ระบบคลังสื่อดิจิทัล SPMNK หรือ SPMNK Digital Learning Hub  

          ระบบคลังสื่อดิจิทัล SPMNK หรือ SPMNK Digital Learning Hub เป็นแหล่งรวมสื่อการเรียนการสอน 

ของครูผู้สอนในสังกัด สพม.หนองคาย ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา(Anywhere Anytime) โดยมีจุดมุ่งหมาย

เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล

วัตถุประสงค์หลัก :

1. การเข้าถึงข้อมูลการเรียนรู้ที่สะดวกและยืดหยุ่น:

   • ผู้เรียนสามารถเข้าถึงสื่อการเรียนการสอนและบทเรียนต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นในห้องเรียนหรือที่บ้าน

   • สื่อการเรียนการสอนที่มีอยู่ในระบบสามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้เรียนและผู้สอน
     
     

2. การรวบรวมสื่อการเรียนการสอนที่หลากหลาย:

   • ระบบคลังสื่อดิจิทัลนี้มีการรวบรวมสื่อการสอนที่หลากหลาย เช่น วิดีโอการสอน, ใบงาน, สไลด์การสอน, แบบทดสอบ, และกิจกรรมการเรียนรู้ที่สามารถนำไปใช้ในกระบวนการเรียนการสอนได้

   • ให้ครูและผู้สอนสามารถแบ่งปันสื่อการสอนและเนื้อหาต่างๆ ให้กับผู้เรียนได้อย่างง่ายดาย
     
     

3. การสร้างห้องเรียนดิจิทัลที่มีความร่วมมือ:

   • สร้างพื้นที่ออนไลน์ที่ช่วยให้ครูและผู้เรียนสามารถเรียนรู้ร่วมกันได้ ผ่านการใช้สื่อดิจิทัลที่เหมาะสมกับการเรียนการสอนในแต่ละวิชา

   • ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันและการแบ่งปันความรู้จากครูหลายคนในหมวดหมู่ต่างๆ
     
     

4. พัฒนาการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ:

   • ผ่านการใช้สื่อดิจิทัลที่ทันสมัย ผู้เรียนจะได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาทักษะต่างๆ ทั้งในด้านการศึกษาและทักษะชีวิต รวมไปถึงการเรียนรู้จากการทำกิจกรรมหรือแบบทดสอบที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจ
     
     

5. การรองรับการเรียนรู้แบบยืดหยุ่น:

   • ระบบสามารถใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่จำกัดสถานที่หรือลงเวลา ให้ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนตามจังหวะของตนเอง โดยสามารถเข้าถึงเนื้อหาบทเรียนได้ตลอดเวลา

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

ครู

• เพิ่มประสิทธิภาพในการสอน: ครูสามารถเข้าถึงและใช้สื่อการเรียนการสอนที่หลากหลายและทันสมัย เพื่อปรับใช้ในการสอนตามความต้องการของนักเรียนแต่ละกลุ่ม

• แบ่งปันความรู้: ระบบช่วยให้ครูสามารถแชร์สื่อการเรียนการสอนกับเพื่อนครูคนอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย

• สนับสนุนการพัฒนาวิชาชีพ: ครูสามารถค้นหาแหล่งข้อมูลหรือสื่อการสอนใหม่ๆ เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะในการสอน

• ประหยัดเวลา: ครูไม่ต้องเสียเวลาในการหาสื่อการสอนแต่ละประเภทจากหลายแหล่ง แค่ใช้ระบบนี้เพื่อดึงข้อมูลและสื่อการสอนได้ทันที
  
  

นักเรียน

• การเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น: นักเรียนสามารถเข้าถึงสื่อการเรียนรู้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง จากทุกที่ทุกเวลา โดยไม่จำกัดสถานที่

• การเรียนรู้ที่หลากหลาย: นักเรียนสามารถเลือกเรียนจากสื่อการสอนที่หลากหลาย เช่น วิดีโอ, ใบงาน, เกมการศึกษา และแบบทดสอบ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในเนื้อหาวิชา

• เรียนรู้ด้วยตัวเอง: นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามจังหวะของตัวเอง และฝึกฝนทักษะต่างๆ โดยไม่ต้องรอการสอนในชั้นเรียน

• ความสนุกสนานในการเรียนรู้: ผ่านกิจกรรมหรือเกมการศึกษาที่จะทำให้การเรียนไม่น่าเบื่อและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
  
  

ผู้บริหารโรงเรียน

• การติดตามผลการเรียนการสอน: ผู้บริหารสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สื่อการเรียนการสอนและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนได้ง่ายขึ้น

• สนับสนุนการพัฒนาโรงเรียน: ผู้บริหารสามารถใช้ระบบคลังสื่อดิจิทัลเพื่อวางแผนการพัฒนาเนื้อหาการสอนและการเรียนการสอนในโรงเรียนให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น

• การจัดการที่ง่ายและสะดวก: การใช้ระบบดิจิทัลช่วยให้ผู้บริหารสามารถจัดการทรัพยากรการเรียนรู้และการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส

สำนักงานเขตพื้นที่

• ส่งเสริมการศึกษาในพื้นที่: เขตพื้นที่สามารถใช้ระบบคลังสื่อเพื่อกระจายแหล่งการเรียนรู้ไปยังโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ของตน ทำให้โรงเรียนในพื้นที่มีโอกาสเข้าถึงสื่อการสอนที่ทันสมัยและมีคุณภาพ

• พัฒนาระบบการศึกษาท้องถิ่น: ระบบช่วยให้การเรียนรู้ในเขตพื้นที่ต่างๆ มีมาตรฐานเดียวกัน โดยการใช้สื่อและเนื้อหาที่ได้รับการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ

• การจัดการที่สะดวก: เขตพื้นที่สามารถดูแลและติดตามการใช้สื่อการเรียนการสอนจากโรงเรียนในพื้นที่ได้ง่ายขึ้น และสามารถปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของพื้นที่ได้

1. หลักสูตรสถานศึกษา  

         การพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัย คลังสื่อดิจิทัลสามารถปรับปรุงและอัปเดตหลักสูตรการเรียนการสอนให้ทันกับความต้องการและมาตรฐานการศึกษา โดยเชื่อมโยงกับการศึกษาในยุคดิจิทัล ซึ่งทำให้การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากทุกที่ทุกเวลา และสามารถติดตามผลได้ง่าย

2. กระบวนการจัดการเรียนรู้

           การปรับวิธีการสอนให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ยุคดิจิทัล คลังสื่อดิจิทัลช่วยให้ครูสามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ในการสอน เช่น การใช้คลิปวิดีโอและสื่อการสอนดิจิทัลที่หลากหลาย โดยครูสามารถตรวจสอบและปรับปรุงวิธีการสอนผ่านข้อมูลที่สะสมในระบบ

3. ระบบนิเทศการศึกษา

           การติดตามและพัฒนาคุณภาพการสอนอย่างต่อเนื่อง คลังสื่อดิจิทัลสามารถเก็บข้อมูลการใช้สื่อการสอนและการจัดการเรียนการสอนของครู ซึ่งสามารถใช้ในการติดตามการพัฒนาครูและช่วยให้การนิเทศการศึกษามีประสิทธิภาพมากขึ้น  และช่วยพัฒนาคุณภาพการสอนของครูอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
           3.1 การติดตามการใช้สื่อการสอน
                  คลังสื่อดิจิทัลสามารถบันทึกการใช้สื่อการสอนของครู ซึ่งรวมถึง คลิปวิดีโอ, สไลด์, แบบฝึกหัดออนไลน์, หรือ สื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ การเก็บข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ผู้ที่ทำการนิเทศสามารถตรวจสอบได้ว่า ครูได้นำสื่อการสอนที่ทันสมัยและเหมาะสมกับเนื้อหามาใช้หรือไม่  เชื่อมโยงกับการนิเทศภายในโดย การติดตามการใช้สื่อการสอนเหล่านี้สามารถช่วยให้ผู้ที่ทำการนิเทศ (เช่น ผู้อำนวยการโรงเรียน หรือนักวิชาการ) ให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงและตรงประเด็นกับการใช้สื่อในการสอน เพื่อให้ครูสามารถปรับปรุงการใช้สื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเปรียบเทียบการใช้สื่อจากครูหลายคนได้ เพื่อสร้างมาตรฐานและการพัฒนาการสอนร่วมกัน
            3.2 การจัดการเรียนการสอน
                  คลังสื่อดิจิทัลช่วยให้ครูสามารถวางแผนการสอนอย่างมีระบบ โดยสามารถจัดเก็บแผนการสอนและข้อมูลการเรียนการสอนที่ได้ทำไปแล้ว เช่น แบบฝึกหัด, ผลการทดสอบ, การประเมินผลของนักเรียน เป็นต้น สามารถเชื่อมโยงกับการนิเทศภายใน เมื่อข้อมูลเหล่านี้ได้รับการบันทึกในระบบแล้ว          ผู้ที่ทำการนิเทศสามารถเข้ามาตรวจสอบและให้คำแนะนำในการปรับปรุงการสอนในพื้นที่ที่ครูอาจต้องการการสนับสนุน เช่น การจัดกิจกรรมการเรียนรู้หรือวิธีการสอนที่เหมาะสมกับผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น การมีข้อมูลการเรียนการสอนที่เป็นระบบยังช่วยให้การนิเทศการศึกษามีประสิทธิภาพ เนื่องจาก     ผู้ที่ทำการนิเทศสามารถดูพัฒนาการของครูในระยะยาว และทำการสนับสนุนหรือปรับปรุงแนวทางการสอนได้ตรงจุด
            3.3 การปรับปรุงและพัฒนาการสอนอย่างต่อเนื่อง
                  คลังสื่อดิจิทัลมีเครื่องมือที่ช่วยให้ครูสามารถดูข้อมูลย้อนหลังของการสอน การประเมินผล และการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ซึ่งทำให้ครูสามารถพัฒนาการสอนของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงกับการนิเทศภายใน โดยข้อมูลที่สะสมในคลังสื่อดิจิทัลนี้สามารถใช้เป็นตัวชี้วัดในการประเมินการพัฒนาคุณภาพการสอน โดยการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการนิเทศ เพื่อให้ครูได้รับคำแนะนำในการปรับปรุงการสอนตามผลการประเมินหรือความคิดเห็นจากผู้ที่ทำการนิเทศ
            3.4 การเชื่อมโยงกับระบบการนิเทศออนไลน์
                    คลังสื่อดิจิทัลสามารถทำให้ผู้นิเทศ นิเทศ ติดตามและการประเมินผลการสอนเป็นไปได้แบบเรียลไทม์ ข้อมูลจากคลังสื่อดิจิทัลสามารถส่งตรงไปยังผู้ที่ทำการนิเทศเพื่อติดตามสถานะการพัฒนาการสอนของครู และทำการประเมินผลการสอนได้ทันที และเชื่อมโยงกับการนิเทศภายใน ซึ่งผู้ที่ทำการนิเทศสามารถใช้ข้อมูลที่ได้รับจากระบบนี้ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการฝึกอบรมหรือการพัฒนาเพิ่มเติมที่ครูต้องการ เพื่อให้การนิเทศและการพัฒนาครูมีความชัดเจนและตรงจุด

4. การขับเคลื่อน PLC (Professional Learning Community)

           การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ คลังสื่อดิจิทัลสามารถเปิดช่องทางให้ครูแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แผนการสอน และสื่อการสอนที่ใช้ในการสอน ส่งผลให้การสร้างชุมชนการเรียนรู้และการพัฒนาวิชาชีพมีความเข้มแข็ง

5. การดำเนินโครงการนโยบายสำคัญ

           การขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาในรูปแบบดิจิทัล คลังสื่อดิจิทัลสามารถสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาทั้งในระดับโรงเรียนและในระดับที่สูงขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีในการจัดการข้อมูลการเรียนการสอนและการประเมินผลการเรียนรู้