รายงานผลการประเมินการปฏิบัติงานตามข้อตกลง (PA)
ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสายงานการสอน
รายงานผลการประเมินการปฏิบัติงานตามข้อตกลง (PA)
ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสายงานการสอน
ส่วนที่ 2
ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ส่วนที่ ๒ ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะชำนาญการคือ การแก้ไขปัญหา การจัดการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาทักษะด้านการเรียนรู้ และส่งเสริมพฤติกรรมการเรียนรู้เชิงบวกในรายภาษาไทย ของผู้เรียนชั้น ม. 2/1 เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ ผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
๑. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ได้คำนึงถึงการส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ เป็นสำคัญ นั่นคือ การเตรียมให้ผู้เรียนมีทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ การใช้เทคโนโลยี การสื่อสารและการร่วมมือ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้เรียนรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสภาพแวดล้อม สามารถแข่งขันและอยู่ร่วมกับประชาคมได้ (กระทรวงศึกษาธิการ. ๒๕๕๒)
ผู้จัดทำข้อตกลงในฐานะที่เป็นครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย พบว่า นักเรียนชั้นม. 2/1 ขาดโอกาสที่จะได้รับการฝึกฝนการนำทักษะด้านการเรียนรู้ และทักษะการคิดวิเคราะห์ มาใช้ส่งเสริมในการเรียนเนื้อหาต่างๆ ตามระดับชั้นและส่งเสริมพฤติกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาไทย เนื่องจากระบบการเรียนรู้ที่ขาดความต่อเนื่อง เช่น การเข้าถึงสื่อการเรียนรู้ของผู้เรียน ความพร้อมของผู้ปกครอง ระยะเวลาในการเรียนรู้ที่จำกัด รวมถึงอุปสรรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผู้เรียนขาดโอกาสในการฝึกฝน ทำให้การเรียนรู้ในวิชาอื่นๆ เกิดปัญหาและเรียนรู้ได้ช้า ไม่สามารถแก้ปัญหาที่จะเชื่อมโยงและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมการเรียนรู้ทางบวกลดลง ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเกณฑ์ หรือค่าเป้าหมายของสถานศึกษาที่กำหนด ผู้เรียนไม่สามารถเรียนรู้เนื้อหาต่างๆ ที่ครูได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาความรู้ให้นักเรียนได้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดที่ต้องรู้ ในระดับชั้นม. 2/1 ได้ตามที่ระบุในหลักสูตรสถานศึกษา และหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ดังนั้น ครูผู้สอนจึงจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาทักษะด้านการเรียนรู้ และส่งเสริมพฤติกรรมการเรียนรู้เชิงบวกในรายภาษาไทย ของผู้เรียนชั้นม. 2/1 ผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ขึ้น เพื่อพัฒนาและส่งเสริมพฤติกรรมการเรียนรู้ภาษาไทย ครูผู้สอนจึงได้ร่วมศึกษา วิเคราะห์จากปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน จึงได้คิดค้นวิธีการ รูปแบบการจัดการเรียนการสอน และพัฒนานวัตกรรม สื่อการเรียนการสอน ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนการสอน ผ่านรูปแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ( Active Learning) เพื่อปรับเปลี่ยนและพัฒนา ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้ผู้เรียนมีคุณภาพการเรียนรู้ที่สูงขึ้นตามลำดับ บนพื้นฐานความแตกต่างระหว่างบุคคล และความแตกต่างระหว่างพื้นที่การเรียนรู้ ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ
เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ ซึ่งนวัตกรรมที่นำมาปรับประยุกต์ใช้ในการพัฒนาทักษะและส่งเสริมพฤติกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความสนใจ และช่วยเร้าความสนใจของผู้เรียนท้าทายความสามารถ เข้าใจง่าย มีภาพ ประกอบ วางรูปแบบสวยงามและสามารถฝึกได้ด้วยตนเอง อันจะส่งผลให้นักเรียนได้ประยุกต์ความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ใบงานและแบบฝึกทักษะ มีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อการเรียนการสอนวิชาที่เป็นทักษะมาก เพราะเป็นอุปกรณ์ช่วยลดภาระของครู ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะให้ดีขึ้น ส่งเสริมในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล ทำให้นักเรียนประสบผลสำเร็จในทางจิตใจมากขึ้น รวมทั้งเป็นเครื่องมือวัดผลการเรียนหลังจากเรียนบทเรียนแล้ว ตลอดจนนักเรียนสามารถทบทวนได้ด้วยตนเอง ทำให้ครูมองเห็นปัญหาต่าง ๆ ของนักเรียนได้ชัดเจน นักเรียนสามารถฝึกฝนได้เต็มที่นอกเหนือจากที่เรียนในเวลาเรียนซึ่งทำให้ผู้เรียนเห็นความก้าวหน้าของตนเองได้ โดยมีครูผู้สอนที่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีและให้คำปรึกษากับครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ และครูทั้งในและต่างโรงเรียนในการจัดการเรียนการสอนที่ดีได้อีกด้วย
๒. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
๒.๑ วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) ในเรื่องของ มาตรฐานการเรียน และตัวชี้วัด ของเนื้อหา วิชาภาษาไทย
ชั้นม. 2/1 เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ
๒.๒ ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามประเด็นท้าทาย
๒.๓ พัฒนานวัตกรรม สื่อการเรียนการสอน แบบฝึกเสริมทักษะกับการจัดการเรียนรู้แบบการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ ด้วยการให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
๒.๔ ครูผู้สอนติดตามความก้าวหน้าจากการทำแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ
๒.๕ วัดและประเมินผลการเรียนรู้หลังจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้วัดและประเมินผลตามสภาพจริง โดยพิจารณาจาก
(1) แบบทดสอบ เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ
(2) แบบสังเสตพฤติกรรม
(3) ชิ้นงาน
๒.๖ บันทึกผลการเรียนรู้ สรุปผลการวัดและประเมินการเรียนรู้ของผู้เรียน นำผลการประเมินไปใช้ในการปรับปรุงการจัดการเรียนรู้และพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนในปีการศึกษาต่อไป
๒.๗ ครูผู้สอนนำปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้บริหาร ครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ เป็นแบบอย่างที่ดีและให้คำปรึกษากับเพื่อนครู เพื่อที่จะหาแนวทางในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้
๒.๘ รายงานผลการดำเนินการตามข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทาย ในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ เสนอต่อผู้อำนวยการสถานศึกษา
๓. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
๓.๑ เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้น ม. 5/1 โรงเรียนเมืองสมเด็จ จำนวน ๒๖ คน ที่เรียนในรายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ. ได้รับการพัฒนาทักษะและส่งเสริมพฤติกรรมการเรียนรู้เชิงบวกของผู้เรียน
๓.๒ เชิงคุณภาพ
นักเรียนชั้น ม. 2/1 โรงเรียนเมืองสมเด็จ จำนวน ๒๖ คน ร้อยละ ๙๖ ที่ได้รับการพัฒนาทักษะและส่งเสริมพฤติกรรมการเรียนรู้เชิงบวกของผู้เรียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ กับเทคนิคการสอนแบบการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในการพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ โดยมีคะแนนผ่านเกณฑ์และมีผลสัมฤทธิ์เพิ่มสูงขึ้น