“ อินซูลินคืออะไร? ทำไมต้องฉีดอินซูลิน? ทำไมผู้ป่วยต้องฉีดอินซูลินด้วยตนเองที่บ้าน? ” คำถามเหล่านี้มีวนมาให้ได้สงสัยกันตลอด ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักกับอินซูลินไปด้วยกันพร้อมกับวิธีการฉีดอินซูลิน
“อินซูลิน” คือ ฮอร์โมนในร่างกายเราที่ถูกสร้างมาจากเบต้าเซลล์ (beta cell) ของตับอ่อน บทบาทหน้าที่สำคัญคือ การช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ในภาวะปกติที่ร่างกายมีความสมดุล และฮอร์โมนอินซูลินมีการทำงานที่เป็นปกติ เวลาเรารับประทานอาหารร่างกายจะมีการย่อยอาหาร ได้เป็นน้ำตาล อินซูลินก็จะเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นไกลโคเจนเเละไขมันไตรกลีเซอไรด์เก็บสะสมไว้ที่เซลล์ตับ กล้ามเนื้อ และเซลล์ไขมัน แต่จะมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่มีฮอร์โมนอินซูลินทำงานผิดปกติ เช่น ผลิตออกมาได้น้อย หรืออินซูลินทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น กลุ่มคนเหล่านี้ก็จะมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าคนทั่วไป จนนำไปสู่โรคเบาหวานในที่สุด
ผู้เป็นเบาหวานที่จำเป็นต้องใช้อินซูลินในการรักษา ได้แก่
1. ผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1
2. ผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ไม่สามารถควบคุมเบาหวานได้ด้วยยารับประทานร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลัง หรือเป็นโรคตับหรือโรคไต
3. ผู้ที่มีภาวะเจ็บป่วยรุนแรง เช่น การติดเชื้อ หรืออยู่ระหว่างการผ่าตัด ผู้เป็นเบาหวานในระยะตั้งครรภ์ และผู้เป็นเบาหวานที่เกิดจากโรคของตับอ่อน เช่น
ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง
ตำแหน่งการฉีดอินซูลิน
การฉีดอินซูลินนั้นสามารถฉีดเข้าใต้ผิวหนังตามบริเวณตำแหน่งต่างๆ คือ หน้าท้อง ต้นแขน หน้าขา และสะโพก โดยตำแหน่งที่ดีที่สุด คือ หน้าท้อง เนื่องจากการดูดซึมของยาคงที่ แต่ควรฉีดห่างจากรอบสะดือ 1-2 นิ้ว และควรหมุนเวียนเปลี่ยนจุดที่ฉีด ไม่ควรฉีดซ้ำตำแหน่งเดิมทุกวัน และตำแหน่งที่ฉีดใหม่ควรมีระยะห่างจากครั้งหลังสุดประมาณ 1 นิ้ว รวมทั้งไม่ควรนวด หรือประคบน้ำร้อนบริเวณที่ฉีดยา เพราะทำให้ยาถูกดูดซึมเร็วขึ้น ทำให้มีโอกาสเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ง่าย ข้อควรระวังคือ ไม่ควรใช้เข็มฉีดยาร่วมกันกับคนอื่น เพราะอาจทำให้ติดเชื้อโรคจากผู้อื่นได้ และหากมีผิวหนังบริเวณที่ฉีดผิดปกติ นูน บุ๋ม หนา หรือมีอาการน้ำตาลต่ำในเลือด ควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา
การเตรียมและการฉีดอินซูลิน
การเตรียมและฉีดอินซูลินโดยใช้กระบอกฉีดอินซูลินและปากกาอินซูลิน สำหรับปากกาอินซูลินที่มีขายในท้องตลาด มีทั้งชนิดที่มีหลอดยาบรรจุสำเร็จรูปและชนิดที่ต้องบรรจุหลอดยาเอง
การเตรียมอินซูลินชนิดเดียวโดยใช้กระบอกฉีดอินซูลิน
กรณีที่เป็นอินซูลินชนิดน้ำขุ่น
1. ผสมยาให้เป็นเนื้อเดียวกัน โดยคลึงขวดยาบนฝ่ามือไปมา 10 ครั้ง
2. ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดบริเวณจุกยางของขวดอินซูลิน
3. ใช้กระบอกฉีดอินซูลินดูดอากาศเท่ากับจำนวนอินซูลินที่ต้องการฉีด
4. ฉีดอากาศเข้าไปในขวดยา ดูดยาออกมาช้าๆ เท่ากับปริมาณอากาศที่ใส่เข้าไป ดูตัวเลขที่ข้างกระบอกฉีดยาให้มีปริมาณยาตรงตามต้องการ แล้วถอนเข็มออก
การเตรียมอินซูลินชนิดเดียวโดยใช้ปากกาอินซูลิน
การใช้ปากกาอินซูลินที่ถอดประกอบได้ในปัจจุบันมีหลายบริษัท โปรดศึกษาวิธีการใช้ปากกาจากบุคลากรทางการแพทย์
1. ดึงปลอกปากกาออก ปลดกระบอกบรรจุยาออกจากด้ามปากกาเพื่อใส่หรือเปลี่ยนหลอดยา
2. ใส่กระบอกลงไปในหลอดบรรจุยา ประกอบส่วนของกระบอกบรรจุยาเข้ากับตัวปากกา
3. ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดบริเวณจุกยางของหลอดอินซูลิน
วิธีประกอบหัวเข็ม
ฉีกกระดาษปิดหัวเข็มออก นำเข็มมากดลงบนจุกยางของหลอดยา แล้วหมุนเกลียวให้แน่น
ขั้นตอนการฉีดยา
1. กรณีที่เป็นอินซูลินชนิดน้ำขุ่นให้คลึงยาจนเป็นเนื้อเดียวกัน โดยคลึงปากกาบนฝ่ามือไปมา 10 ครั้ง
2. ในกรณีที่นำยาออกจากตู้เย็น ควรคลึงบนฝ่ามือจนความเย็นลดลงใกล้เคียงอุณหภูมิปกติก่อนนำไปใช้ แกว่งปากกาขึ้นลง 10 ครั้ง ห้ามเขย่า
3. การทดสอบเข็มและไล่ฟองอากาศ ปลดล็อคปุ่มปรับขนาดยา โดยดึงปุ่มที่ก้นปากกาออกจนมีเสียงดังคลิ๊ก (ปากกาบางชนิดไม่ต้องปลดล็อค)
4. หมุนวงแหวนเพื่อปรับขนาดอินซูลินไปที่เลข 2 ถอดปลอกเข็มด้านนอกและในออก
5. จับด้ามปากกาให้ตั้งตรง ปลายเข็มชี้ขึ้นด้านบน แล้วกดปุ่มฉีดจนสุดที่เลขศูนย์ จะมีเสียงดังคลิ๊ก
6. หากไม่มีหยดอินซูลินออกจากปลายเข็มให้ทำซ้ำจนกว่าจะพบหยดอินซูลินออกมาจากปลายเข็ม
7. อาบตำแหน่งที่จะฉีดอินซูลินด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์หมาดๆ รอให้แห้ง
8. ใช้มือข้างที่ถนัดกำปากกาด้วยนิ้วทั้งสี่ โดยให้นิ้วหัวแม่มืออยู่ตำแหน่งปุ่มกดยา หรือกดสไลด์ด้านข้าง ซึ่งขึ้นกับชนิดของปากกา
9. ยกผิวหนังขึ้นเล็กน้อย หรือดึงผิวหนังให้ตึง ขึ้นอยู่กับความยาวของเข็ม และลักษณะของผู้ป่วยอ้วนหรือผอม
10. แทงเข็มตั้งฉากเข้าใต้ผิวหนังจนมิดเข็ม กดปุ่มฉีดยาจนสุด ตัวเลขจะกลับมาที่ศูนย์ กดค้างไว้ ให้นับ 1-10
11. ถอนเข็มฉีดออกจากผิวหนังแล้วจึงปล่อยมือที่ดึงหรือยกผิวหนังไว้
12. เช็ดทำความสะอาดผิวหนังหลังฉีด
13. สวมปลอกเข็มกลับอย่างระมัดระวัง ปิดปลอกปากกาเก็บไว้ในกระเป๋าหรือกล่องเก็บปากกาที่ได้มาพร้อมปากกา
การเก็บยาฉีดอินซูลิน
· หากเปิดใช้แล้ว : เก็บอุณหภูมิไม่เกิน 25-30 องศาเซลเซียส เก็บได้ไม่เกิน 28 วันหลังจากเปิดใช้ยา
· หากยังไม่เปิดใช้ : เก็บไว้ในตู้เย็น (ห้ามเก็บในช่องแข็ง) มีอายุการใช้งานตามวันหมดอายุบนฉลากยา
ผลข้างเคียงของอินซูลิน
· น้ำหนักเพิ่ม
· น้ำตาลในเลือดต่ำ
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำคือ น้ำตาลน้อยกว่า 70 มก./ดล. จะมีอาการ ได้แก่ ใจสั่น หน้ามืด จะเป็นลม หิว เหงื่อแตก หากน้ำตาลในเลือดต่ำมาก อาจหมดสติหรือชักได้ จึงต้องให้รีบแก้ไขเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลต่ำลงกว่าเดิม
วิธีแก้ไขภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
กรณีรู้สึกตัว
ให้รับประทานคาร์โบไฮเดรตที่ดูดซึมได้ไว ปริมาณ 15-20 กรัม (สามารถทราบได้จากฉลาก) ได้แก่ น้ำตาลทราย หรือน้ำผึ้ง 3 ช้อนชา ลูกอมแบบมีน้ำตาลประมาณ 3 เม็ด น้ำอัดลมครึ่งแก้ว น้ำผลไม้ 120 ซีซี (4 ออนซ์) หรือน้ำหวาน 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ เมื่ออาการดีขึ้นแล้วให้รับประทานอาหาร เช่น ข้าว ขนมปัง หรือผลไม้ เป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาลต่ำซ้ำ
กรณีไม่รู้สึกตัว
ห้ามกรอกน้ำหวาน เพราะจะทำให้สำลักได้ ให้ใช้น้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายป้ายใต้ลิ้นและกระพุ้งแก้มทั้ง 2 ข้าง แล้วรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยด่วน
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์เบาหวานธรรมศาสตร์ โทร. 0 2926 9033
ที่มา: การเตรียมและการฉีดอินซูลิน โดย สมาคมโรคเบาหวานฯ https://youtu.be/2fRfjb5DFN8