ระดับหนึ่ง หากเคสเขียว คือ อาการน้อย หรือไอนิดหน่อย เจ็บคอ ไข้ แต่ยังกินได้ ไม่เหนื่อยไม่แน่นหน้าอก
1) ลงข้อมูลในเว็บ: https://www.thai.care/
2) และ โทร 1330 กด 14 หรือ ติดต่อ รพ แถวบ้าน เพื่อคุยกับหมอ และประเมินอาการ และรับคำแนะนำ การดูแล ปฎิบัติตัวที่บ้าน การแยกตัวป้องกันการแพร่ระบาด การใช้ยารักษาตามอาการ
ระดับสอง อาการสีเหลืองหรือส้ม เช่น แน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวกขณะทำกิจกรรม หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก เวลาไอแล้วเหนื่อย อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ ปอดอักเสบ, ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน ร่วมกับอาการหน้ามืด วิงเวียน หรือมีความเสี่ยง เช่น มีโรคเรื้อรัง ไตวาย ความดัน ไขมัน เส้นเลือดในสมอง โรคหัวใจ ผู้ป่วยติดเตียง
1. แจ้งมาที่หลังไมคในเพจ Drama-Addict
2. และ ลงข้อมูลในเว็บ https://www.thai.care/
ระดับสาม อาการสีแดง อาการสีแดง คือ ผู้ป่วยโควิดอาการหนัก
- หอบเหนื่อย พูดไม่เป็นประโยคขณะสนทนา
- แน่นหน้าอกตลอดเวลา หายใจแล้วเจ็บหน้าอก
- ซึม เรียกไม่รู้สึกตัว หรือตอบสนองช้า
- ปอดบวมที่มี hypoxic (risting O2 saturation <96%) หรือมีภาวะลดลงของออกซิเจน SpO2 มากกว่าหรือเท่ากับ 3% ของค่าที่วัดได้ครั้งแรกขณะออกแรง หรือภาพรังสีทรวงอกมี progression ของ pulmonary infiltrates
โทร 1669 และติดต่อไปยังหน่วยงานภาคประชาชน เช่น เราต้องรอด
ถ้าเป็นสีเขียว รักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน (home Isolation) ได้เลย
ถ้าเป็นสีเหลือง และ สีแดง แนะนำเข้าโรงพยาบาล
แต่ระหว่างรอเตียง เราทำการรักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน (home Isolation) ไปพลางๆ ได้เลย
แบบฟอร์ม สปสช แบบฟอร์มกรอกข้อมูลผู้ป่วย COVID-19 Home Isolation
การลงทะเบียน จดข้อมูลที่ควรเตรียม https://bit.ly/2T8zRVk
กรณีไม่เร่งด่วน (สีเขียว เพิ่งติด)
ลงทะเบียนเพื่อรอเตียง โทร 1668,1330,1669
ไลน์ @sabaideebot , @bkkcovid19connect, @iwillsurvive
ทางฟอร์มออนไลน์
https://bit.ly/3i1aDRe
กรณีเร่งด่วน (สีเหลือง สีแดง) ติดต่อเพิ่มไปอย่างกลุ่มเหล่านี้
https://www.facebook.com/taime.yingsutthiphan/posts/10222687975761593
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10159237598601138&set=p.10159237598601138&type=3
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=6517529894939995&id=100000491468200
ติดต่อ รพ. / หน่วยที่เราไปตรวจ เค้าเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการหาเตียงให้
ติดต่อนายหน้าของเราที่ทำประกันสุขภาพ หรือ โควิดไว้ (ถ้ามี)
ถ้าสะดวกเข้าเอกชน ติดต่อ รพ. ที่ท่านเคยเป็นลูกค้า
ติดต่อ สส. ในพื้นที่ของท่าน หรือ สส คนดัง
*อัพเดทล่าสุด จาก สปสช 15/7/2564 (จากเพจ หมอแล็บแพนด้า)
สีเขียว ลงทะเบียนที่ สปสช. 1330 ต่อ 14 (โทรได้ 24 ชม.) แล้ว ไม่ต้องหาเตียง ให้อยู่บ้าน ให้ home isolation และตอนกักตัวอยู่บ้านควรใส่แมสก์ตลอดเวลาด้วยนะครับ เมื่อเราโทรหาสปสช.เรียบร้อย เราจะได้รับอุปกรณ์และยาต่างๆ เช่น ฟ้าทะลายโจร เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ได้รับการแนะนำจากแพทย์ผ่านวิดิโอคอล หมอจะคอยดูตลอดถ้าเรามีอาการมากขึ้น เขาจะเร่งให้ยาฟาวิพิราเวียร์เลย ไม่ต้องกลัวว่าเชื้อจะลงปอด ถ้าอยู่ได้ครบ 14 วันก็จบ ถือว่าเราหายแล้ว
> ทีนี้ถ้าบ้านเรามันแคบ ก็ออกมาใช้บริการ community isolation แยกตัวเราออกมาจากบ้าน
สีเหลืองและสีแดง ทำตามขั้นตอนการลงทะเบียนแล้วเค้าจะหาเตียงให้ค่ะ
แยกห้องนอน ห้องน้ำ แยกกินข้าว ล้างจาน แยกขยะ กักตัวอยู่ในห้อง
ทำความสะอาด ถูพื้น ฆ่าเชื้อตามทุกจุดสัมผัส (เดทตอล 1 ฝา ต่อน้ำ 1 ขวด)
เข้ากรุ๊ปไลน์ มีคุณหมอ พยาบาลคอยแนะนำ ขออุปกรณ์ได้ สายด่วนสุขภาพ Covid-19 https://bit.ly/3ic4phD หรือถ้าเต็ม เข้าไปรอคิวที่นี่ https://bit.ly/2UIVwEa
ดูวิดีโออันนี้ก่อน https://bit.ly/3hIVCVr
เตรียมของในการทำ Home Isolation
เครื่องมือแพทย์ ได้แก่ ปรอท และ เครื่องวัดออกซิเจนที่นิ้ว (กนณีไม่รู้จัก คลิก https://bit.ly/3r6Aawz)
ยา (สามารถโหลด app “ร้านยากรุงเทพ”) กดคุยกับเภสัช จากนั้นเค้าจะส่งยามาให้ ไม่มีค่าปรึกษา แต่อาจจะมีค่าขนส่งเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับระยะทาง
วัด บันทึก เพื่อติดตามอาการของตัวเองดังนี้
วัดไข้ ด้วย ปรอท (วิธีใช้ https://bit.ly/2UFEhn4) ทุก 4 ชม.
ต่ำกว่า 37.5 โอเค ปลอดภัย ^_^
เท่ากับหรือสูงเกิน 37.5 ถือว่า มีไข้
วัดค่าอ็อกซิเจนแบบหนีบนิ้ว (วิธีใช้ https://bit.ly/3r6Aawz) ทุก 4 ชม. หรืออย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
95% ขึ้นไป ออกซิเจนในเลือดปกติดี
90 – 94% ให้ระมัดระวังอาการผิดปกติ
น้อยกว่า 90% มีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ ปอดอักเสบควรรีบไปพบแพทย์ทันที
วัดค่าอ็อกซิเจนแบบหนีบนิ้ว หลังออกกำลังกาย 3 นาที แล้ววัดอีกครั้ง (วิธีใช้ https://bit.ly/3r6Aawz) ทุกวัน หรือ อย่างน้อยทุก 3 วัน
ถ้าลดลงมากกว่า 3% ปอดอักเสบควรรีบไปพบแพทย์ทันที
รักษาตามอาการ (ถ้าสะดวกปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อน ถ้าไม่มีปรึกษาเภสัชในกลุ่มไลน์ หรือ ร้านขายยากรุงเทพ ถ้าไม่สามารถทั้งสอง ก็ใช้ตามนี้ เป็น ชุดยาที่ทางโอสถศาลาจัดให้บุคลากรจุฬาที่ home isolation >>> https://bit.ly/3B25i4D หรือ อันนี้รายการยาและอาหารที่รวบรวมเพิ่มและคิดว่าควรมีสำหรับ Home Isolation https://bit.ly/3xDBut6)
มีไข้ >>> ยาพาราเซตามอล (500 มก.) ครั้งละ 1 เม็ด ทุก 4-6 ชม., ทานน้ำประมาณ 2 ลิตรต่อวัน, เช็ดตัวลดไข้
มีน้ำมูก >>> ยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก (Cettec) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง
ไอ >>>ยากดอาการไอ (Icolid) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร
มีเสมหะ >>> ยาละลายเสมหะ (Mysoven200) ครั้งละ 1 ซอง วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร
ท้องอืด >>> ยาแคปซูลขมิ้นชันแก้ท้องอืด ครั้งละ 1-3 แคปซูล เมื่อมีอาการท้องอืด
อ่อนเพลีย/เหนื่อย >>> ผงเกลือแร่ ครั้งละ 1 ซอง เมื่อท้องเสีย หรืออ่อนเพลีย
ฆ่าเชื้อ >>> ยาฟ้าทะลายโจร (ขาวละออเภสัช 500มก) วันละ 3 เม็ด วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร **ขึ้นอยู่กับปริมาณสารออกฤทธิ์แต่ละยี่ห้อ ปรึกษาเภสัช หรือดูที่ https://bit.ly/36EhpqA
เสริมภูมิ >>> วิตามินซี (500 มก.) ทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าเย็น
ทำเหมือนสีเขียวเลย แต่เพิ่ม
ดูเรื่องการนอนและการหายใจ (แหล่งที่มา FB Chatchai Momo Phimphasak)
ท่านที่มีสติดี พอมีแรงฝึก ขอให้ทำตามข้อ 1.1 , 1.2 และ 1.3 ครับ
หากไม่มีแรงมากพอที่จะฝึกหายใจ จัดท่าทางตามข้อ 1.3 นะครับ
1.1 ฝึกหายใจลึกให้เต็มปอด ปอดจะได้ขยาย
ถุงลมของท่านบางถุงลมจะขยายง่ายลมเข้าไปเติมได้เร็ว ในขณะที่บางถุงลม ลมจะไหลเข้าช้า ดังนั้นเพื่อให้ถุงลมของท่านขยายตัวได้มากที่สุดขอให้ทำดังนี้ ปอดท่านจะได้ไม่แฟบ เมื่อมีลมเข้าได้มาก นั่นคือเราพาออกซิเจนเข้าไปได้มากเช่นกัน
* พยายามหายใจเข้าช้าๆลึกๆ ช้าๆลึกๆ จำไว้ว่า เน้นเข้าช้าๆลึกๆ นะครับ
* เน้นให้หายใจเข้าท้องป่อง ตามด้วยชายโครงด้านล่างกางออก แล้วจึงตามด้วยการยกอก
* หากรู้สึกว่าหายใจเข้าเต็มปอดแล้วอย่าเพิ่งหายใจออก
* ให้พยายามดึงลมเข้าต่อเนื่องอีกสัก 3- 5 วินาที ถ้าทำไหว ถ้าไม่ไหวเอาเท่าที่ทำได้นะครับ
* แล้วจึงหายใจออกสบายๆ
****ฝึกหายใจลึก 5-6 ครั้งต่อรอบ อย่างน้อย 2 รอบทุกๆชั่วโมงที่ท่านตื่น ทำได้ทุกท่า ไม่ว่าท่านจะยืน นั่ง หรือ นอน*****
1.2 หายใจออกแบบห่อริมฝีปาก หรือ เป่าลมผ่านหลอดดูดขนาดมาตรฐาน ช้าๆ การหายใจออกแบบมีแรงต้านในระดับที่เหมาะสม (ไม่มากเกินจนต้องพยายามเค้นลมหายใจออก) จะช่วยให้เกิดแรงดันบวกกลับเข้าไปในปอดของท่านถุงลมจะเปิดเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ช่วยส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดีขึ้น ทำแบบนี้นะครับ
* หายใจเข้าทางจมูกลึกขึ้นจากการหายใจปกติแต่ไม่ต้องลึกจนเต็มปอด
* หายใจออกผ่านปากโดยห่อริมฝีปากเป็นรู หรือ ทำปากจู๋ ช้าๆยาวๆ แต่ไม่ต้องเค้นนะครับ
หรือท่านสามารถใช้หลอดดูดแทนการห่อริมฝีปากได้ก็จะได้ช่องเล็กๆเช่นกัน
เช่น หากท่านหายใจเข้าใช้เวลา 2 วินาที เมื่อท่านหายใจออกผ่านปากจู๋ ควรหายใจออกช้าๆยาว ให้ได้อย่างน้อย 4 วินาที
****ฝึกหายใจแบบปากจู๋นี้ ทำได้บ่อยๆเลยนะครับ นึกได้ตอนไหนทำตอนนั้น
5-6 ครั้งต่อรอบ พักระหว่างรอบสัก 1นาที ก็ทำอีกได้ครับ หรือจะทำร่วมกับการฝึกหายใจลึกก็ได้ครับ *****
1.3 จัดทางให้เหมาะสม เพื่อให้หายใจได้สะดวกและส่งเสริมให้ปอดในบางส่วนมีลมถ่างไว้มากขึ้น ปอดจะได้แลกเปลี่ยนก๊าซได้ดีขึ้น จะช่วยรักษาระดับออกซิเจนในเลือดให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายได้
*ในช่วงที่ตื่นช่วงกลางวัน เน้นการนั่งเก้าอี้ ให้ตัวตั้งอาจมีพนักพิงหลังได้ หากทรงตัวไม่ไหวก็ปรับเอนได้เช่นกัน***
*ในช่วงตื่นนอนหากต้องการพักผ่อน ขอให้ท่านเลือกท่า นอนได้ดังต่อไปนี้
*นอนคว่ำ (มีรูปประกอบ) : นอนคว่ำ หมุนหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง
วางแขนด้านที่หมุนหน้าไปกางขึ้นด้านบน
นำหมอนมารองไว้ระหว่างรักแร้ เพื่อลดการหมุนของคอ จะได้ไม่ปวดคอตามมา
ส่วนแขนอีกข้าง เอาลงวางข้างลำตัวนะครับ
หากท่านมีอาการปวดคอฝั่งใดแนะนำหมุนหน้าหนีไปฝั่งตรงข้าม
หรือสลับหมุนได้หากเมื่อยครับ
* นอนตะแคงกึ่งคว่ำทับซ้าย
* นอนตะแคงกึ่งคว่ำทับขวา (มีรูปประกอบ) : ท่านอนตะแคงกึ่งคว่ำทับขวา
นอนตะแคงทับขวาก่อน หมอนที่รองศีรษะ ควรหนาพอดีกับความสูงซอกคอ จะได้ไม่ปวดคอ วางแขนขวายื่นออกมาด้านหน้า วางแขนซ้ายบนหมอนอีกใบ
แล้วเอนตัวมาทางด้านหน้าเยอะๆ จึงจะเป็นกึ่งคว่ำ งอเข่างอสะโพกซ้ายก่ายทับหมอน
* ในกรณี ผู้ป่วยอัมพาษครึ่งซีกอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง ให้นอนตะแคงทับข้างที่ ไม่ อ่อน แรง นะครับ
****ทำสลับเปลี่ยนท่าได้ ทุกๆ 30 นาที หรือ 1 ชม. ในช่วงที่ตื่น หากเป็นช่วงนอนกลางคืนก็สามารถใช้ท่าเหล่านี้ได้ครับ*****
1.4 หาซื้ออ๊อกซิเจนมาใช้พยุงอาการค่ะ ญาติเสิร์ชหาข้อมูลร้านอ๊อกซิเจนใกล้บ้านเลย ให้เขานำมาส่ง แต่ถ้าไม่มีจริงๆ ไม่สะดวกจ่าย ขอยืมค่ะ เพื่อนบ้าน ใครมีถัง หรือเครื่องผลิตอ๊อกซิเจน หรือแจ้งในกรุ๊ปไลน์ ขอคำแนะนำจากคุณหมอและพยาบาลได้ค่ะ
อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่: 22/5/2564