หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก

ความเป็นมา

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระปรีชาสามารถยอดเยี่ยมในทางอักษรศาสตร์ ได้ทรงพระราชนิพนธ์วรรณคดีเรื่องต่างๆ ไว้มากกว่า 1,200 เรื่อง ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง ทั้งสารคดีและบันเทิงดี งานประพันธ์ประเภทหนึ่งที่ทรงพระราชนิพนธ์ไว้เป็นจำนวนมากคือ บทละครพูด มีทั้งที่ทรงผูกเค้าโครงเรื่องเองและที่แปลหรือแปลงมาจากภาษาต่างประเทศ

แม้บทละครเรื่องนี้จะแต่งขึ้นมากว่า 90 ปีแล้ว ความนิยมบางอย่างในสมัยนั้นอาจหมดไป วิธีใช้คำพูดตลอดจนกิริยามารยาทบางอย่างอาจเปลี่ยนไป ถึงกระนั้นก็ดี ความรักอันยิ่งใหญ่องบุพการีที่มีต่อบุตรของตนนั้นเป็นคุณธรรมสำคัญที่แสดงไว้ในเรื่องรวมไปถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและความรักในสักดิ์ศรี ล้วนเป้นสิ่งที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม ทุกชาติทุกภาษาและทุกยุคทุกสมัย บทละครพูดเรื่องนี้นอกจากจะได้รับคัดเลือกให้นักเรัยนระดับมัธยมศึกษามาเป็นเวลายาวนานแล้ว ยังได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศได้แก่ ภาษาเกาหลี จีน ญี่ปุ่น นอร์เวย์ ฝรั่งเศส มาเลย์ รัสเซีย สเปน สิงหล อังกฤษ อาหรับ อินโดนีเซีย และฮินดี เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในงานพระราชพิธีฉลองวันพระราชสมภพครบ 100 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้ามงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวอีกด้วย



ประวัติผู้แต่ง

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ) เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระราชสมภพเมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๓ พระองค์ทรงเป็นอีกหนึ่งพระราชโอรสที่ทรงศึกษาต่อต่างประเทศในด้านวิชาพลเรือน และวิชาการทหาร หลังเสด็จเสวยราชย์เป็นมหากษัตริย์องค์ที่ ๖ แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้ก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศเช่นเดียวกับพระราชบิดา


เรื่องย่อ

นายล้ำเคยติดคุก 10 ปีไม่พบกับพระยาภักดีนฤนาถ เป็นเวลากี่ปี 15 ปี ตั้งใจมาเยี่ยมเจ้าคุณ และพบแม่ลออนายล้ำมาที่บ้านพระยาภักดีมีอ้ายคำซึ่งเป็นคนรับใช้ของพระยาภักดีเป็นคนต้อนรับและนั่งคอยดูอยู่ห่างๆ เนื่องจากไม่ไว้ใจเพราะเห็นสภาพของนายล้ำที่แต่งตัวปอนๆ ท่าทางดื่มเหล้าจัดจนเมื่อพระยาภักดีกลับมาบ้านได้พบนายล้ำจึงทำให้ทราบเรื่องราวของคนทั้งสองจากการสนทนาโต้ตอบกันว่า นายล้ำเป็นเพื่อนกับพระยาภักดี ซึ่งมีตำแหน่งเป็นหลวงกำธร ส่วนนายล้ำเป็นทิพเดชะ มีภรรยา คือแม่นวล มีลูกสาวคือ แม่ลออ เมื่อแม่ลออมีอายุ 2 ขวบเศษ นายล้ำก็ถูกจำ คุก [2] เพราะทุจริตต่อหน้าที่ แม่นวลเลี้ยงดูลูกสาวมาตามลำพัง ก่อนตายจึงยกลูกสาวให้เป็นลูกบุญธรรมของพระยาภักดี นายล้ำจำคุกอยู่ 10 ปี ก็ออกจากคุกไปร่วมค้าฝิ่นอยู่กับจีนกิมจีนเง็ก ที่พิษณุโลก พอถูกตำรวจจับได้ก็แก้ข้อกล่าวหาเอาตัวรอดฝ่ายเดียว

ต่อมาก็ตกอยู่ในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัวจึงตั้งใจจะมาอยู่กับแม่ลออ ซึ่งมีอายุ 17 ปี กำลังจะแต่งงาน กับนายทองคำลูกเจ้าคุณรณชิต ซึ่งมีฐานะดี แต่พระยาภักดีพยายามชี้แจงให้นายล้ำเห็นแก่ลูกสาวไม่ต้องการให้ถูกคนอื่นรังเกียจว่ามีพ่อเป็นคนขี้คุกและฉ้อโกง จนในที่สุดเสนอเงินให้ 100 ชั่ง แต่นายล้ำก็ไม่ยอม พระยาภักดีโกรธหยิบแส้หางม้าเพื่อจะฟาดนายล้ำ พอดีแม่ลออกลับมา และเข้ามาทักทายนายล้ำ นายล้ำจึงได้รู้จักกับแม่ลออและได้เห็นประจักษ์ว่าตนเลวเกินกว่าจะเป็นพ่อของแม่ลออ ซึ่งหล่อนได้วาดภาพพ่อไว้ในใจว่า พ่อเป็นคนดีที่หาที่ติไม่ได้เลย นายล้ำเกิดความรู้สึกละอายใจ จึงเปลี่ยนจากความเห็นแก่ตัว เป็น ”ความเห็นแก่ลูกและได้มอบแหวนของแม่นวลฝากพระยาภักดีให้แก่แม่ลออเป็นของรับไหว้และพระยาภักดีได้มอบรูปถ่ายแม่ลออ ให้นายล้ำ นายล้ำก็ลาจากไป


ข้อคิดที่ได้รับจากเรื่องเห็นแก่ลูก

1. คนเราทุกคนย่อมรักและหวังดีต่อลูกและพร้อมที่จะเสียสละเพื่อลูกได้

2. คนที่ทำความดีย่อมได้รับผลดีตอบแทน ถ้าทำความชั่วก็ย่อมได้รับผลของความชั่วนั้น

3. การประพฤติตนไม่เหมาะสม เช่นการ ฉ้อราษฎร์บังหลวง ย่อมได้รับผลของกการกระทำนั้น

4. คนเราควรรับผิดชอบในครอบครัวของตน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสังคม เช่นลูกขาดพ่อแม่

5. การพึ่งตัวเองเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติก่อนที่จะพึ่งพาอาศัยผู้อื่น

6. การที่ทำความผิดแล้วสำนึกในความผิด สมควรได้รับการให้อภัย

ศัพท์น่ารู้

เกล้าผม คำแทนตัวผู้พูดเพศชาย เมื่อใช้พูดกับผู้ใหญ่ด้วยความเคารพมาก ปัจจุบัน

ใช้คำว่า เกล้ากระผม

ขยาย เปิดเผย

ขอบพระเดชพระคุณ ขอบคุณ ใช้พูดกับผู้อาวุโสหรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

ชั่ง มาตราเงินสมัยโบราณ หนึ่งชั่งมีจำนวนเท่ากับ ๘๐ บาท

ช่างพูด มีคารมคมคาย

ฉาย ถ่ายภาพ

ตกรก คือคำว่า ตกนรก

ปอน ซอมซ่อ อัตคัด ขัดสน

ปั้นหนึ่ง ปึกหนึ่ง

ระหาย กระหาย

เสมียญบาญชี พนักงานบัญชี ปัจจุบันใช้ เสมียนบัญชี