การทอผ้ากะเหรี่ยงด้วยกี่เอว

ชนเผ่ากะเหรี่ยง เป็นชนเผ่าที่ยังคงเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรม ประเพณี พิธีกรรมทางศาสนาและการแต่งกาย และมีความพยายามใน การที่จะสืบสาน อนุรักษ์ศิลปะการทอผ้าพื้นบ้านกะเหรี่ยงแบบดั้งเดิม ที่นอกจากให้คงอยู่ในกลุ่มชนสืบไปแล้ว ก็ยังพยายามที่จะทำให้ชุมชนหมู่บ้านเป็นแหล่งการเรียนรู้ศิลปะการทอผ้ากะเหรี่ยงด้วยกี่เอว ภูมิปัญญาท้องถิ่นช่างทอผ้าพื้นบ้านกะเหรี่ยง เพื่อการศึกษาและเรียนรู้

ผ้าทอพื้นบ้านกะเหรี่ยง

วัฒนธรรมและอารยธรรมเก่าแก่ ในสมัยยุคหินใหม่จนถึงยุคโลหะแสดงให้เห็นว่าคนในยุคก่อนประวัติศาสตร์รู้จักการนำเอาเส้นใยที่มีอยู่ในธรรมชาติ มาใช้ในการถักทอเป็นเครื่องนุ่งห่ม และเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน รู้จักการถักตาข่ายเป็นแหหรือสวิงที่ใช้ในการจับสัตว์น้ำ การค้นพบแร่ดินเผาที่เป็นอุปกรณ์สำหรับปั่นเส้นด้าย และได้พบหลักฐานเส้นใยผ้าติดอยู่กับกำไล งานศิลปหัตถกรรมที่ทรงคุณค่ามาแต่สมัยโบราณของชนเผ่ากะเหรี่ยงที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตประเพณี วัฒนธรรม พิธีกรรม ของชนเผ่า ได้แก่ งานทอผ้าที่มีกรรมวิธีในการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์ในด้านของลวดลาย สีสัน และการนำวัสดุในท้องถิ่นมาใช้ในการผลิต ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีการใช้เครื่องจักรอุปกรณ์ที่ทันสมัยมาใช้ในการทอผ้า แต่การทอผ้าด้วยมือก็ยังเป็นศิลปะที่ได้รับการยกย่องและชื่นชมตลอดมา


ผ้าทอมือด้วยกี่เอว เป็นศิลปะการทอผ้าที่นิยมทำกันมานานแล้วในชุมชนชาวเขา เผ่ากะเหรี่ยง ซึ่งทำกันแทบทุกบ้าน เครื่องทอผ้าแบบกี่เอวในยุคก่อนทำขึ้นจาก ไม้สัก เพราะเป็นไม้เนื้ออ่อน ผ่าง่าย เนื่องจากยังไม่มีเลื่อยใช้ ส่วนลวดลายในการทอ ก็มีเพียงไม่กี่ลาย เช่น ลายเมล็ดฟักทอง ลายดอกพริก ลายแมงมุม และลายหัวเต่า ลวดลายเหล่านี้ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น ปัจจุบันนอกจากลวดลายดั้งเดิมนี้แล้ว ยังมีการคิดค้นประดิษฐ์และผสมผสานลวดลายใหม่ ๆ ตามความต้องการของตลาดและผู้บริโภควัสดุที่นำมาทำกี่ทอผ้า ก็สามารถใช้ ไม้เนื้อแข็งหรือวัสดุอื่น ทดแทนได้แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเอกลักษณ์ของผ้าทอพื้นบ้านกะเหรี่ยงคือ การใช้ลูกเดือยปักตกแต่งบนผืนผ้าอย่างสวยงาม

การแต่งกาย การแต่งกายของโพล่ง หรือ ปกากะญอ สังเกตได้ง่าย คือ ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว จะนุ่งผ้าถุงสีแดง คาดลายสีอะไรก็ได้ ส่วนเสื้อเป็นเสื้อที่ทอเอง ตกแต่งด้วยผ้าสีแดง และปักลูกเดือย นอกจากนี้จะมี การสักรอบ ๆ เหนือข้อเท้าส่วนหน้าแข้ง (ปัจจุบันไม่ค่อยพบการสักแบบนี้ เนื่องจากหาผู้ที่ชำนาญการสักไม่ได้ และ มีคนพื้นราบเข้ามาคลุกคลีและแต่งงานปะปนกับคนปกากะญอมากขึ้น) สำหรับหญิงสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานจะใส่ชุดทรงกระสอบสีขาว ยาวเกือบกรอมเท้าทอเองด้วยมือ หรือทอแบบง่าย ๆ แต่งลวดลายสีอะไรก็ได้ เรียกว่า “โพล่งมื่อน่าง” จะไม่ใส่ ชุดคนละท่อนเหมือนกับผู้หญิงที่แต่งงาน ส่วนผู้ชายจะสวมเสื้อโพล่ง ส่วนกางเกงจะเป็นสะดอ หรือ ผ้าโสร่งเหมือนโสร่งแขก