คำถาม ที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเอกซเรย์
คำถาม ที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเอกซเรย์
ถาม การเอกซเรย์ คืออะไร ?
ตอบ คือ การใช้รังสีเอ็กซ์เป็นตัวกลางในการฉายภาพถ่ายอวัยวะภายใน เพื่อให้แพทย์ตรวจเช็คสภาพการทำงานผิดปกติอวัยวะภายในของผู้ป่วย โดยวิธีการทำงานของรังสีนี้ เมื่อถูกฉายไปยังส่วนร่างกายในระหว่างการบันทึกภาพ ตัวเนื้อเยื่อของร่างกายที่ถูกจับฉายไว้นั้น จะทำการดูดซึมรังสีเอ็กซ์แล้วบันทึกภาพลงในแผ่นรับภาพ จากนั้นจะเกิดภาพ ดำ เทา หรือ ขาว ในส่วนบริเวณที่ถูกถ่าย โดยความเข้มข้นของสีภาพถ่าย จะเป็นตัวบ่งชี้ลักษณะโครงสร้างอวัยวะ แต่ละส่วน
ถาม การเอกซเรย์บ่อยๆอันตรายหรือไม่ ?
ตอบ การเอกซเรย์โดยทั่วไปมีความปลอดภัย เพราะร่างกายจะได้รับรังสีเอ็กซ์ในปริมาณน้อยมาก ความเสี่ยงการเกิดมะเร็งจากการเอกซเรย์มีน้อยมาก อีกทั้งในปัจจุบันมีการเฝ้าระวังและแนะนำให้ใช้ปริมาณรังสีที่น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในการตรวจผู้ป่วยแต่ละครั้ง ทางเจ้าหน้าที่รังสีได้ระมัดระวัง และดูแลผู้ป่วยให้เป็นไปตามมาตรฐานอย่างปลอดภัยที่สุด
ถาม การเอกซเรย์ทั่วไปรอผลนานหรือไม่ ?
ตอบ ระยะเวลาในการเอกซเรย์จะใช้เวลาน้อยมากในแต่ละครั้ง ประมาณ 1-2 นาที จะมีการจัดท่าทางให้ผู้เข้ารับการตรวจเพื่อให้อยู่ในท่าที่เหมาะสม อาจอยู่ในท่านั่ง ยืน หรือนอนหงาย ทั้งนี้ ผู้เข้ารับการตรวจจะต้องอยู่ให้นิ่งที่สุดเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ บางครั้งอาจต้องทำหลายครั้งจนกว่าจะได้ภาพที่สมบูรณ์ที่สุด
ถาม หญิง ตั้งครรภ์ เอกซเรย์ร่างกายได้หรือไม่ ?
ตอบ การเอกซเรย์ในขณะตั้งครรภ์สามารถส่งผลกับทารกในครรภ์ได้ ขึ้นอยู่กับปริมาณของรังสีและอายุครรภ์ ซึ่งผลกระทบที่อาจเกิดกับทารกในครรภ์ ได้แก่ การแท้งบุตร ภาวะเติบโตช้า อวัยวะต่าง ๆ พิการแต่กำเนิด ศีรษะเล็กกว่าปกติ ปัญญาอ่อน ฯลฯ ดังนั้น จึงควรแจ้งเจ้าหน้าที่หรือแพทย์หากกำลังตั้งครรภ์หรือสงสัยว่ามีการตั้งครรภ์ก่อนการเอกซเรย์
คำถาม ที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
( Computer Tomography : CT Scan)
ถาม การเอกซเรย์ด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan)
ตอบ การใช้รังสีเอ็กซ์ในการฉายไปยังอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทั้งหมดที่ต้องการจะตรวจ แล้วหลังจากทำการฉายเสร็จเรียบร้อย คอมพิวเตอร์จะทำการสแกนและประมวลผลภาพฉายลงในระบบดิจิตอลหรือแสดงเป็นภาพถ่ายแบบ 3 มิติ ในการโชว์รูปกับคนไข้ โดยรังสีแพทย์จะทำการตรวจเช็คบริเวณส่วนทรวงอกแบบเชิงลึก เพื่อทำการดูสภาพการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย
ถาม การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์มีอันตรายจากการตรวจหรือไม่ ?
ตอบ
การได้รับรังสีเข้าสู่ร่างกาย อาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพจากการได้รับรังสีมากเกินไป แต่ยังไม่พบว่าการทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จะส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายในระยะยาวได้ และด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบัน มีโอกาสที่ผู้ป่วยจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งจากรังสีในการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์น้อยมาก อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งในผู้ป่วยที่ทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อผู้ป่วยเป็นเด็ก หรือเด็กโต และผู้ที่เข้ารับการตรวจด้วยการฉายรังสีเป็นประจำ
ปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารทึบรังสี มีโอกาสที่ผู้ป่วยที่ต้องใช้สารทึบรังสีจะมีอาการแพ้หลังจากได้รับสารเข้าสู่ร่างกาย เช่น มีผดผื่นคัน หายใจติดขัด ปวดท้อง ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ เป็นต้น
เสี่ยงเกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ รังสีจากการสแกนอาจกระทบต่อทารกในครรภ์และทำให้เกิดความผิดปกติซึ่งเป็นอันตรายต่อเด็กที่จะเกิดมา หากผู้ป่วยตั้งครรภ์ แพทย์จะแนะนำให้ใช้วิธีการอื่นในการตรวจวินิจฉัย
เสี่ยงเกิดอันตรายต่อทารกแรกเกิด สารทึบแสงที่อยู่ภายในร่างกายอาจส่งผ่านไปยังทารกในขณะที่ผู้ป่วยให้นมบุตร ทำให้เด็กมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพจากการได้รับสารทึบรังสีเข้าสู่ร่างกาย
ถาม ผู้ป่วยประเภทใดที่มีความเสี่ยงต่อการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
ตอบ การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จำเป็นต้องฉีดสารทึบรังสี ซึ่งมีข้อควรระวังในผู้ป่วยโรคไต โรคหอบหืด การใช้ยาบางชนิด หรือมีประวัติแพ้สารทึบรังสี สำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงที่กล่าวมาข้างต้น ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ในวันที่มาทำการนัดหมายหรือก่อนการตรวจ โดยแพทย์จะทำการเตรียมตัวผู้ป่วยก่อนทำการตรวจให้เหมาะสม
ถาม ขณะมานัดตรวจช่องท้องส่วนล่างเพื่อดูลำไส้จะมียาให้รับประทาน คือยาเม็ด 2 เม็ด ยาน้ำ 1 ขวด ยานี้คือยาอะไร ทำไมต้องรับประทาน ?
ตอบ ยาเม็ดเป็นยาระบายและยาน้ำคือน้ำมันละหุ่ง ซึ่งเป็นยากระตุ้นการขับถ่ายเพื่อเตรียมลำไส้ไม่ให้มีเศษอุจจาระเหลือตกค้างในลำไส้ รับประทาน 2 วันก่อนการตรวจ โดยรับประทานยาเม็ด 1 เม็ด ยาน้ำครึ่งขวด ต่อวันหลังอาหารเช้าหรือเย็น
ถาม ต้องใช้เวลาในการตรวจนานเท่าไหร่
ตอบ การตรวจแต่ละส่วนจะใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที แล้วแต่ระบบอวัยวะที่ตรวจในขณะทำการตรวจ
ถาม เหตุใดจึงเจาะเลือดก่อนทำการตรวจเอกซเรย์พิวเตอร์
ตอบ เพื่อดูค่าการทำงานของ ไต ก่อนได้รับสารทึบรังสี
ถาม ต้องทำตัวอย่างไร ขณะที่ทำการตรวจและนอนนิ่งแค่ไหน
ตอบ ผู้รับบริการต้องนอนนิ่ง ๆ ในท่าที่สบาย โดยเจ้าหน้าที่ประจำห้องจะเป็นผู้จัดท่าให้ ในกรณีผู้ที่ทำการตรวจระบบช่องท้องส่วนล่างและช่องท้องทั้งหมด เจ้าหน้าที่อาจจะทำการสวนน้ำ หรือสารทึบรังสีผสมน้ำเข้าทางทวารหนัก เพื่อช่วยในการแสดงตำแหน่งของลำไส้ใหญ่แยกออกจากอวัยวะใกล้เคียงในบริเวณที่ตรวจ ร่วมกับการฉีดสารทึบรังสีเข้าสู่เส้นเลือด พร้อมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เช่น การหายใจเข้า-ออก และการกลั้นหายใจ เพื่อให้ได้ภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ชัดเจน (ไม่เกิดภาพไหวเพราะการหายใจ)
ถาม สารทึบรังสีคืออะไร อันตรายหรือไม่ อาการข้างเคียงมีอะไรบ้าง
ตอบ สารทึบรังสีคือสารที่ใช้ในการวินิจฉัยทางรังสี เพื่อให้เกิดความแตกต่างของสารทึบต่อรังสีเอกซ์ ระหว่างอวัยวะที่ต้องการตรวจได้ชัดเจน เป็นสารประกอบของไอโอดีนกับอินทรีย์สาร มีอยู่ 2 ชนิดคือ
ชนิดแตกตัวเป็นประจุ มีราคาถูก
ชนิดไม่แตกตัวเป็นประจุ มีราคาสูงเกิดอาการข้างเคียงน้อยกว่าชนิดแตกตัวเป็นประจุ
แต่ทั้ง 2 ชนิด ยังทำให้เกิดอาการแพ้ได้ การเลือกชนิดของสารทึบรังสี อยู่ในดุลพินิจของรังสีแพทย์
อาการข้างเคียง
อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยหลังฉีดสารทึบรังสีได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ผื่นแดง เจ็บปวดและร้อนทั่วร่างการ อาการดังกล่าวจะบรรเทาลงหลังฉีดสารทึบรังสี อาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ คือ หนาวสั่น มีไข้เหงื่อออก ปวดศีรษะมึนงง อ่อนเพลีย ความดันโลหิตผิดปกติ อาการคัน ลมพิษ จาม ไอ จนถึงอาการสิ้นสติได้ ซึ่งอาการแพ้จนสิ้นสตินี้เกิดขึ้นได้น้อยมาก ซึ่งโดยปกติรังสีแพทย์ บุคลากรทางรังสี และพยาบาล จะคอยดูแลและระงับอาการแพ้สารทึบรังสีขั้นต้นก่อนที่จะเกิดการแพ้ขั้นรุนแรงต่อไป