St. Gallen เป็นเมืองทางตอนเหนือของประเทศ Switzerland ที่ได้รับชื่อมาจากนักบุญ Gallus ที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในชุมชนเล็กๆเมื่อศตวรรษที่ 7 เมือง St. Gallen มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวและเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของประเทศ Switzerland โดยมหาวิหาร Abbey of Saint Gall ที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมือง ภายนอกของมหาวิหารอาจจะดูธรรมดาไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่การตกแต่งภายในมหาวิหารนั้นอลังการงานสร้างมากจริงๆครับ สามารถนั่งชมงานศิลปะตามผนังและเพดานได้เป็นชั่วโมงๆ

นอกจากตัวมหาวิหารแล้ว จุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดอีกแห่งคือห้องสมุดของมหาวิหาร (Abbey Library) ซึ่งมีชื่อที่อ่านยากมากๆว่า Stiftsbibliotek ห้องสมุดแห่งนี้มีหนังสือและเอกสารสำคัญที่มีอายุเกิน 1000 ปีอยู่หลายเล่มพร้อมด้วยการตกแต่งที่สวยงามทำให้องค์กร UNESCO มอบตำแหน่งมรดกโลกให้กับห้องสมุดแห่งนี้ครับ การเข้าไปเยี่ยมชมต้องเสียเงินค่าเข้าและห้ามถ่ายรูปครับ บัตรผ่านทางยังสามารถเข้าไปเยี่ยมชมชั้นใต้ดินของมหาวิหารด้วย

มหาวิหารซังกัลเลน Stiftskirche St.Gallen Cathedral และห้องสมุด Abbey Library


อารามแห่งเซนต์กอลล์ (Abbey of St. Gall) เป็นสถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซังคท์กัลเลินที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ ชื่นชมความงามของมหาวิหารสไตล์บาโรก ชมการจัดแสดงเอกสารโบราณในห้องสมุด และเดินท่องไปในอารามเหมือนกับนักพรตในยุคกลาง อารามแห่งเซนต์กอลล์มีการกล่าวถึงเป็นครั้งแรกตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 8 ที่นี่เจริญรุ่งเรืองในฐานะอารามจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นของฆราวาสในปี 1805 ต่อมาในปี 1983 อารามทั้งบริเวณได้เป็นอนุสรณ์สถานที่ได้รับความคุ้มครองโดยได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การ UNESCO

มหาวิหารซังคท์กัลเลินนั้นตั้งตระหง่านอย่างงดงามในบริเวณอาราม ชื่นชมหน้าต่างโค้ง หน้าจั่ว เสาอิง และหอคอยคู่ที่ส่วนหน้าของอาคาร ก้าวเข้าสู่ด้านในผ่านประตูทางเข้าที่ผนังทางทิศเหนือ และชมรูปปั้นที่ตั้งอยู่ในช่องเว้าต่างๆ ภายในโบสถ์ นักท่องเที่ยวจะพบกับแท่นบูชาหลักที่ประดับตกแต่งด้วยทอง รวมถึงรูปสลักอันวิจิตรมากมาย


ไปเยือนห้องสมุดอารามแห่งเซนต์กอลล์ ซึ่งเป็นห้องสมุดสาธารณะที่สามารถยืมหนังสือได้ โดยมีหนังสือและต้นฉบับตัวเขียนกว่า 170,000 รายการ ซึ่งรวมถึงต้นฉบับตัวเขียนภาษาไอร์แลนด์สมัยศตวรรษที่ 7 ไปจนถึงคัมภีร์ไบเบิลภาษาเยอรมัน และบทกวีโดยนักพรตผู้เป็นที่เคารพอย่าง รัทเพิร์ท ลองมองหาแบบเขียนอารามต้นฉบับของสถาปนิก และมัมมี่อียิปต์อายุ 2,700 ปี สังเกตการตกแต่งภายในแบบบาโรกโรโกโก ซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องเรือนไม้ขัดเงา แหงนมองภาพปูนเปียกบนเพดานโดยจิตรกรชาวชเวเบีย โยเซฟ วันเนนมาเคอร์

เดินเล่นในสวนของอารม แล้วลองจินตนาการถึงชีวิตในอารามในที่แห่งนี้เป็นเวลากว่า 12 ศตวรรษ ชมวังแบบบาโรกของบิชอปแห่งซังคท์กัลเลินทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงสำนักงานของรัฐซังคท์กัลเลิน ภายนอกทางเข้าด้านทิศเหนือของอารามนั้นเป็นที่ตั้งของโบสถ์ซังคท์เลาเรนเซิน ซึ่งมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแตกต่างจากมหาวิหารอย่างน่าสนใจ

อารามแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองของซังคท์กัลเลิน นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายในบริเวณใกล้เคียง เช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะซังคท์กัลเลิน และพิพิธภัณฑ์สิ่งทอ เดินบนถนนรอบอารามเพื่อชมตัวอย่างบ้านของชาวเมืองที่ก่อสร้างในช่วงยุค 1500 และยุค 1700

อารามแห่งซังคท์กัลเลินเปิดให้เข้าชมทุกวันและมีค่าธรรมเนียมเข้าชม นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเครื่องบรรยายออดิโอไกด์เพื่อรับฟังคำบรรยายเกี่ยวกับอาราม

เเผนที่