โรงเรียนมาตรฐานสากล ของกระทรวงศึกษาธิการ มาจากโครงการโรงเรียนดี 3 ระดับ (ระดับสากล ระดับอำเภอ และระดับตำบล) โรงเรียนมาตรฐานสากล (World - Class Standard School) คือ โรงเรียนที่เกิดจากนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ยุคนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์) ที่ต้องการยกระดับโรงเรียนชั้นนำ จำนวน 500 แห่งทั่วประเทศ ที่มีความพร้อมอยู่แล้ว ให้เป็นโรงเรียนดีมีมาตรฐานสากล โรงเรียนมาตรฐานสากล จะต้องมีหลักสูตรเด่นที่เน้นมาตรฐาน ซึ่งหลักสูตรนั้นต้องประกอบด้วย 8 สาระการเรียนรู้ ผนวกกับความเป็นสากลที่ประกอบด้วย ทฤษฎีองค์ความรู้ ชักนำเด็กสู่การคิดโครงงาน และสามารถเสนอผลงานได้อย่างชัดเจน นอกจากนั้น ต้องอยู่ภายใต้การบริหารที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ที่มีองค์ประกอบสำคัญ คือ มีผู้นำล้ำเลิศความคิด ครอบคลุมภาระกิจทุกด้าน ปัจจัยพื้นฐานครบถ้วน สามารถสร้างเครือข่ายร่วมพัฒนา ซึ่งหากผู้เรียนได้ผ่านเข้าสู่ระบบของโรงเรียนมาตรฐานสากล 2 ประการแล้ว ผลที่ได้ คือ ผู้เรียนจะมีศักยภาพเป็นพลโลก (World Citizen) ที่อยู่ภายใต้บริบท ยอดเยี่ยมวิชาการ สื่อสารอย่างน้อย 2 ภาษา ล้ำหน้าทางความคิดผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ ไม่เพียงเท่านั้น การกล่อมเกลาผู้เรียนที่จะต้องมีศักยภาพเป็นพลโลกจะต้องพร้อมใจกันร่วมอนุรักษ์โลก เนื่องจากความเป็นสากลที่ถูกปลูกฝังอยู่ในหัวใจของผู้เรียนอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อวางแนวทางการดำเนินงานโรงเรียน ผนวกกับภาพความสำเร็จของผลผลิตซึ่งคือผู้เรียนที่มีคุณภาพจนเป็นที่ยอมรับในระดับสากลแล้ว จึงได้มีการวางเป้าหมายการพัฒนาและยกระดับโรงเรียนมาตรฐานสากลที่จะต้องพัฒนาโรงเรียนในปี 2553 ให้ได้ 200 แห่ง ปี 2554 จำนวน 200 แห่ง และปี 2555 จำนวน 100 แห่ง เพื่อให้ครบ 500 แห่ง ภายใน 3 ปี
สิ่งที่ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเร่งดำเนินการใน 5 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาหลักสูตร ที่ในปีการศึกษา 2553 จะมีการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา จำนวน 500 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตร English Program (EP), Mini English Program (MEP), International English Program (IEP) หรือ International Baccalaureate (IB) หลักสูตรความเป็นเลิศเฉพาะทาง อาทิ วิทย์-คณิต ภาษา อาชีพ ดนตรี กีฬา ฯลฯ ให้มีความเข้มข้นเทียบเคียงมาตรฐานสากล เรียกได้ว่า หากผู้เรียนมีความประสงค์จะศึกษาต่อในประเทศใด ก็สามารถเข้าศึกษาต่อได้ทันที
การพัฒนาการสอนสาระการเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์โดยใช้ภาษาอังกฤษ (สำหรับโรงเรียนไม่ใช้สูตร EP/IEP/MEP) จำนวน 325 แห่ง พัฒนาครูผู้สอน ทั้งในสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศที่ 2 (จีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และอื่น ๆ) จาก 234 แห่ง รวม 1,200 คน และสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์เพื่อใช้ภาษาอังกฤษในการจัดการเรียนการสอน จำนวน 325 แห่ง รวม 4,125 คน พัฒนาผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 500 แห่ง และพัฒนาระบบการบริหารโรงเรียนทุกแห่ง เพื่อให้โรงเรียนทั้ง 500 แห่ง เป็นสถานศึกษาที่เป็นโรงเรียนมาตรฐานสากลอย่างเต็มระบบ โดยแบ่งเป็นโรงเรียนมาตรฐานสากลระดับมัธยมศึกษา จำนวน 381 โรงเรียน และโรงเรียนประถมศึกษา จำนวน119 โรงเรียน
ประเด็นที่น่าสนใจ คือ การจัดการเรียนการสอนในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษ ทั้งในระดับประถมศึกษาที่เริ่มตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และในระดับมัธยมศึกษา ทั้งนี้เพราะสภาพปัจจุบันผลสัมฤทธิ์ในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ยังอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง การจัดบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษเพื่อสอนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ยังหาได้ยากโดยเฉพาะครูต่างชาติ รวมถึงผลการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ดังนั้นในโรงเรียนระดับประถมศึกษาสำหรับโรงเรียนที่ไม่ได้เปิดโปรแกรม MEP EP หรือ IEP น่าจะพบปัญหาอย่างแน่นอน ควรต้องมีการณ์เตรียมการณ์วางแผนบุคลากรให้พร้อมเพรียง และรัฐต้องทุ่มงบสนับสนุนให้เพียงพอเพื่อสนองนโยบายเรียนฟรี 15 ปี โดยไม่เป็นภาระผู้ปกครอง
สิ่งที่ควรตระหนักอีกประการ จากการติดตามข่าวหนังสือพิมพ์จะพบว่าการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ด้วยภาษาอังกฤษในมาเลเซียที่จัดทั้งประเทศ ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร การจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ด้วยภาษาอังกฤษ จึงควรใช้ในโรงเรียนที่มีความพร้อมก่อน เช่น โรงเรียนประจำจังหวัด โรงเรียนยอดนิยมที่มีความพร้อมด้านบุคลากรและงบประมาณ(โดยไม่ต้องเก็บเพิ่ม) นอกจากนี้ยังมีคำถามคาใจว่าถ้าเด็กไม่เก่งภาษาอังกฤษจะทำอย่างไร ทางออกที่ดีจึงควรจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ด้วยภาษาอังกฤษเพียงบางห้องเรียน
นอกจากนี้ยังมีรายวิชาที่ต้องเปิดเพิ่มเติมหรือบูรณาการกับวิชาอื่น เช่น ความเรียงขั้นสูง วิชาการสร้างองค์ความรู้ หรือ วิชาทฤษฎีความรู้Theory of knowledge (TOK) โครงงานเพื่อจิตสาธารณะ และวิชาพลโลก
ในปีการศึกษา 2555 ได้มีการปรับปรุง/พัฒนาหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล เพิ่มสาระความเป็นสากลโดยกำหนดบูรณาการ การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study : IS) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 3 อาจจัดเป็นหน่วยการเรียนรู้เฉพาะและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์) ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ให้ครอบคลุม IS 1 : Research and Knowledge Formation และ IS 2 : Communication and Presentation และเปิดรายวิชาเพิ่มเติม 1 รายวิชา (40 ชั่วโมง/สัปดาห์) ใช้ชื่อรายวิชาการค้นคว้าเพื่อการเรียนรู้ (Knowledge Inquiry) อาจจัดไว้ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาค้นคว้าเพื่อเรียนรู้(Knowledge Inquiry) กระบวนการเรียนรู้ครอบคลุม IS 1 : Research and Knowledge Formation การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ IS 2 : Communication and Presentation การสื่อสารและการนำเสนอ และ IS 3 : Social Service Activity การนำความรู้ไปใช้บริการสังคม และภาษาอังกฤษฟัง-พูด (English Listening – Speaking) ผสานกับการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษโดยครูไทยควบคู่กับครู Native Speaker และจัดกิจกรรมอื่นตามเป้าหมายของกรอบหลักสูตร
รายวิชาค้นคว้าเพื่อเรียนรู้(Knowledge Inquiry) แสวงหาความรู้ การตั้งประเด็นคำถาม สมมุติฐาน วางแผนดำเนินงาน ศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งต่างๆ สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า เขียนรายงาน เอกสารวิชาการนำเสนอผลจากการศึกษาค้นคว้า โดยสื่อรูปแบบต่างๆ โดยอาจจัด ดังนี้
IS 1 ร่องรอยหลักฐานการการศึกษาค้นคว้า แสวงหาความรู้ การตั้งประเด็นคำถาม สมมุติฐาน วางแผนดำเนินงาน ศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งต่างๆ สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า
IS 2 ผลงานเชิงคุณภาพ 1 ชิ้น ลักษณะเป็นการนำเสนอเอกสารรายงานผลจากการศึกษาค้นคว้า เชิงวิชาการตามความสามารถและเหมาะสมกับวัยเด็ก โดยใช้สื่อรูปแบบต่างๆ
ประถมศึกษา: รายงานที่มีลักษณะเป็นงานเขียนความเรียง ประกอบผลงานง่ายๆ ที่มีบรรณานุกรม (ตามรูปแบบที่เรียนในกลุ่มสาระภาษาไทย)
มัธยมศึกษาตอนต้น: รายงานเชิงวิชาการ(รายงาน 5 บท ที่ครูคอยแนะนำ ชี้แนะ) (ตามรูปแบบที่เรียนในกลุ่มสาระภาษาไทย)
มัธยมศึกษาตอนปลาย: รายงานเชิงวิชาการ(รายงาน 5 บทที่แสดงถึงการสร้างองค์ความรู้ด้วยตัวเอง การใช้กระบวนการกลุ่ม) ที่มีการอ้างอิง มีบรรณานุกรม (ตามรูปแบบที่เรียนในกลุ่มสาระภาษาไทย)
IS 3 ผลการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ (อาจเป็นรูปเล่มรายงานประกอบนิทรรศการ หรือการประเมินระหว่างการปฏิบัติงานแล้วประมวลภาพมาแลกเปลี่ยนกับเพื่อนในห้อง)
IS1 - TOK : ทฤษฎีความรู้ (ขั้นตั้งคำถาม สมมุติฐาน)
GE : โลกศึกษา (ขั้นสืบค้นความรู้)
IS2 - EE: ความเรียงขั้นสูง (ขั้นสรุปองค์ความรู้)
IS3 - CAS : กิจกรรมสร้างสรรค์ (ขั้นสื่อสาร และขั้นนำเสนอ-บริการสังคม)
City Edu/April 10/โรงเรียนมาตรฐานสากล (World-Class Standard School)
ธนสาร บัลลังก์ปัทมา
พิมพ์ครั้งแรก นิตยสารจุลทัศน์ ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 เดือนเมษายน 2553