ชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ ๖๐ พรรษา และหนังสือชุดกิจกรรมการเรียนรู้ (ใบงาน)
กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3
ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชหฤทัยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมเด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษาพระองค์ได้ทรงดำเนินโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร มาเป็นเวลากว่า ๓๐ ปี จนถึงปัจจุบันปีการศึกษา ๒๕๕๖ มีโรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริที่อยู่ในแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามสังกัดต่างๆ จำนวนทั้งสิ้น ๗๘๘ โรงเรียน นักเรียน จำนวน ๑๑๙,๓๘๔ คน และครูจำนวน ๖,๕๙๒ คนในพื้นที่ ๑๕๙ อำเภอ ๔๖ จังหวัด รวมทั้งได้ขยายโครงการไปยังประเทศต่างๆ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐอินโดนีเซีย มองโกเลีย ราชอาณาจักรภูฏาน สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ ราชอาณาจักรเลโซโท ราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต และสาธารณรัฐฟิลิปปินส์
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชกระแสฯ ว่าปัจจุบันสภาพการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก ต้องเผชิญกับความยากลำบากหลายประการ อาทิ นักเรียนขาดเป้าหมายทางการเรียน ครูมีไม่ครบชั้นและโอนย้ายสูง ครูมีภาระงานด้านการสอนและด้านอื่นๆ มาก ทำให้ไม่มีเวลาเตรียมการสอน ครูบางส่วนขาดประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้สื่อการเรียนการสอนมีไม่เพียงพอ เป็นต้น จึงส่งผลให้การจัดการเรียนรู้ของนักเรียนไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำจำนวนมาก รวมทั้งปรากฏให้เห็นว่านักเรียนมีแนวโน้มอ่านไม่ออก เขียนและคิดคำนวณไม่ได้เพิ่มขึ้น ตลอดจนมีการออกกลางคันในแต่ละปีการศึกษาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้มีแนวพระราชดำริให้พัฒนาชุดการจัดการเรียนรู้เพื่อตอบสนองต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนขนาดเล็กขึ้น
ในการจัดทำสื่อ ๖๐ พรรษาฯ นั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริให้พิจารณาประสบการณ์การใช้สื่อและวิธีการจัดการเรียนการสอนในประเทศไทยเพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสม เช่น สื่อ RIT (Reduced Instruction Time) วิธีสอนพื้นฐานการอ่าน การเขียน การคัดลายมือการคิดเลขเร็วและการท่องจำ ฯลฯ รวมทั้งสื่อการเรียนการสอนของต่างประเทศที่ใช้ได้ผล ทั้งนี้มีความคาดหวังว่า หากครูในโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็กได้ใช้ชุดการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว จะเป็นปัจจัยสำคัญให้โรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็กมีประสิทธิภาพการจัดการศึกษา และที่สำคัญคือจะส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในระดับที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ครูจะสามารถลดเวลาในการจัดหาสื่อการเรียนการสอนด้วยตนเองและ มีความมั่นใจในการเตรียมการสอนมากขึ้น อีกทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกให้ครูได้จัดกิจกรรมอย่างหลากหลาย ทั้งกิจกรรมรวมชั้น กิจกรรมกลุ่มย่อย กิจกรรมจับคู่ และกิจกรรมเดี่ยว ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนได้เรียนรู้ ตามระดับชั้น ระดับพื้นฐานความรู้และศักยภาพ ตลอดจนความสนใจได้อย่างเต็มที่
อ้างอิง : เอกสาร/เนื้อหาในเว็บไซต์
https://sites.google.com/a/chiangmaiarea1.go.th/sux-60-phrrsa-smdec-phra-theph/rwm-sux60-phrrsa
https://www.scimath.org/60phransaipst