จากยุคเริ่มแรกที่มีการส่งผ่านข้อมูลผ่านเว็บ ด้วยข้อความ ต่อมามีการนำภาพเข้าไปร่วมในหน้าเอกสารเว็บ และการเป็นรูปแบบพื้นฐานมาจนถึงปัจจุบัน เมื่อพัฒนาการของเว็บมีการพัฒนามากขึ้นจึงมีการนำเอามัลติมีเดียในรูปแบบอื่นๆ เข้าไปผสมผสานในหน้าเว็บ ซึ่งในที่นี้ แยกเป็นประเภทใหญ่ๆได้ 3 ประเภท คือ
1.วิดีทัศน์
2.เสียง
3.อินโฟกราฟิก หรือ สื่อเรียนรู้เฉพาะเรื่อง(สั้นๆ)
วิดีทัศน์ หรือไฟล์วิดีโอ เป็นมัลติมีเดียสำคัญในเว็บยุคปัจจุบัน ไฟล์วิดีทัศน์ที่นำเสนอทางหน้าเอกสารเว็บสามารถนำเข้ามาได้ จาก 2 เส้นทางหลักๆ คือ จาก Google Drive และจาก YouTube (ซึ่ง YouTube นี้ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของ Google เช่นกัน) การนำวิดีทัศน์จาก YouTube มาใช้ โดยใช้กระบวนการ Insert ของ Web application ซึ่งวิดีทัศน์นี้อาจมาจาก ผู้เผยแพร่รายอื่นๆ หรือจากช่องของชุมชนเองก็ได้
เสียง เป็นอีกสื่อมัลติมีเดียรูปแบบหนึ่ง ที่นำมาใช้ในหน้าเอกสารเว็บ โดยไฟล์เสียงที่ใช้ในยุคแรก เป็นไฟล์นามสุกล midi และ wav ต่อมา ระบบเว็บได้มีการพัฒนารองรับไฟล์สกุล mp3 ที่มีขนาดเล็กลง แต่ยังคงคุณภาพ ความคมชัดของเสียง ซึ่ง mp3 นี้ได้นำมาเป็นอีกมาตรฐานหนึ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ไฟล์เสียงเหล่านี้ จะต้องถูกจัดเก็บบน Google Drive แล้วเชื่อมต่อลงมาแสดงในหน้าเอกสารเว็บอีกขั้นตอนหนึ่ง
Infographic(s) เป็นกระบวนการหรือวิธีการที่จะนำเสนอข้อมูลต่างๆ ที่มีความหลากหลาย ซับซ้อนให้สามารถสื่อสารถึงผู้ชมได้โดยง่ายและตรงกันผ่านภาพ เพราะธรรมชาติของคนส่วนใหญ่ชอบดูภาพมากกว่าอ่านตัวหนังสือ ประการสำคัญภาพสามารถ สื่อสารหรืออธิบายเรื่องราวได้ดีกว่าข้อความ นอกจากนี้แผนภาพที่สร้างขึ้นยังมีพลังที่สร้างความน่าเชื่อถือแก่ผู้นำเสนอหรือองค์กรที่ใช้ Infographics นี้ด้วย
การเลือกใช้มัลติมีเดียต่างๆ ถือเป็นอีกส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้ เว็บข้อมูลความรู้ชุมชน(ประชาชน) มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น ซึ่ง มัลติมีเดียบางประเภท ต้องอาศัยความชำนาญและเวลาในการสร้าง เพื่อนำมาประกอบลงในหน้าเว็บ