วัดมงคลคีรีเขตร์

เดินทางผ่านเส้นทางสายนี้ช่วงหน้าหนาว สถานที่น่าสนใจและต้องมาแวะมา สักการะบูชา ขอเริ่มต้นที่ วัดมงคลคีรีเขต ริมแม่น้ำเมยเขตอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะครูบาสร้อย ขันติสาโร เทพเจ้าแห่งท่าสองยางบ้านตะมะวอดินแดนแห่งชาวเขา เชื่อมสองแผ่นดิน มีแม่น้ำเมยแบ่งเขตแดนเรียกสุดแดนสยามตะวันตก


สำหรับเรื่องราวความเป็นมาของครูบาสร้อยท่านเกิดในปี พ.ศ. 2472 เป็นชาวจังหวัดบุรีรัมย์ภาคอีสานและเมื่อครั้งวัยเด็กได้นำน้ำมาถวายพระธุดงค์เข้ามาบริเวณใกล้ ๆ บ้าน แล้วพระธุดงค์รูปนี้กล่าวว่า ต่อไปจะเป็นนักบวชแล้วออกธุดงค์ แล้วก็เป็นจริง ครูบาสร้อยอุปสมบทในวัย 22 ปี ณ วัดชุมพรบ้านเกิดของท่าน ได้ฉายาว่าขันติสาโร ครูบาสร้อยศึกษาพระธรรมวินัย นั่งสมาธิกรรมฐานจนเข้าถึงพระธรรม มีเมตตาจิตสูง แล้วได้เป็นเจ้าอาวาสวัดนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์

ในปี พ.ศ. 2497 ท่านออกธุดงค์ไปภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน แล้วถึงอำเภอแม่สะเรียง จุดหมายของท่านคือ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก เมื่อครูบาสร้อยเข้าเขตอำเภอท่าสองยาง แล้วก็อาศัยเรือชาวบ้านล่องเรือในแม่น้ำเมย จนถึงวัดร้างแห่งหนึ่งชุมชนบ้านมะตะวอ ท่านพบวัดร้างตั้งใจจะพักผ่อน 1 คืน รุ่งอรุณจะธุดงค์ต่อไปอำเภอแม่ระมาด ครูบาสร้อยเดินถึงกระต๊อบเล็ก ๆ เก่า ๆ พบพระสงฆ์รูปหนึ่ง คือ ครูบาเสือหรือตุ๊เจ้า พอได้สนทนาธรรมแล้ว ครูบาเสือบอกให้อยู่วัดนี้ก่อน แล้วค่อย ไปอำเภอแม่ระมาด ครูบาสร้อยก็จำพรรษาอยู่วัดร้างต่อตามที่ครูบาเสือแนะนำ ต่อมาก็ร่วมกันกับชาวบ้าน 2 ฝั่งแม่น้ำเมย บรรพชาสามเณร ส่วนใหญ่เป็นชาวเขาจนกระทั่งพัฒนาวัดร้างให้เป็นวัดศูนย์กลางรวมจิตใจของชาวบ้านเขตดินแดนสุดสยามตะวันตกชื่อ “วัดมงคลคีรีเขต” ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 ถึงปี พ.ศ. 2541



ครูบาสร้อย ท่านได้ละสังขารด้วยอายุ 69 ปี สังขารไม่เน่าเปื่อยประดิษฐานในโลงแก้วเพื่อให้ผู้ที่ศรัทธาเลื่อมใสมาขอพร ครูบาสร้อย ขันติสาโร ชาวไทยภูเขา ชาวพม่า ชาวกะเหรี่ยงต่างยกให้ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งท่าสองยาง