โดยปกติแล้วร่างกายของเรามีการสร้างความร้อนตลอดเวลาอยู่แล้ว มีส่วนหนึ่งของร่างกายที่เราจะได้รับความร้อนมาจากภายนอก แต่ร่างกายของเราก็จะพยายามกำจัดความร้อนออกไปจากร่างกาย ยกเว้นกรณีที่ร่างกายมีความร้อนมากเกินไป ทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นจนทำให้เกิดความผิดปกติกับส่วนต่างๆ ของร่างกาย ในบางคนอาจจะมีอาการเล็กน้อย จนถึงบางคนอาจมีอาการหนักมาก ที่เราเรียกว่าโรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก
ลักษณะอาการ
ในคนที่เป็นอย่างรุนแรง คนกลุ่มนี้มีอันตรายถึงชีวิต เพราะจะทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายสูญเสียการทำงาน จนถึงระบบประสาททำงานไม่ได้ ผู้ป่วยที่มาถึงโรงพยาบาลจะมีอาการค่อนข้างรุนแรง ส่วนหนึ่งก็จะมีการเสียชีวิตได้ ผู้ป่วยอาจจะมีอาการตั้งแต่เล็กน้อยก่อน เช่น มีอาการปวดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ อาเจียน จนถึงหมดสติ ผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการของโรคลมร้อนมักจะพบว่ามีอาการทางระบบประสาทบางอย่าง เช่น เดินเซ ชักเกร็ง หมดสติ ร่วมกับอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้น
การประเมินอาการและการช่วยเหลือเบื้องต้น
ในผู้ป่วยที่สงสัย เช่น คนออกกำลังกายอยู่ดีๆ เดินเซ หมดสติ สิ่งแรกที่จะทำคือ ประเมินก่อนว่าหัวใจยังเต้นอยู่หรือไม่ ให้ลองปลุกก่อน สังเกตการหายใจ ถ้าเขาไม่หายใจหรือไม่รู้สึกตัว ให้ประเมินว่าอาจจะมีภาวะหัวใจหยุดเต้น ต้องขอความช่วยเหลือโดยด่วน โดยโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน โทร.1669 เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะมีอาการรู้สึกตัวลดลง การรักษาต้องรีบนำผู้ป่วยมาโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด หลังจากโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือแล้วให้รีบพาผู้ป่วยไปในที่ร่มและระบายอากาศได้ดี ปลดเสื้อผ้าที่หนาๆ ออกไปจากร่างกาย พรมน้ำ เปิดพัดลมเป่าให้อุณหภูมิร่างกายของผู้ป่วยลดลงระหว่างที่เรารอรถพยาบาลมาถึงที่เกิดเหตุเพื่อนำผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลต่อไป
ใครที่มีความเสี่ยง
ส่วนใหญ่ในเด็กหรือผู้สูงอายุมักจะเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคลมร้อน เพราะในเด็กหรือผู้สูงอายุการสร้างเหงื่อจะน้อยกว่ากลุ่มอายุอื่น ดังนั้นการกำจัดความร้อนออกจากร่างกายอาจไม่ดีพอ หรือผู้สูงอายุอาจมีโรคบางอย่าง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคที่ต้องรับประทานยาบางอย่างที่อาจจะทำให้การขับความร้อนของร่างกายน้อยลง เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาขับปัสสาวะ การที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นอาจทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจขาดเลือด หรือหัวใจล้มเหลวตามมา
การป้องกัน
สำหรับคนทั่วไปป้องกันได้ด้วยการหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งแดดแรงเป็นเวลานาน หากรู้สึกร้อนให้หาที่ร่มหลบแดด มีการชดเชยการสูญเสียน้ำของร่างกายด้วยการดื่มน้ำ หรือการอาบน้ำเพื่อลดความร้อนออกจากร่างกาย หรือใครที่ชอบการออกกำลังกายต้องชดเชยน้ำระหว่างออกกำลังกาย เนื่องจากการออกกำลังกายมักจะทำให้ร่างกายเสียเหงื่อ ซึ่งในเหงื่อมีทั้งน้ำและเกลือ แต่หากเราดื่มน้ำอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ซึ่งการขาดเกลือแร่ก็อาจเป็นสาเหตุของการเกิดฮีทสโตรกได้ ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำเกลือแร่ในขณะออกกำลังกายด้วย หากไม่แน่ใจว่าควรดื่มน้ำเกลือแร่ชดเชยให้กับร่างกายเท่าไหร่ ให้ใช้วิธีการชั่งน้ำหนักก่อนและหลังออกกำลังกาย น้ำหนักที่หายไปคือปริมาณน้ำที่ควรดื่มชดเชย ในกลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือความดันโลหิตสูงหากต้องการออกกำลังกายอาจต้องปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย