะเบียน ใบสมัครใช้บริการ ใบส่งสินค้า หรือช่องทางอื่นใด
2.1.2 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น
บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น บุคคลที่ท่านได้อ้างอิงหรือผู้ให้การรับรอง บริษัทภายในเครือ ตัวแทนจำหน่าย พันธมิตรทางธุรกิจ หรือจากการตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติของท่าน เช่น จากมหาวิทยาลัยที่ท่านจบการศึกษา หน่วยงานหรือองค์กรที่ท่านปฏิบัติงานหรือเคยปฏิบัติงาน หน่วยงานราชการ เป็นต้น
2.1.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม
บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลจากบุคคลที่สามซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับท่านโดยท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลดังกล่าวกับ บริษัทฯ เช่น คู่สมรส บุตร บิดามารดา สมาชิกภายในครอบครัว ผู้ถือหุ้น ผู้มอบอำนาจ บุคคลอ้างอิง ผู้ค้ำประกัน หรือผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน โดยบริษัทฯ เก็บรวมรวบข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านเพื่อประโยชน์แก่ตัวท่าน
ทั้งนี้ท่านจะต้องแจ้งให้บุคคลที่สามซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับท่านทราบถึงประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ฯ ฉบับนี้ รวมทั้งท่านจะต้องแจ้งให้บุคคลที่สามทราบถึงสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
3 ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ใน ข้อ 6 เท่านั้น
ทั้งนี้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจะเป็นไปตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ เป็นรายกรณีไป
โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
3.1 ข้อมูลทั่วไป
3.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลธรรมดา
คือ บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ หรือบุคคลทั่วไป
3.1.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อ นามสกุล
ลายมือชื่อ
เพศ อายุ วันเดือนปีเกิด
สัญชาติ ประเทศที่พำนักอาศัย
ข้อมูลเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการที่ใช้ในการระบุและยืนยันตัวตน เช่น สำเนาบัตรประชาชน เป็นต้น
3.1.1.2 ข้อมูลการติดต่อ
ที่อยู่ตามเอกสารสำคัญ ที่อยู่ตามปัจจุบัน สถานที่ทำงาน
หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์
ชื่อหรือบัญชีผู้เข้าใช้งานสำหรับการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์/สังคมออนไลน์ต่าง ๆ เช่น ไอดีไลน์ ( ID Line), เฟสบุ๊ค (Facebook) เป็นต้น
3.1.1.3 ข้อมูลทางการเงินและการทำธุรกรรม
เลขที่บัญชีธนาคาร
ข้อมูลรายได้
เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
ข้อมูลการสมัครใช้ช่องทาง ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ
ข้อมูลประกอบการใช้ผลิตภัณฑ์/บริการ เช่น รหัสลูกค้า หมายเลขรหัสสินค้า ข้อมูลรถยนต์ รูปทะเบียนรถ ข้อมูลเช็ค ข้อมูลที่ปรากฏในใบรับสินค้า ข้อมูลตั๋วแลกเงิน ข้อมูลคะแนนสะสมเพื่อรับของรางวัล ข้อมูลทางการค้า คำสั่งซื้อสินค้า สัญญาค้ำประกัน เป็นต้น
3.1.1.4 ข้อมูลทางเทคนิค
ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ (Log – in) ระยะเวลาที่เข้าถึง การใช้งานและระยะเวลาการใช้งานแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ ประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดู
ภาพจากกล้องวงจรปิด
3.1.1.5 ข้อมูลอื่นๆ
บันทึกการสื่อสารหรือการตอบโต้ระหว่างท่านกับบริษัทฯ ในการให้รายละเอียดเรื่องการให้บริการ สอบถามความพึงพอใจ ประเมินผลการให้บริหาร การตรวจสอบเรื่องร้องเรียน
ข้อมูลการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท
3.1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของนิติบุคคล
คือ บุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับนิติบุคคล ซึ่งนิติบุคคลนั้นมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ เช่น กรรมการผู้จัดการ ผู้ถือหุ้น ผู้บริหารระดับสูง ผู้รับมอบอำนาจ เป็นต้น
3.1.2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อ นามสกุล
ลายมือชื่อ
รูปถ่าย
เพศ อายุ วันเดือนปีเกิด
สัญชาติ ประเทศที่พำนักอาศัย
ข้อมูลเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการที่ใช้ในการระบุและยืนยันตัวตน เช่น สำเนาบัตรประชาชน เป็นต้น
3.1.2.2 ข้อมูลติดต่อ
ที่อยู่ตามเอกสารสำคัญ ที่อยู่ตามเอกสารปัจจุบัน สถานที่ทำงาน
หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์
รูปถ่ายร้านค้า/สำนักงาน
3.1.2.3 ข้อมูลการทำงาน
อาชีพและสาขาอาชีพ
ตำแหน่ง
รายละเอียดงาน ประเภทธุรกิจ
3.1.2.4 ข้อมูลที่ปรากฎในเอกสารประกอบการทำธุรกรรม
หนังสือรับรองบริษัท
หนังสือจดทะเบียนพาณิชย์
ภพ.20, ภพ.09
3.1.2.5 ข้อมูลอื่นๆ
ข้อมูลที่การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ กับนิติบุคคล เช่น ข้อมูลที่นิติบุคคลให้แก่บริษัทในการทำสัญญา/การใช้บริการ รายละเอียดเรื่องร้องเรียนหรือการออกความเห็น ผลประเมินการสำรวจความคิดเห็น ข้อมูลการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัทฯ เป็นต้น
3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (Sensitive Data)
ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้กำหนดไว้ตามมาตรา 26 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทฯ ไม่มีจุดประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน ยกเว้นแต่เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในข้อ 6 เท่านั้น เช่น ข้อมูลสุขภาพจากผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid-19) ข้อมูลอุณหภูมิร่างกาย ข้อมูลผลการฉีดวัคซีน เป็นต้น
ในกรณีที่บริษัทฯ เรียกเก็บสำเนาบัตรประชาชนของท่าน ยกเว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ เก็บสำเนาบัตรประชาชนของท่านโดยมีความจำเป็นจะต้องใช้ข้อมูลศาสนาและ/หรือหมู่โลหิต บริษัทฯ ขอให้ท่านทำข้อมูลต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถมองเห็นได้ โดยขอให้ท่านขีดฆ่าข้อมูลศาสนาและ/หรือหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่บนหน้าสำเนาบัตรประชาชน เนื่องจากบริษัทฯ ไม่มีจุดประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวจากท่าน ในกรณีที่ท่านไม่ได้ทำการขีดฆ่า บริษัทฯ จะถือว่าท่านยินยอมให้บริษัทฯ ขีดฆ่าข้อมูลดังกล่าวได้เอง
4 การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ
หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
ในกรณีที่ท่านเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ บริษัทไม่มีจุดประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ โดยปราศจากความยินยอมของบุคคลดังกล่าว บริษัทฯ จะทำการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทันที เว้นแต่เป็นกรณีที่มีฐานทางกฎหมายให้อำนาจบริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม ทั้งนี้บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับท่านและบริษัทฯเท่านั้น
5 วิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบเอกสารและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และมีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้
เซิร์ฟเวอร์ของบริษัทฯ ในประเทศไทย
เซิร์ฟเวอร์ของบริษัทฯ ในต่างประเทศ
6 วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
6.1 เพื่อเป็นช่องทางสื่อสารและ/หรือติดต่อท่าน ในการให้คำปรึกษา แนะนำ ผลิตภัณฑ์ การให้บริการ กิจกรรมที่ บริษัทฯ จัดทำขึ้นและ/หรือที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ที่ท่านอาจสนใจหรือตรงกับความต้องการของท่าน เช่น การนำเสนอผลิตภัณฑ์ การบริการ โครงการ หรือกิจกรรมที่ท่านอาจสนใจผ่านทางอีเมล์ (E-mail) ทางโทรศัพท์ ทางจดหมาย ทางข้อความ (SMS) ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ (Line Official Account) เป็นต้น
โดยมีฐานทางกฏหมาย คือ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.2 เพื่อการพิจารณา และ/หรือการตรวจสอบคุณสมบัติ ประวัติ เอกสารอ้างอิงและ/หรือบุคคลอ้างอิง/รับรอง เมื่อท่านประสงค์ซื้อผลิตภัณฑ์ เข้ารับการบริการ เข้าร่วม/มีส่วนร่วมโครงการ กิจกรรมใด ๆ ที่บริษัทฯ จัดทำขึ้นและ/หรือที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ
การออกใบสั่งขาย (Sale Order) ,การสั่งซื้อสินค้า, การจัดทำสัญญาซื้อขายและการตรวจสอบเอกสารแนบท้ายสัญญา
การตรวจสอบหนังสือมอบอำนาจ และเอกสารประกอบการทำหนังสือมอบอำนาจ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน
การตรวจสอบหนังสือรับรองบริษัทฯ/บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
การตรวจสอบความถูกต้องของการทำสัญญาค้ำประกันโดยวิธีการต่าง ๆ เช่น การวางหนังสือค้ำประกันที่ธนาคารเป็นผู้ออกให้
เพื่อการยืนยันตัวท่านเมื่อท่านเป็นผู้ชนะได้รับของรางวัลจากการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทฯ
เป็นต้น
โดยมีฐานทางกฏหมาย คือ การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis), ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.3 เพื่อการพิจารณา ตรวจสอบ ประเมินความเสี่ยง และ/หรือพิจารณาอนุมัติ การซื้อผลิตภัณฑ์ เข้ารับการบริการ เข้าร่วม/มีส่วนร่วมโครงการ กิจกรรมใด ๆ ของท่าน ที่บริษัทฯ จัดทำขึ้นและ/หรือที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ เช่น
เพื่อจัดทำบัญชีผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ให้กับท่านในการเข้าใช้บริการของบริษัท
เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลิตภัณฑ์หรือการบริการที่เหมาะสมต่อความต้องการ/คำขอของท่าน
เป็นต้น
โดยมีฐานทางกฏหมาย คือ การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis), ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.4 เพื่อให้การปฏิบัติตามสัญญา และ/หรือคำอนุญาตให้เข้าร่วม/มีส่วนร่วม การซื้อผลิตภัณฑ์ เข้ารับการบริการ เข้าร่วม/มีส่วนร่วมโครงการ การได้รับสิทธิประโยชน์ กิจกรรมใด ๆ ของท่าน ที่บริษัทฯ จัดทำขึ้นและ/หรือที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ให้เกิดขึ้นมีได้โดยตลอด เช่น
เพื่อการเปิดบัญชีลูกค้าใหม่
เพื่อการพิจารณาสินเชื่อให้กับท่าน
การอนุมัติบัญชีผู้ใช้งานของท่านในการเข้ารับบริการของบริษัทผ่านทางแอพพลิเคชั่น
เพื่อการส่งมอบงาน
เพื่อการอธิบายวิธีการใช้งานสินค้า
เพื่อการจัดเก็บประวัติการสั่งซื้อสินค้า/การใช้บริการของท่าน
เพื่อการเข้าไปซ่อมแซมสินค้าที่ชำรุดหรือการบำรุงรักษาสินค้า
เพื่อการติดตามทวงถามให้ชำระหนี้
เป็นต้น
โดยมีฐานทางกฏหมาย คือ การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis), ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.5 เพื่อการให้คำแนะนำภายหลังการซื้อผลิตภัณฑ์ เข้ารับการบริการ เข้าร่วม/มีส่วนร่วมโครงการ กิจกรรมใด ๆ ของท่าน ที่บริษัทฯ จัดทำขึ้นและ/หรือที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตัวท่าน เช่น
การแนะนำวิธีการใช้งานผลิตภัณฑ์ผ่านทางทางแอพพลิเคชั่นไลน์ (Line Official Account) เมื่อลูกค้าร้องขอ
เป็นต้น
โดยมีฐานทางกฏหมาย คือ การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis), ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.6 เพื่อการดำเนินการต่าง ๆ ในขั้นตอนของกระบวนการเกี่ยวกับการทำธุรกรรมและ/หรือการชำระเงิน เช่น การออกใบแจ้งการชำระหนี้ การวางบิล/ใบชำระหนี้ การโอนเงิน การชำระค่าธรรมเนียม การชำระหนี้ การทำใบเสร็จรับเงิน การจัดทำใบกำกับภาษี การหักภาษี ณ ที่จ่าย การตัดบัญชีลูกหนี้เป็นหนี้สูญ การทำบันทึกตั้งเจ้าหนี้ในประเทศ/ต่างประเทศ การทำรายงายภาษีขาย/ภาษีซื้อ การทำใบลดหนี้/ใบเพิ่มหนี้ การทำใบส่งสินค้า เป็นต้น
โดยมีฐานทางกฏหมาย คือ การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation), การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis), ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.7 เพื่อการสำรวจ ประเมิน วัดผล ความพึงพอใจ/ข้อเสนอแนะของท่านภายหลังการเข้ารับซื้อผลิตภัณฑ์ เข้ารับการบริการ เข้าร่วม/มีส่วนร่วมโครงการ กิจกรรมใด ๆ เช่น การส่งแบบสอบถามความพึงพอใจหลังเข้ารับบริการผ่านทางอีเมล์ (E-mail) ทางโทรศัพท์ ทางจดหมาย ทางข้อความ เป็นต้น
โดยมีฐานทางกฏหมาย คือ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.8 เพื่อการทำกิจกรรมทางการตลาดที่ไม่ต้องอาศัยความยินยอมของท่านตามกฎหมาย เช่น
การจัดเก็บข้อมูลเพื่อนำไปทำแคมเปญ/วิเคราะห์สิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับหากใช้บริการของบริษัทต่อไป
การนำเสนอสินค้าที่ใกล้เคียงกับความต้องการของท่านเมื่อสัญญาเดิมใกล้จะหมด
เป็นต้น
โดยมีฐานทางกฎหมาย คือ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.9 เพื่อการดำเนินการภายในที่เกี่ยวข้อง เช่น
การติดต่อประสานงานระหว่างหน่วยงานภายในและภายนอกบริษัทฯ
เพื่อการจัดทำแฟ้มประวัติ
เพื่อการขอให้ผู้มีอำนาจในบริษัทอนุมัติคำร้องขอ
เพื่อการทำรายงานภายในบริษัทฯ
เป็นต้น
โดยมีฐานทางกฎหมาย คือ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.10 เพื่อการกำกับดูแล การตรวจสอบภายใน ประเมินความเสี่ยงของบริษัทฯ และ/หรือบริษัทฯ ภายในเครือ เพื่อให้บริษัทฯ บรรลุวัตถุประสงค์ในการประเมินและปรับปรุงประสิทธิผลของกระบวนการบริหารความเสี่ยง การควบคุม และการกำกับดูแลอย่างเป็นระบบและระเบียบ
โดยมีฐานทางกฎหมาย คือ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.11 เพื่อการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท เช่น การดำเนินตามคำร้องขอของท่านเมื่อท่านขอให้ใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความถูกต้องเป็นปัจจุบัน เป็นต้น
โดยมีฐานทางกฏหมาย คือ การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation), ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.12 เพื่อการดำเนินการรักษาความปลอดภัยภายในบริษัท รวมถึงแต่ไม่จำกัดบริเวณโดยรอบ บริษัทอาจมีการบันทึกภาพของท่านผ่านทางระบบกล้องวงจรปิด (CCTV)
โดยมีฐานทางกฎหมาย คือ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.13 เพื่อการรักษาความปลอดภัย ปกป้อง ป้องกัน รักษา ชีวิตและอนามัยของท่านและ/หรือทรัพย์สินของท่าน รวมถึงแต่ไม่จำกัดทรัพย์สินของบริษัทฯ หรือที่เกี่ยวข้องกับบริษัท
โดยมีฐานทางกฎหมาย คือ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.14 เพื่อการดำเนินการต่าง ๆ ในการพิจารณา ตรวจสอบ สอบสวน รวมถึงแต่ไม่จำกัดการรวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อมีข้อร้องเรียน ร้องทุกข์ ข้อพิพาทอันเกี่ยวเนื่องกับบริษัทฯ ที่จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลของท่าน
โดยมีฐานทางกฎหมาย คือ ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.15 เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย และการยกข้อต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัทฯ
โดยมีฐานทางกฎหมาย คือ การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation), ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.16 เพื่อส่งหรือใช้สำหรับจัดทำเอกสารให้กับองค์กรของรัฐ หน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมายหรือแต่งตั้งอำนาจหน้าที่จากรัฐ ในกรณีที่ได้รับคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย
โดยมีฐานทางกฎหมาย คือ การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
6.17 เพื่อประกอบการดำเนินคดีในชั้นศาลจนเสร็จสิ้นกระบวนการ
โดยมีฐานทางกฎหมาย คือ การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation), ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
6.18 เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร เป็นต้น
โดยมีฐานทางกฎหมาย คือ การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
6.19 เพื่อการบริหารจัดการด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยของท่าน
โดยมีฐานทางกฎหมาย คือ การป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (Vital Interests)
โดยบริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและ/หรือบุคคลที่สามตามฐานทางกฎหมายที่พระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้ให้อำนาจไว้ได้โดยไม่จำต้องขอความยินยอม อย่างไรก็ตามมีบางกรณีที่บริษัทอาจต้องขอความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้ง เนื่องจากฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งบริษัทจะขอความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านทาง “แบบฟอร์มให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” ต่อไป ทั้งนี้ในกรณีของบุคคลที่สามซึ่งเกี่ยวข้องกับท่าน หากมีกรณีที่บริษัทฯ จะต้องขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง ท่านจะต้องเป็นผู้ดำเนินการขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลของบุคคลที่สามให้กับ บริษัทฯ
บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านในกิจกรรมตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
6.20 เพื่อการทำกิจกรรมทางการตลาดซึ่งบริษัทฯ จำเป็นต้องอาศัยความยินยอมของท่าน
โดยมีฐานทางกฎหมาย คือฐานความยินยอม (Consent)
บริษัทฯ ขอแจ้งว่าในกรณีที่ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือสัญญา หรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าทำสัญญานั้น ในกรณีที่ท่านไม่ประสงค์ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ อาจส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการปฏิบัติตามกฎหมาย สัญญา การเข้าทำสัญญา หรือการให้บริการบางประการกับท่านได้ เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็นในขั้นตอนดังกล่าวนั้น
ข้อมูลใด ๆ ที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ซึ่งเป็นวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ บริษัทฯ สามารถเก็บรวบรวบและใช้ข้อมูลดังกล่าวได้ต่อไปภายใต้วัตถุประสงค์เดิม ทั้งนี้หากท่านไม่ประสงค์จะให้บริษัทฯ เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลที่ได้รับจากท่านก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2565 เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดเอาไว้เป็นอย่างอื่น ท่านสามารถแจ้งยกเลิกความยินยอมให้เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูล โดยการติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตามช่องทางที่บริษัทฯ ได้จัดเตรียมไว้ในข้อ 12 ของประกาศฯ
7 การเปิดเผยข้อมูล
บริษัทฯ อาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ดังต่อไปนี้
7.1 การบริหารจัดการภายในองค์กร
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลภายในของท่านภายในบริษัทฯ เท่าที่จำเป็นสำหรับการบริหารจัดการต่าง ๆ ของท่านภายใต้ประกาศนี้เพื่อประโยชน์ของท่านและผู้อื่นมากขึ้น
7.2 การบังคับใช้กฎหมาย
ในกรณีที่มีกฎหมายหรือหน่วยงานราชการร้องขอ บริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยราชการ เช่น ศาล หรือหน่วยราชการอื่น เป็นต้น
7.3 พันธมิตรทางธุรกิจ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลบางอย่างกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อติดต่อและประสานงานตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้
7.4 บริษัทภายในเครือ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลบางอย่างให้กับบริษัทที่อยู่ภายในเครือของบริษัทฯ เพื่อการปฏิบัติงานในโครงการที่เกี่ยวข้องกับท่าน
7.5 ผู้ให้บริการ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลบางอย่างกับผู้ให้บริการ สำหรับดำเนินการต่าง ๆ เช่น
7.5.1 การฝึกอบรม สัมมนา
7.5.2 การบริการขนส่ง
7.5.3 การบริการเก็บรักษาและทำลายเอกสาร
7.5.4 การบริการด้านการตลาด
7.5.5 การบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
7.5.6 การบริการติดตั้ง
7.5.7 บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ ผู้ตรวจสอบบัญชี ที่ปรึกษากฎหมายหรือภาษี เป็นต้น
7.6 การโอนถ่ายธุรกิจ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูล รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสำหรับการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวม หรือการขายกิจการ หรือการถ่ายโอนทรัพย์สินอื่น ๆ โดยที่ฝ่ายรับโอนข้อมูลจะต้องปฏิบัติกับข้อมูลของท่านในลักษณะที่สอดคล้องกับประกาศนี้ รวมถึงกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้วย
8 ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล
บริษัทฯ จะทำการจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับประกาศฉบับนี้ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น หรือเพื่อให้การปฏิบัติตามสัญญาลุล่วงเสร็จสมบูรณ์
บริษัทฯ จะทำการลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็น หรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
9 สิทธิเจ้าของข้อมูล
ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิดำเนินการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
9.1. สิทธิขอถอนความยินยอม (Right To Withdraw Consent)
หากท่านได้ให้ความยินยอม บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา
9.2. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (Right To Access)
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ข้อมูลส่วนบุคคลของมาได้อย่างไร
9.3. สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (Right To Data Portability)
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตน ในกรณีที่บริษัทฯ ได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติและมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
9.4. สิทธิขอคัดค้าน (Right To Object)
ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้
หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลหรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยัน การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
9.5. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (Right To Erasure/Destruction)
ท่านมีสิทธิที่จะขอลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของตน หรือทำให้ข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หากท่านมีความเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับประกาศฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้น
9.6. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (Right To Restriction Of Processing)
ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว ในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน
9.7. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล (Right To Rectification)
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
9.8. สิทธิร้องเรียน (Right To Lodge A Complaint)
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ บริษัทฯ จะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำขอใช้สิทธิจากท่าน ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่บริษัทฯ กำหนด ทั้งนี้ หากบริษัทปฏิเสธคำขอ บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล์ โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น
10 การส่งหรือโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ
บริษัทฯ อาจมีการส่งหรือโอนข้อมูลไปยังบุคคล องค์กร หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ เพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายที่ได้ระบุไว้ในข้อ 6 เท่านั้น ทั้งนี้บริษัทจะใช้ความระมัดระวังและคำถึงนึงความปลอดภัยของท่านเป็นสำคัญ โดยจะส่งหรือโอนข้อมูลเท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยบริษัทฯ จะดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทางนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอหรือกรณีอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
11 การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว
เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทฯ อาจตรวจสอบแล้วทำการ แก้ไข เปลี่ยนแปลง ยกเลิก ประกาศคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ฉบับนี้ได้ทุกเมื่อ โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบหลังการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทุกครั้ง
ประกาศฉบับนี้แก้ไขล่าสุดและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565
12 รายละเอียดของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ หรือต้องการใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อมาที่ :
คณะทำงานกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลส์ จำกัด
28/9 หมู่ 3 ถนนบางนา-ตราด กม.23
ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ รหัสไปรษณีย์ 10570
Email : pdpa@bangkokkomatsusales.com
เบอร์โทรศัพท์ : 02 663 2666