การนำเศษวัสดุมาทำวัสดุหรือผลิตภัณฑ์อัพไซเคิล ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้

1.1 สัดส่วนเศษวัสดุ ต้องมีสัดส่วนเศษวัสดุต่อชิ้นงาน อย่างน้อยร้อยละ 25 โดยน้ำหนักของวัสดุหรือผลิตภัณฑ์อัพไซเคิล

1.2 แหล่งที่มาของเศษวัสดุ ต้องสามารถระบุแหล่งที่มาของเศษวัสดุได้

• เศษวัสดุจากภาคการบริโภค วัสดุที่เหลือจากการบริโภค หรือเศษวัสดุชุมชนซึ่งยากต่อการรวบรวมเพื่อนำกลับมาใช้ เช่น ถุงพลาสติก ถุงนม ซองกาแฟ หลอด และยังรวมถึงเศษวัสดุจากการก่อสร้างอาคารอีกด้วย

• เศษวัสดุจากภาคการผลิตและบริการ วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร วัสดุที่ไม่ใช้แล้ว หรือเหลือจากการผลิตหรือสินค้าคงคลัง

• เศษวัสดุจากการใช้งานชั่วคราว วัสดุที่เหลือจากจากงานโฆษณาหรือแสดงสินค้าซึ่งเหลือทิ้งจากการใช้งานชั่วคราว เช่น พรม กระดาษ และแผ่นโฆษณา

1.3 การจัดเตรียมเศษวัสดุ หากมีการจัดเตรียมเศษวัสดุก่อนนำมาใช้งาน ต้องเลือกใช้วิธีการจัดเตรียมเศษวัสดุที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและก๊าซเรือนกระจก โดยคำนึงถึงประเด็นต่อไปนี้

• 1.3.1 ด้านสิ่งแวดล้อม มีมาตรการประหยัดพลังงาน/แรงงานคน/พลังงานธรรมชาติ/ทดแทน ในการจัดเตรียมเศษวัสดุ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แสดง Flow Chart Production เช่นระบุข้อมูล ชี้ให้เห็นถึง การจัดการน้ำเสียในกระบวนการจัดเตรียมวัสดุเป็นต้น

• 1.3.2 ด้านสังคม มีมาตรการการจัดการความปลอดภัย ไม่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายและถูกสุขอนามัยต่อผู้ทำงานในการจัดเตรียมเศษวัสดุ

• 1.3.3 ด้านเศรษฐกิจ มาตรการจ้างงานและการกระจายรายได้ในการจัดเตรียมเศษวัสดุ ชี้ให้เห็นถึงการจัดเตรียมเศษวัสดุเป็นส่วนหนึ่งในการจ้างงานหรือกระจายรายได้ โดยมีการว่าจ้างผู้สูงอายุ/คนพิการ/ผู้พ้นจากการถูกคุมขัง/ผู้ด้อยโอกาส หรือ แรงงานในชุมชน ให้โอกาสนักเรียนนักศึกษาเข้าศึกษาดูงาน

กระบวนการผลิตวัสดุหรือผลิตภัณฑ์อัพไซเคิล ต้องเลือกใช้เทคโนโลยีและกระบวนการที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ ดังต่อไปนี้

2.1 ด้านสิ่งแวดล้อม 

• 2.1.1 มาตรการจัดการการผลิตคำนึงผลกระทบสิ่งแวดล้อม มีมาตรการการจัดการสารเคมี พลังงาน มลพิษ และของเสีย ที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต 

• 2.1.2 มาตรการคัดแยกวัสดุ หรือมีพื้นที่จัดเก็บเศษวัสดุ 

2.2 ด้านสังคม 

• 2.2.1 มาตรการความปลอดภัยในการทำงาน โดยมีมาตรการการจัดการความปลอดภัย ในสถานที่ทำงาน ไม่มีกลิ่นสารเคมีหรือกลิ่นเหม็นรบกวนที่มีผลกระทบต่อผู้ปฏิบัติงาน และสร้างความเดือดร้อนรําคาญต่อชุมชนใกล้เคียง, มีที่รองรับขยะมูลฝอยเพียงพอ มีฝาปิดมิดชิด และแยกขยะมูลฝอยอันตรายออกจากมูลฝอยทั่วไป, มีการจัดการมูลฝอยอย่างเหมาะสมไม่ก่อให้เกิด ผลกระทบต่อผู้ปฏิบัติงานและสร้างความเดือดร้อน รําคาญต่อชุมชนใกล้เคียง เป็นต้น 

• 2.2.2 มาตรการพัฒนาบุคลากรด้านวัสดุหรือการออกแบบ โดยการส่งพนักงานเข้าร่วมอบรม สัมมนา หรือดูงาน ระบุหลักฐาน เช่น ข้อมูลภาพถ่าย ชื่องานที่เข้าร่วมเรียน/อบรม/สัมมนา หัวข้องาน วันที่จัดงาน สถานที่จัดงาน

2.3 ด้านเศรษฐกิจ 

• 2.3.1 มาตรการจ้างงานและการกระจายรายได้ โดยมีการว่าจ้างผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้พ้นจากการถูกคุมขัง ผู้ด้อยโอกาส หรือ แรงงานในชุมชน ให้โอกาสนักเรียนนักศึกษาเข้าฝึกงาน 

วัสดุหรือผลิตภัณฑ์อัพไซเคิลต้องมีคุณภาพเทียบเท่าหรือดีกว่าเดิมและเหมาะสมต่อการใช้งาน

3.1 การทดสอบความเหมาะสมการใช้งาน มีการควบคุมคุณภาพเพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพของวัสดุและผลิตภัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้

3.2 การควบคุมคุณภาพ มีการควบคุมคุณภาพเพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพของวัสดุและผลิตภัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (หากมี) แสดงหลักฐานหรือข้อมูลในส่วนของคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เช่น อายุการใช้งาน ลักษณะการใช้งาน ภายนอกหรือภายในอาคาร ระดับการทนน้ำหรือความชื้น

วัสดุหรือผลิตภัณฑ์อัพไซเคิลต้องพัฒนาโดยใช้การออกแบบเชิงสร้างสรรค์ สร้างคุณลักษณะที่แปลกใหม่ เพื่อนำเสนอจุดเด่นของวัสดุและผลิตภัณฑ์ด้วยการออกแบบที่เพิ่มคุณค่า หรือมีคุณค่า

4.1 เผยแพร่ต่อสื่อสาธารณะด้านการออกแบบในสื่อสิ่งพิมพ์ 

4.2 เผยแพร่ต่อสื่อสาธารณะในรายการโทรทัศน์ หรือจัดแสดงผ่านสื่อหรืองานแสดงที่มีกระบวนการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ 

4.3 ได้รับรางวัลด้านการออกแบบ

4.4 แปลกใหม่/สิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร ฯลฯ

การคำนวณค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่หลีกเลี่ยงได้จากปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกจากการกองขยะแบบตื้น รวมกับปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกจากการผลิตวัสดุใหม่ ของวัสดุหรือผลิตภัณฑ์อัพไซเคิล โดยสามารถวิเคราะห์โดยคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากการผลิตวัสดุหรือผลิตภัณฑ์อัพไซเคิลต้นแบบ จำนวน 1 ชิ้นงานเป็นอย่างน้อย