“มหัศจรรย์ปุ๋ยหมักเติมอากาศ”
“มหัศจรรย์ปุ๋ยหมักเติมอากาศ”
นายบุญธรรม คชรินทร์ อายุ ๖๒ ปี
เป็นปราชญ์เกษตรตำบลตาขัน ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ ๓ หมู่ที่ ๗
บ้านหนองขนุน ตำบลตาขัน อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง
นายบุญธรรม คชรินทร์ ประสบปัญญาพิษเศรษฐกิจ เมื่อปี ๒๕๔๐ หลังจากนั้นจึงได้เกิดแนวคิดและแรงบันดาลใจที่จะหาแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้นและสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เป็นปรัชญาที่ชี้ถึงการดำรงอยู่และปฏิบัติตนโดยมีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะกับสิ่งเหล่านั้นทำให้เกิดกระบวนการคิดวิเคราะห์ศักยภาพของครอบครัวตนเอง โดยเริ่มจากการผสมปุ๋ยเคมีใช้เอง การปลูกผัก การเลี้ยงปลา การเลี้ยงไก่ไข่ การทำเกษตรผสมผสานและการทำปุ๋ยหมักเติมอากาศจนเป็นที่ยอมรับของชาวบ้านในการทำเกษตรผสมผสาน
ในปีพ.ศ.๒๕๔๘ ได้ใช้พื้นที่บ้านของตนเองจัดตั้งเป็น “จุดเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ” บ้านหนองขนุน หมู่ที่ ๗ ตำบลตาขัน อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เป็นศูนย์การเรียนรู้การทำเกษตรผสมผสานให้กับหน่วยงาน องค์กร ประชาชนหรือคนที่สนใจเรียนรู้ โดยแบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ และฐานการเรียนรู้ที่โดดเด่นเป็นที่ให้ความสนใจของผู้ที่เข้ามาเรียน คือ “ปุ๋ยหมักเติมอากาศ”
ฐานการเรียนรู้การปลูกข้าวซีเมนต์
ฐานการเลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี
ฐานการเลี้ยงหอยขมในบ่อ
ฐานการปลูกพืชในบล็อกซีเมนต์
ฐานสวนมังคุดผิวมัน
ฐานสวนมังคุดผิวมัน
เมื่อย่อยสลายสมบูรณ์แล้วจะแปรสภาพเป็นปุ๋ยหมัก ที่มีลักษณะสีดำคล้ำหรือสีน้ำตาลปนดำ ไม่มีกลิ่น มีคุณสมบัติที่ดีต่อรากพืช จนพบว่าผลผลิตที่ได้มีคุณภาพทัดเทียมกับปุ๋ยชนิดอื่น
ที่สำคัญช่วยในเรื่องการลดต้นทุนได้มากกว่ามีการอบรมชาวบ้านให้ความรู้เพื่อทำ“ปุ๋ยหมักเติมอากาศ”มาใช้ในสวนผลไม้ของเกษตรกรในพื้นที่อำเภอบ้านค่าย
วัตถุดิบที่ใช้ประโยชน์ในการผลิตที่เกิดจากภูมิปัญญา “ปุ๋ยหมักเติมอากาศ” สามารถใช้วัสดุทางธรรมชาติของแต่ละพื้นที่ได้แต่ละพื้นที่ การใช้ซากพืช ซากสัตว์ (ขี้ไก่แกลบ ขี้วัว ขุยมะพร้าว) มาใช้ในอัตรา ๓๐ : ๓๐ : ๑๐ ทั้งนี้ หากพื้นที่อื่นไม่มีวัสดุดังกล่าว แต่อาจมีฟาง หญ้าแห้ง ใบไม้แห้ง ใบกระถิน ขี้ไก่ ขี้หมู ก็อาจปรับใช้ได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ขอให้ยึดอัตราส่วนตามมาตรฐานที่ทางกรมวิชาการกำหนด
ไว้คือ ๓๐ : ๓๐ : ๑๐ น้ำจากการหมักปุ๋ยเติมอากาศใช้สำหรับรดพืชผักหลังจากนั้นให้นำวัสดุทางธรรมชาติที่ได้ตามอัตราส่วนไปหมักด้วยระบบเติมอากาศ การหมักวัสดุเพื่อทำปุ๋ยแบบเดิมมีข้อเสียตรงที่ต้องหมั่นกลับกองปุ๋ย แต่สำหรับปุ๋ยหมักเติมอากาศจะใช้ลมเป่าเพื่อให้ออกซิเจนเติมเข้าไป เป็นการเร่งปฏิกิริยากระบวนการหมักให้เร็วแล้วได้ผลมากขึ้น “โดยพัดลมมีหน้าที่ระบายอากาศเพื่อให้อุณหภูมิการหมักลดลงเป็นการตั้งเวลาอัตโนมัติไว้ทุก ๓ ชั่วโมง พัดลมจะทำงานจำนวน ๑ ชั่วโมง พอหลังจากหมักผ่านไป ๓ วัน จะพบว่ามีหนอนเป็นจำนวนมากซึ่งบ่งบอกถึงความสมบูรณ์ ทั้งนี้ การหมักปุ๋ยใช้เวลาทั้งหมด ๓ เดือน โดยให้กลับกองปุ๋ยเพียงครั้งเดียวในเดือนที่สอง กระทั่งเมื่ออุณหภูมิในกองปุ๋ยลดลงเท่ากับอุณหภูมิอากาศก็สามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ยในการปลูกพืชได้
จุดเด่นของ “ปุ๋ยหมักเติมอากาศ”
ใช้วัตถุดิบที่มีในชุมชนในการหมักปุ๋ย สามารถนำมาใช้และสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้
สนใจติดต่อ ขอความรู้เพิ่มเติมได้ที่
“จุดเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ” บ้านหนองขนุน ตำบลตาขัน อำเภอบ้านค่าย
จังหวัดระยอง
โทรศัพท์ 087 603 9454
Facebook : ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ บ้านหนองขนุน ตำบลตาขัน
ข้อมูลเนื้อหา เรื่องราว เขียนโดย ครูศกร.ตำบลตาขัน