งานวิจัยจากเว็บไซต์ Thailis
1. การวิเคราะห์องค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครสวรรค์
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นาเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาและ 2) เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา โดยมีกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครู จำนวน 400 คน โดยใช้เทคนิคการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม ซึ่งมีค่าความตรงเชิงเนื้อหาระหว่าง 0.67 – 1.00 และค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.94 สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์องค์ประกอบ เชิงสำรวจโดยการหมุนแกนด้วยวิธีแวริแมกซ์ ผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับภาวะผู้นาเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครสวรรค์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( ̅ = 4.09, S.D. = 0.81) ซึ่งตัวแปรที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีด้านการจัดการเรียนการสอนและการใช้เทคโนโลยีด้วย ความรับผิดชอบคำนึงถึงความปลอดภัย ( ̅ = 4.42, S.D. = 0.69) รองลงมาคือการใช้เทคโนโลยีอย่างระมัดระวังที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ( ̅ = 4.41, S.D. = 0.66) และตัวแปรที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุดคือการนาวิสัยทัศน์สู่วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ( ̅ = 3.65, S.D. = 1.10) 2. องค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา มีทั้งสิ้น 8 องค์ประกอบ สามารถอธิบายความแปรปรวนได้ร้อยละ 46.85 มีค่าไอเกนระหว่าง 2.16 – 10.11 แต่ละองค์ประกอบเรียงลำดับค่าน้ำหนักจากมากไปน้อยคือ 1) ภาวะผู้นำด้านการใช้เทคโนโลยีอย่าง มีจริยธรรม มีค่าน้ำหนักอยู่ระหว่าง 0.52 – 0.71 2) ภาวะผู้นำด้านการสรรค์สร้างนวัตกรรมทาง การบริหาร มีค่าน้ำหนักอยู่ระหว่าง 0.41 – 0.63 3) ภาวะผู้นำด้านการสร้างเครือข่ายทางเทคโนโลยี มีค่าน้ำหนักอยู่ระหว่าง 0.40 – 0.61 4) ภาวะผู้นำด้านสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี มีค่าน้ำหนักอยู่ระหว่าง 0.44 – 0.61 5) ภาวะผู้นำด้านความเป็นผู้นาที่มีวิสัยทัศน์ มีค่าน้ำหนักอยู่ระหว่าง 0.46 – 0.63 6) ภาวะผู้นำด้านการพัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศ มีค่าน้ำหนักอยู่ระหว่าง 0.48 – 0.59 7) ภาวะผู้นำด้านการพัฒนาบุคลากร มีค่าน้ำหนักอยู่ระหว่าง 0.42 – 0.73 และ 8) ภาวะผู้นำด้านบูรณาการเทคโนโลยีสู่การปฏิบัติ มีค่าน้ำหนักอยู่ระหว่าง 0.40 – 0.55
นางสาวจิราพัชร ไผ่วุฒิพันธ์ (2564). การวิเคราะห์องค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครสวรรค์. ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
2. การศึกษาภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารโรงเรียนในกลุ่มศูนย์พัฒนาคุณภาพการศึกษา ตำบลแม่นาวาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3
บทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารโรงเรียนในกลุ่มศูนย์พัฒนาคุณภาพการศึกษาตำบลแม่นาวาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยี ของผู้บริหารโรงเรียนในกลุ่มศูนย์พัฒนาคุณภาพการศึกษาตำบลแม่นาวาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 จำแนกตามวุฒิ การศึกษาและประสบการณ์การทำงาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ บุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนในกลุ่มศูนย์พัฒนาคุณภาพการศึกษาตำบลแม่นาวาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 จำนวน 103 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.873 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ได้แก่ การทดสอบ T-test การทดสอบ F-test หรือ One way ANOVA เมื่อพบความแตกต่างกันทำการเปรียบเทียบเป็นรายคู่ด้วยวิธี LS.D (Least Significant Difference) ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารโรงเรียน ในภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 2) การเปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารโรงเรียน จำแนกตามระดับวุฒิการศึกษา ภาพรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จำนวน 1 ด้าน คือ ด้านจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี และจำแนกตามประสบการณ์การทำงาน ภาพรวมมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ไม่แตกต่างกัน จำนวน 1 ด้าน คือ ด้านจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี
นายเอกพงษ์ มังกะระ (2565). การศึกษาภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารโรงเรียนในกลุ่มศูนย์พัฒนาคุณภาพการศึกษา ตำบลแม่นาวาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3. ปริญญาศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา.
3. การศึกษาภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 2) เปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล จำแนกตามวุฒิการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงาน และขนาดโรงเรียน 3) ศึกษาแนวทางส่งเสริมภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ข้าราชการครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 351 คน จาก 41 โรงเรียน ด้วยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นโดยใช้ขนาดโรงเรียนและกำหนดขนาด ตัวอย่างจากการเทียบสัดส่วนของ krejcie และ Morgan เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ .94 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที และทดสอบเอฟ ความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีการของ Shehffe' และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1. ภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 โดยรวมอยู่ในระดับมาก 2. ผลการเปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 จำแนกตาม วุฒิการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงาน และขนาดโรงเรียน พบว่า 2.1 ข้าราชการครูที่มีวุฒิการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี ในการเรียนการสอนและด้านการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีในการวัดและประเมินผลแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ.05 2.2 ข้าราชการครูที่มีประสบการณ์ในการทำงานที่แตกต่างกันมีความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล โดยรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านการใช้เทคโนโลยีในการบริหาร และด้านภาวะผู้นำและวิสัยทัศน์ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2.3 ผลการเปรียบเทียบความแตกต่าง จำแนกตามขนาดโรงเรียน โดยภาพรวมและรายด้าน ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 3. แนวทางการส่งเสริมภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 มีทั้งหมด 5 ด้านประกอบด้วย 1) ด้านภาวะผู้นำและวิสัยทัศน์ ผู้บริหารสถานศึกษาควรได้รับการพัฒนาความเป็นผู้นำและมีวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีโดยการแบ่งปันแนวคิดซึ่งกันและกันภายในกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา และการศึกษาดูงานในสถานศึกษาที่มีผลงานเชิงประจักษ์ด้านเทคโนโลยี 2) ด้านการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน ผู้บริหารสถานศึกษาควรสนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน โดยใช้เทคนิควิธีการเรียนรู้ รูปแบบการสอนในการจัดกิจกรรมอย่างหลากหลายที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง 3) ด้านการใช้เทคโนโลยีในการบริหาร ผู้บริหารสถานศึกษาควรได้รับการพัฒนาความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการบริหารและแลกเปลี่ยนสัมมนาแนวคิดในการพัฒนาโดยใช้เครือข่ายทางการบริหารระหว่างสถานศึกษา 4) ด้านการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีในการวัดและประเมินผล ผู้บริหารสถานศึกษาควรกำหนดแนวทางหรือแนวปฏิบัติด้านการวัดและประเมินผลเพื่อการพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยี 5) ด้านจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี ผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องเป็นต้นแบบของการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม
ธัญณิชา สุขวงค์ (2563). การศึกษาภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29. ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
งานวิจัยจากเว็บไซต์ THAIJO
1. แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด
บทคัดย่อ
การวิจัยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันสภาพพึงประสงค์และความต้องการจำเป็นภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา 2) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา โดยการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาระดับสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา จากกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารสถานศึกษา 14 คน และครู 220 คน รวม 234 คน เครื่องมือที่ใช้ คือแบบสอบถาม คุณภาพเครื่องมือ ได้แก่ค่าดัชนีความสอดคล้อง 0.80–1.00 ค่าอำนาจจำแนกรายข้อระหว่าง 0.37–0.98 และค่าความเชื่อมั่น 0.90 ระยะที่ 2 ศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา จากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 8 คน และวิเคราะห์เนื้อหาข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์โดยวิธีการตีความแล้วนำเสนอแบบพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับสภาพปัจจุบันภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากและมีสภาพที่พึงประสงค์ภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการวิเคราะห์ค่าดัชนีความต้องการจำเป็นภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา พบว่า ระดับความต้องการจำเป็นโดยรวม PNI Modified = 0.26 ทั้งนี้ ค่าดัชนีความต้องการจำเป็น (PNI Modified) จากต่ำสุดไปหามากสุด อยู่ระหว่าง 0.21 ถึง 0.30 2. แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา คือ ผู้บริหารสถานศึกษาควรศึกษานโยบายของหน่วยงานต้นสังกัดและหลักการบริหารใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาตนเองให้มีความรู้ ความสามารถ และมีทักษะสำหรับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อการบริหารสถานศึกษา กำหนดแผนการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนทิศทางการศึกษาและกำหนดแนวทางการพัฒนาระบบเทคโนโลยีของสถานศึกษา พร้อมทั้งส่งเสริมให้บุคลากรในสถานศึกษาพัฒนาตนเองในด้านเทคโนโลยี และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารงานทั้ง 4 ฝ่ายงานของสถานศึกษา รวมทั้งการจัดตั้งแหล่งเรียนรู้ทางเทคโนโลยีและจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือดิจิทัล ที่เพียงพอต่อการใช้งานของบุคลากร นักเรียน นักศึกษา ให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายในทุกที่ทุกเวลา
จิรวัฒณ์ รักปัญญาสุทธิกุล และ ชยากานต์ เรืองสุวรรณ (2565) แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร. ปีที่ 19 ฉบับที่ 85 เมษายน –มิถุนายน 2565 : หน้า 121 – 130.
2. การศึกษาองค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์องค์ประกอบของภาวะผู้นําเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ แบ่งเป็น 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาเอกสารแนวคิดทฤษฎีและงานวิจัย จากแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องจํานวน 10 แหล่ง ขั้นตอนที่ 2 การประเมินความเหมาะสมองค์ประกอบของภาวะผู้นําเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จํานวน 5 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสังเคราะห์เอกสาร และแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานผลการวิจัยพบว่า ภาวะผู้นําเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษามี 6 องค์ประกอบ และการประเมินความเหมาะสมขององค์ประกอบภาวะผู้นําเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา โดยผู้ทรงคุณวุฒิจํานวน 5 คน พบว่า ทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ 1) การมีวิสัยทัศน์เชิงเทคโนโลยี 2) การส่งเสริมเทคโนโลยีในการเรียนการสอน 3) ผลิตภาพและความเป็นมืออาชีพ 4) กฎหมายและจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี 5) การวัดและประเมินผลโดยใช้เทคโนโลยี 6) การบริหารและการดําเนินงานในการใช้เทคโนโลยี มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
พิชยันต์ นันทะศรี เอกลักษณ์ เพียสา อภิสิทธิ์ สมศรีสุข (2567) การศึกษาองค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา. วารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร. ปีที่ 4 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม -กันยายน 2567 : หน้า 947 - 963
3. การศึกษาองค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาองค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา โดยใช้กระบวนการวิจัยจากเอกสาร (Documentary Research) แบ่งเป็น 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง จำนวน 12 แหล่ง ขั้นตอนที่ 2 ประเมินความเหมาะสมองค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสังเคราะห์เอกสาร และแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ประกอบด้วย 1) การมีวิสัยทัศน์ทางเทคโนโลยี 2) การใช้เทคโนโลยีเพื่อจัดการเรียนรู้ 3) การใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาวิชาชีพ 4) การสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี 5) การใช้เทคโนโลยีด้านการวัดและประเมินผล 6) การมีจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี โดยทุกองค์ประกอบมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
พชร เอ้มะราช ทรัพย์หิรัญ จันทรักษ์ อภิสิทธิ์ สมศรีสุข (2567) การศึกษาองค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์. ปีที่ 9 ฉบับที่ 1 มกราคม-เมษายน 2567 : หน้า 306 - 320.
งานวิจัยจากเว็บไซต์ ThaiEdResearch
1. ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของครู สหวิทยาเขตบ้านบึง 1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของครูสหวิทยาเขตบ้านบึง 1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 ตามความคิดเห็นของครู จำแนกตามระดับการศึกษาและประสบการณ์ในการทำงาน กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ข้าราชการครูโรงเรียนในสหวิทยาเขตบ้านบึง 1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 จำนวน 136 คน จาก 15 โรงเรียน โดยการกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างตามตารางของเครจซี่และมอร์แกน จากนั้นนำไปสุ่มอย่างง่ายแบบมีสัดส่วน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ เป็นแบบสอบถามวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป โดยหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที
ปรียานุช ทับหนองฮี (2566) ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของครู สหวิทยาเขตบ้านบึง 1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1. ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษาคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกริก.
2. เเนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำที่ยั่งยืนกับประสิทธิภาพการบริหารงานวิชาการโรงเรียนของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำที่ยั่งยืนของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี 2) เพื่อศึกษาระดับประสิทธิภาพการบริหารงานวิชาการโรงเรียนของผู้บริหารสถานศึกษา 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำที่ยั่งยืนกับประสิทธิภาพการบริหารงานวิชาการโรงเรียนของผู้บริหารสถานศึกษา และ 4) เพื่อนำเสนอแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำที่ยั่งยืนกับประสิทธิภาพการบริหารงานวิชาการโรงเรียนของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ข้าราชการครู จำนวน 332 คน คัดเลือกโดยใช้สูตรของทาโร ยามาเน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) แบบสอบถามระดับภาวะผู้นำที่ยั่งยืนของผู้บริหารสถานศึกษาและระดับประสิทธิภาพการบริหารงานวิชาการโรงเรียนของผู้บริหารสถานศึกษา ที่มีค่าความเชื่อมั่น .98 2) แบบสัมภาษณ์แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำที่ยั่งยืนกับประสิทธิภาพการบริหารงานวิชาการโรงเรียนของผู้บริหารสถานศึกษา สถิติที่ใช้ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
นายวสันต์ ศักดาศักดิ์ (2565). เเนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำที่ยั่งยืนกับประสิทธิภาพการบริหารงานวิชาการโรงเรียนของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี. ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร.
3. ภาวะผู้นำเหนือผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา และ 3) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา โดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน ได้จำนวน 33 โรงเรียน ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 66 คน เป็นผู้บริหาร จำนวน 33 คน และตัวแทนครู จำนวน 33 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ระยะที่ 2 กลุ่มตัวอย่างเพื่อทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง จำนวน 17 คน โดยเลือกแบบเจาะจง ยึดตามขนาดและบริบทของโรงเรียนโดยความสมัครใจของผู้บริหาร ระยะที่ 3 กลุ่มตัวอย่างเพื่อการประเมินผลการใช้รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำ การเปลี่ยนแปลงประกอบด้วย ผู้บริหารที่สมัครใจเข้าอบรม จำนวน 17 คน และตัวแทนครูร่วมประเมิน จำนวน 17 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย แบบสอบถามเกี่ยวกับภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง จำนวน 80 ข้อ เป็นลักษณะมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.98 คู่มือการใช้รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพโดยการตรวจสอบจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 15 คน และแบบประเมินภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 20 ข้อ มีค่าความเชื่อมันทั้งฉบับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงมาตรฐาน และ การทดสอบค่าที (t-test dependent)
นาย เทพรัตน์ ศรีคราม (2562). ภาวะผู้นำเหนือผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32. ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.
งานวิจัยจากเว็บไซต์ ERIC
1. The Relationship Between Principals' Technological Leadership Competence and School Effectiveness.
MİNAZ, M. B., ÖZEL, Y., & AY, M.
Abstract
The study results revealed no statistically significant difference in teachers’ perceptions of principals’ technological leadership and school effectiveness in terms of teachers’ gender, seniority, branch, working time at the current school, technological competence, and daily technology use. However, the findings showed a significant difference in the perceptions of technological leadership by age but not in the perceptions of school effectiveness. The analysis results revealed a strong or very strong correlation between the technological leadership and its sub-dimensions and the school effectiveness sub-dimensions. It was found that a positive increase in any sub-dimension of the technological leadership scale improved school effectiveness, and there was a significantly positive and very high relationship between school effectiveness and technological leadership. As technological leadership increased, so did school effectiveness. Accordingly, technological leadership explained 50.8% of the change in school effectiveness. Principals’ technological leadership, mediated by teachers' technological literacy, affected teaching and school effectiveness.
1. ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของผู้อำนวยการโรงเรียนและประสิทธิผลของโรงเรียน
MİNAZ, M. B., ÖZEL, Y., & AY, M.
บทคัดย่อ
ผลการศึกษาพบว่าไม่มีความแตกต่างทางสถิติที่สำคัญในการรับรู้ของครูเกี่ยวกับความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของผู้อำนวยการโรงเรียนและประสิทธิผลของโรงเรียนในแง่ของเพศ อาวุโส สาขา เวลาทำงานที่โรงเรียนปัจจุบัน ความสามารถด้านเทคโนโลยี และการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในการรับรู้ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีตามอายุแต่ไม่แตกต่างกันในการรับรู้ถึงประสิทธิผลของโรงเรียน ผลการวิเคราะห์เผยให้เห็นความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งหรือแข็งแกร่งมากระหว่างความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและมิติย่อยของความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีกับมิติย่อยของประสิทธิผลของโรงเรียน พบว่าการเพิ่มขึ้นในเชิงบวกในมิติย่อยใดๆ ของมาตราส่วนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีช่วยปรับปรุงประสิทธิผลของโรงเรียน และมีความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญและสูงมากระหว่างประสิทธิผลของโรงเรียนและความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี เมื่อความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น ประสิทธิผลของโรงเรียนก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีจึงอธิบายการเปลี่ยนแปลงในประสิทธิผลของโรงเรียนได้ 50.8% ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของผู้อำนวยการโรงเรียนซึ่งผ่านกระบวนการรู้หนังสือด้านเทคโนโลยีของครู ส่งผลต่อการสอนและประสิทธิผลของโรงเรียน
MİNAZ, M. B., ÖZEL, Y., & AY, M. (2022). The Relationship Between Principals' Technological Leadership Competence and School Effectiveness. Education Quarterly Reviews, 5(4), 39-57.
2. The Mediating and Moderating Effects of Knowledge Management in the Relationship between Technological Leadership Behaviors of School Principals and Data-Driven Decision-Making.
Çevik, Mehmet Sabir; Dogan, Emine
Abstract
The objective of this study is to contribute to the increasing database regarding the effects of school leadership on teachers’ data usage by investigating the relationship between the technological leadership behaviors of school principals and data-driven decision-making at their schools based on the mediating and moderating effects of the knowledge management variable. 408 teachers from 14 provinces of Turkey in the 2020-2021 academic year were included in the study. The School Principal Technological Leadership Competency Scale, the Knowledge Management Scale, and the Data-Driven Decision-Making in Schools Scale were used as data collection tools in this cross-sectional quantitative study. Descriptive statistics, correlation, and structural equation modeling (SEM) were used in data analysis. The study results demonstrate the school principals' practices of technological leadership, knowledge management at schools, and data-driven decision-making to be high. It has been found out in the study that knowledge management implementations play a mediating role in data-driven decision-making at schools by increasing the technological leadership competency levels of school principals, while not having a moderating effect on the relationship between technological leadership and data-driven decision-making. In addition, technological leadership and knowledge management have been identified to be significant and positive predictors of data-driven decision-making. Based on the study results, suggestions have been made to improve the technological leadership behaviors and knowledge management implementations of school principals at schools.
2. ผลการไกล่เกลี่ยและการปรับระดับของการจัดการความรู้ในความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีของผู้อำนวยการโรงเรียนกับการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูล
Çevik, Mehmet Sabir; Dogan, Emine
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้คือเพื่อสนับสนุนฐานข้อมูลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของความเป็นผู้นำในโรงเรียนต่อการใช้ข้อมูลของครู โดยการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีของผู้อำนวยการโรงเรียนกับการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลในโรงเรียนของตนโดยอิงจากผลกระทบที่ไกล่เกลี่ยและปรับระดับของตัวแปรการจัดการความรู้ ในปีการศึกษา 2020-2021 ครู 408 คนจาก 14 จังหวัดของตุรกีรวมอยู่ในการศึกษาครั้งนี้ ในการศึกษาเชิงปริมาณแบบตัดขวางนี้ใช้มาตราวัดความสามารถในการเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีของผู้อำนวยการโรงเรียน มาตราวัดการจัดการความรู้ และมาตราวัดการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลในโรงเรียนเป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล สถิติเชิงพรรณนา ความสัมพันธ์ และการสร้างแบบจำลองสมการโครงสร้าง (SEM) ถูกใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าแนวทางปฏิบัติของผู้อำนวยการโรงเรียนเกี่ยวกับความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี การจัดการความรู้ในโรงเรียน และการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลนั้นอยู่ในระดับสูง จากการศึกษาพบว่าการนำการจัดการความรู้ไปใช้มีบทบาทเป็นตัวกลางในการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลในโรงเรียน โดยเพิ่มระดับความสามารถในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ไม่มีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูล นอกจากนี้ ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและการจัดการความรู้ยังได้รับการระบุว่าเป็นตัวทำนายที่สำคัญและเป็นบวกสำหรับการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูล จากผลการศึกษา ได้มีการเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงพฤติกรรมความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและการนำการจัดการความรู้ไปใช้ของผู้อำนวยการโรงเรียนในโรงเรียน
Çevik, Mehmet Sabir; Dogan, Emine (2023). The Mediating and Moderating Effects of Knowledge Management in the Relationship between Technological Leadership Behaviors of School Principals and Data-Driven Decision-Making. Educational Policy Analysis and Strategic Research, v18 n1 p50-76 2023.
3. Investigation of School Administrators' Technological Leadership Behaviors in the Context of Teachers' Professional Development.
Işık, M.
Abstract
The objective of this research is to examine the influence of school principals' technological leadership practices on teachers' professional growth. In the contemporary educational landscape, principals' adeptness in technological leadership holds significant implications for fostering teachers' professional evolution. A mixed-method converging parallel design was employed in this study, facilitating both quantitative and qualitative data collection and analysis. The research sample comprised 418 teachers from various types of schools in Istanbul's districts of Beylikdüzü, Büyükçekmece, Silivri Avcılar, and Esenyurt during the spring term of the 2022-2023 academic year. Quantitative data were procured using the "School Principal Technological Leadership Behavior Scale (SPTLBS)" developed by Durnalı (2018). In contrast, qualitative data were gathered using an "Interview Form" curated by the researcher. Throughout the research process, the researcher ensured the participating teachers were fully informed about the measurement tool and their voluntary participation was respected. Descriptive statistical techniques, including arithmetic mean and inferential statistics, including t-tests, were used to analyze the quantitative data. For qualitative data analysis, the MAXQDA program was utilized. The study hypothesizes that school principals' technological leadership practices significantly impact teachers' professional development. Interestingly, the principals' technological leadership practices did not significantly vary according to the teachers' education level, age, tenure, or teaching field. In qualitative findings, participants suggested that the influence on teachers' professional development was jointly attributable to both the teacher and the principal.
3. การศึกษาพฤติกรรมความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษาในบริบทการพัฒนาวิชาชีพของครู
Işık, M.
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้คือการตรวจสอบอิทธิพลของแนวทางปฏิบัติด้านความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีของผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีต่อการเติบโตทางอาชีพของครู ในภูมิทัศน์การศึกษาในปัจจุบัน ความชำนาญของผู้อำนวยการโรงเรียนด้านความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมวิวัฒนาการทางอาชีพของครู การศึกษาครั้งนี้ใช้การออกแบบแบบคู่ขนานที่บรรจบกันแบบผสมผสานวิธี ซึ่งอำนวยความสะดวกในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ตัวอย่างการวิจัยประกอบด้วยครู 418 คนจากโรงเรียนประเภทต่างๆ ในเขต Beylikdüzü, Büyükçekmece, Silivri Avcılar และ Esenyurt ของอิสตันบูลในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีการศึกษา 2022-2023 ข้อมูลเชิงปริมาณได้รับโดยใช้ "School Principal Technological Leadership Behavior Scale (SPTLBS)" ที่พัฒนาโดย Durnalı (2018) ในทางตรงกันข้าม ข้อมูลเชิงคุณภาพรวบรวมโดยใช้ "แบบสัมภาษณ์" ที่จัดทำโดยนักวิจัย ตลอดกระบวนการวิจัย นักวิจัยได้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าครูที่เข้าร่วมได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมือวัดอย่างครบถ้วน และเคารพการมีส่วนร่วมโดยสมัครใจของพวกเขา เทคนิคสถิติเชิงพรรณนา รวมถึงค่าเฉลี่ยเลขคณิตและสถิติเชิงอนุมาน รวมถึงการทดสอบ t ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ จะใช้โปรแกรม MAXQDA การศึกษานี้ตั้งสมมติฐานว่าแนวทางปฏิบัติด้านความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีของผู้อำนวยการโรงเรียนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการพัฒนาวิชาชีพของครู ที่น่าสนใจคือ แนวทางปฏิบัติด้านความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีของผู้อำนวยการโรงเรียนไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามระดับการศึกษา อายุ ระยะเวลาการทำงาน หรือสาขาการสอนของครู ในผลการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้เข้าร่วมแนะนำว่าอิทธิพลต่อการพัฒนาวิชาชีพของครูนั้นเกิดจากทั้งครูและผู้อำนวยการโรงเรียนร่วมกัน
Işık, M. (2023). Investigation of school administrators' technological leadership behaviors in the context of teachers' professional development. Malaysian Online Journal of Educational Technology, 11(4), 238-257.