พระธาตุโพนจิกเวียงงัว
เป็นพระธาตุที่เชื่อกันว่าบรรจุพระธาตุเขี้ยวฝาง (พระทันตธาตุ) ประดิษฐานอยู่ที่วัดป่าพระธาตุบุ บ้านโคกป่าฝาง ต.ปะโค อ.เมือง จ.หนองคาย ตามตำนานอุรังคธาตุ มีลักษณะทางศิลปกรรมเป็นเจดีย์ทรงระฆังสูง ก่ออิฐสอด้วยดินและยางไม้ มีฐานประทักษิณเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดกว้าง 17.50 เมตร ยาว 17.50 เมตร ภายในฐานประทักษิณถมดินอัดแน่น และน่าจะมีการฉาบขอบฐานประทักษิณด้วยปูนฉาบเช่นกัน อีกทั้งมุมทั้งสี่ทิศพบซากฐานอิฐรูปทรงสี่เหลี่ยมสันนิษฐานว่าเป็นพระธาตุจำลองประจำมุม 4 องค์ ถัดขึ้นไปคือฐานเขียงล่าง เป็นทรงสี่เหลี่ยมทำแท่นประดิษฐานโดยรอบ เพื่อประดิษฐานพระธาตุจำลอง 30 องค์ ส่วนเรือนธาตุเป็นองค์ระฆังทรงกลมเรียวยาวอยู่ด้านบน ถัดขึ้นไปเป็นชั้นบัวลูกแก้วในผังกลมซ้อนกัน 4 ชิ้น ส่วนยอดเป็นปลีทรงแหลมสูง คาดว่าน่าจะทำขึ้นใหม่ภายหลัง
ซากโบราณสถานอิฐ อยู่บริเวณด้านทิศตะวันออกของพระธาตุโพนจิก เป็นฐานอาคารก่ออิฐ ขนาด 5.30*5.30 เมตร สูง 80 เซนติเมตร ฐานล่างของอาคารดังกล่าวมีลักษณะเป็นฐานเขียง 1 ชั้น ภายในถมปรับพื้นด้วยเศษอิฐและดินผสมเม็ดแลงบดอัด นอกจากนี้ยังพบแท่งศิลาแลงทรงกระบอกปักอยู่โดยรอบซากฐานอาคารดังกล่าว จึงสันนิษฐานเบื้องต้นว่าฐานอาคารอิฐหลังนี้น่าจะเป็นสิม (โบสถ์) และแท่งศิลาแลงเหล่านี้น่าจะเป็นหลักกำหนดเขตในการทำสังฆกรรม เช่นเดียวกับพัทธสีมา
ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 99 ตอนที่ 172 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2525 พื้นที่ประมาณ 1 ไร่ 1 งาน 58 ตารางวา
เส้นทางเข้าสู่แหล่ง
ธาตุโพนจิกเวียงงัวและพระธาตุบุตั้งอยู่ภายในวัดโคกป่าฝาง (ดอกไม้แดง) ในเขตเทศบาลตำบลปะโค อำเภอเมืองหนองคาย โดยหากมาจากตัวจังหวัดหนองคายบริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ให้ใช้ถนนแก้ววรวุฒิ (ทางหลวงหมายเลข 242) มุ่งหน้าทางทิศตะวันตกหรือมุ่งหน้าตำบลปะโค ซึ่งเป็นถนนเลียบแม่น้ำโขง ประมาณ 9.6 กิโลเมตร (ถึงตำบลปะโค) พบสี่แยกให้เลี้ยวซ้ายใช้ทางหลวงชนบทหมายเลข 3187 มุ่งหน้าบ้านโคกป่าฝาง ไปตามถนนประมาณ 1.4 กิโลเมตร พบสามแยกให้ใช้ถนนเบี่ยงขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 3079 ประมาณ 450 เมตร ถึงวัดโคกป่าฝาง
ประโยชน์ทางการท่องเที่ยว
รายละเอียดทางการท่องเที่ยว
พระธาตุโพนจิกเวียงงัวเป็นพุทธศาสนสถานที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของจังหวัดหนองคาย เนื่องจากเชื่อกันว่าเป็นพระธาตุเจดีย์ที่ประดิษฐานพระเขี้ยวฝางหรือทันตธาตุของพระพุทธเจ้า และมีตำนานเกี่ยวกับการประดิษฐานพระธาตุที่ย้อนไปถึง พ.ศ.8 และเชื่อกันว่าผู้ที่ก่อสร้างพระธาตุคือ พระโพธิสาลราช กษัตริย์ล้านช้าง พระราชบิดาของสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช เมื่อ พ.ศ.2063-2093 จึงเป็นที่สักการะเลื่อมใสต่อชาวหนองคายและพุทธศาสนิกชนทั่วไปเป็นอย่างมาก
ภายในวัดมีความเงียบสงบร่มรื่น พระธาตุโพนจิกเวียงงัวและฐานอุโบสถเก่าได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์และปรับปรุงภูมิทัศน์จากกรมศิลปากรแล้ว มีการติดตั้งป้ายให้ข้อมูลเกี่ยวกับพระธาตุและโบราณสถานต่างๆ ภายในวัด ผู้สนใจสามารถเข้าสักการะและเยี่ยมชมได้ทุกวัน โดยไม่เสียค่าเข้าชม
หน่วยงานที่ดูแลรักษา
วัดโคกป่าฝาง, กรมศิลปากร
การขึ้นทะเบียน
รายละเอียดการขึ้นทะเบียน
ธาตุโพนจิกเวียงงัวและฐานอุโบสถเก่า ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 99 (ฉบับพิเศษ) ตอนที่ 172 หน้า 18 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2525 เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
อ้างอิง
· พระธาตุโพนจิกเวียงงัว พระบรมสารีริกธาตุที่ถูกลืม
· ธาตุโพนจิกเวียงงัง (วัดพระธาตุบุ)
1. วินิจ พลพิทักษ์, ความเป็นมา พระธาตุโพนจิกเวียงงัว, เข้าถึงข้อมูลวันที่ 17 พฤษภาคม 2556
2. ประภัสสร์ ชูวิเชียร, พระธาตุโพนจิกเวียงงัว วัดป่าพระธาตุบุ, เข้าถึงข้อมูลวันที่ 17 พฤษภาคม 2556
3. ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน (ธาตุไพนจิกเวียงงัว)